ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 1 ปี 7 เดือน “ฮ่องเต้” ธนาธร ในคดี ม.112 - พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จากการปราศรัยในม็อบ “ล้านนาต้านศักดินาทัวร์” เมื่อปี 64 ศาลอุทธรณ์ระบุ ศาลชั้นต้นกำหนดอัตราโทษขั้นต่ำแล้ว และจำเลยปราศรัยต่อหน้าผู้ชุมนุม เป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ไม่เห็นสมควรให้รอการลงโทษ ในนัดก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้ไม่ได้มาศาล ทำให้ตอนนี้ศาลออกหมายจับไว้
9 ต.ค. 2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงาน ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืนจำคุก 1 ปี 7 เดือน “ฮ่องเต้” ธนาธร วิทยเบญจางค์ บัณฑิตจากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในคดี ม.112 และ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จากกรณีปราศรัยในกิจกรรม “ล้านนาต้านศักดินาทัวร์” เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2564
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดอัตราโทษขั้นต่ำแล้ว และจำเลยปราศรัยต่อหน้าผู้ชุมนุม เป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ไม่เห็นสมควรให้รอการลงโทษ ในนัดก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้ไม่ได้มาศาล ทำให้ศาลออกหมายจับไว้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ฮ่องเต้ถูกฟ้องในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เหตุจากกรณีอ่านแถลงการณ์และปราศรัยมีเนื้อหาเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ระหว่างกิจกรรมคาร์ม็อบเชียงใหม่ “ล้านนาต้านศักดินาทัวร์” ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2564 คดีนี้มีว่าที่ พ.ต.ท.เฉลิมพล บุญทาวัน เป็นผู้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ และฮ่องเต้ได้เข้ารับทราบข้อหาตามหมายเรียกที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2564 โดยในตอนแรกมีการแจ้งข้อกล่าวหาเฉพาะเหตุการณ์ที่ธนาธรปราศรัยมีเนื้อหากล่าวถึงรัชกาลที่ 10 ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
ต่อมา วันที่ 19 พ.ย. 2564 พนักงานอัยการได้สั่งฟ้องคดีนี้ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยฟ้องใน 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยจัดการชุมนุมรวมกลุ่มกันเกินกว่า 20 คน อันเป็นความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค และข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งแยกเป็น 2 กระทง ได้แก่ กรณีการอ่านแถลงการณ์ที่หน้าตำรวจภูธรภาค 5 และการปราศรัยที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)