Skip to main content
sharethis

นายกฯ ระบุ ทัศนศึกษาเป็นการเปิดโลกให้กับเด็กๆ ไม่ได้ทำร้ายเด็ก สภาพรถที่ไม่พร้อมที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ กำชับกระทรวงคมนาคมตรวจสภาพรถโดยสารทุกประเภท ทุกขนาด พร้อมวางกรอบรถเดินทางไกลให้ชัดเจน ซักซ้อมความปลอดภัยเช่นเดียวกับเครื่องบิน

 

2 ต.ค. 2567 เวลา 12.00 น. ห้องรับรอง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ก่อนที่จะออกเดินทางเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 (3rd Asia Cooperation Dialogue: ACD) ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียนเกิดเหตุเพลิงไหม้

พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ทั้ง 22 ศพ ทางสถาบันนิติเวชได้ตรวจอัตลักษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงรายสุดท้ายที่ญาติต้องการมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง แต่ความจริงได้พิสูจน์ผ่านทางพี่สาวทั้งหมดแล้ว คาดว่าเวลา 15.00 น. วันนี้ (2 ต.ค. 2567) การตรวจอัตลักษณ์ทั้งหมดจะเสร็จสิ้น จากนั้นประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรถขบวน เพื่อนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับภูมิลำเนา ส่วนคนขับตอนนี้ได้ควบคุมตัวอยู่ที่ สถานีตำรวจภูธรคูคต เพื่อทำการสอบสวนต่อไป

ภายหลังการประชุมนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ได้รับทราบรายงานจากตำรวจที่มีความคืบหน้าการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล จากนั้นจะลำเลียงส่งศพกลับจังหวัดอุทัยธานี ขณะที่กระทรวงคมนาคมมีมาตรการเยียวยา และการตรวจสอบ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขนส่ง โดยเรื่องนี้จะต้องประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งนักจิตแพทย์ลงไปในพื้นที่ โดยได้แบ่งการทำหน้าที่กระจายไปให้ครอบคลุม ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วมากพอสมควร ส่วนที่มีข้อเสนอว่าอยากให้รถโรงเรียนในไทยใช้เหมือนกับรถโรงเรียนในประเทศยุโรป นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ได้พูดคุยกับกระทรวงคมนาคมแล้ว ต้องวางแผน พร้อมย้ำว่าการทัศนศึกษาเป็นการเปิดโลกให้กับเด็ก ไม่อยากแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็ก แต่รถที่ไม่มีการดูแล หรือถูกตรวจสอบสภาพ คือสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งเรื่องนี้ต้องแก้ปัญหา ทั้งในส่วนของกระทรวงคมนาคมจะวางกฎและกรอบอย่างไร ดังนั้นจะใช้โอกาสนี้มาวางแผน วางระบบให้ชัดเจนมากขึ้นได้

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รถทุกคันก่อนที่รถจะออกเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางไกล ต้องตรวจสอบสภาพ และต้องมีสภาพที่พร้อมออกเดินทาง พร้อมกำชับให้วางแนวปฏิบัติ ในการเดินทาง จะต้องมีการซักซ้อมความปลอดภัย และคำแนะนำในการปฏิบัติตนเช่นเดียวกับการโดยสารเครื่องบิน

ทั้งนี้ ให้บังคับใช้แนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด กำชับให้กระทรวงคมนาคมเรื่องตรวจสภาพรถโดยสารจะต้องไม่ไช่เฉพาะรถบัส ต้องรวมไปถึงรถโดยสารทุกประเภท ทุกขนาด รวมถึงตรวจความพร้อมของบุคคลผู้ขับขี่ ผู้ช่วยประจำรถด้วย

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net