Skip to main content
sharethis

อัยการเตรียมสั่งฟ้อง 2 เยาวชน ‘บางกลอยคืนถิ่น’ พื้อกีดี้ จีโบ้ง และตาเปอะเลอะ แครจี ต่อศาลในวันพรุ่งนี้ เหตุกลับขึ้นไปอยู่บ้านบางกลอยบนหลังถูกอุทยานอพยพโยกย้าย ก่อนหน้านี้พีมูฟได้มีการยื่นหนังสือถึง ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเจรจากันถึงกรณีดำเนินคดีเยาวชนทั้ง 2 คน จนได้ข้อสรุปที่น่าพอใจแล้ว แต่อัยการศาลเยาวชน จ.เพชรบุรี ยืนยันสั่งฟ้อง

9 ต.ค. 2567 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟรายงาน นิติกรสำนักงานอัยการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี จะดำเนินการสั่งฟ้องคดีเยาวชนบางกลอย 2 คนต่อศาล ในวันพรุ่งนี้ (10 ต.ค. 2567)แม้ทางกลุ่ม ‘บางกลอยคืนถิ่น’ และพีมูฟจะได้เข้ายื่นหนังสือถึง ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และได้เจรจาจนมีข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2567 แล้วก็ตาม

คดีนี้สืบเนื่องจากกรณีปัญหาของชุมชนกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย หมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และได้ถูกอพยพโยกย้ายชุมชนจากบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน ตั้งแต่ปี 2539 จนถึงยุทธการตะนาวศรีในช่วงปี 2553-2554 ซึ่งเป็นต้นเหตุของการขาดที่ดินทำกิน การสูญเสียวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ไม่สามารถทำกินในรูปแบบไร่หมุนเวียนได้ กระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของชุมชน จนทำให้ชาวบ้านบางกลอยในนาม ‘บางกลอยคืนถิ่น’ ตัดสินใจกลับขึ้นไปทำกินที่บ้านบางกลอยบนอีกครั้งเมื่อต้นปี 2564 จนถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับกุมดำเนินคดีทั้งสิ้น 28 รายนั้น ซึ่งรวมถึงเยาวชนชาวบางกลอย 2 คน ได้แก่ พื้อกีดี้ จีโบ้ง และตาเปอะเลอะ แครจี ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาอัยการอัยการเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรียืนยันว่าจะเร่งส่งฟ้องต่อศาลมาโดยตลอด แต่ก็สามารถเลื่อนการส่งฟ้องไปได้จากการประสานงานเพื่ออำนวยความเป็นธรรมของกระทรวงยุติธรรม

โดยเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2567 ระหว่างที่กลุ่มบางกลอยคืนถิ่นได้ชุมนุมที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับพีมูฟ ก็ได้ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่

1. ขอให้ยุติการดำเนินคดีต่อชาวบ้านบางกลอย เนื่องจากการขึ้นไปในพื้นที่เดิมเป็นไปตามข้อตกลงของหน่วยงานรัฐที่ไปนำชาวบ้านออกจากพื้นที่ว่าหากไม่สามารถอยู่ได้ข้างล่างก็สามารถกลับไปอยู่ที่เดิมได้ การกลับไปของชาวบ้านเป็นการกลับไปในที่เดิมที่เคยอยู่ซึ่งเป็นการอยู่มาก่อนแล้ว อันเป็นการรับรองสิทธิในที่ดินของชาวบ้าน

2. หากยังไม่อาจจะยุติการดำเนินการได้ในทันที ขอให้มีการสั่งให้ชะลอการดำเนินคดีต่อชาวบ้าน โดยเฉพาะกรณีเร่งด่วนที่อัยการเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรีจะส่งฟ้องเยาวชนทั้ง 2 คนต่อศาลในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 เพื่อให้การแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอของคณะกรรมการที่ได้มีการนำเสนอให้มีการทดลองการกลับไปอยู่ในพื้นที่เดิม และหากดำเนินการแล้วเป็นผลอย่างไรก็นำมาใช้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหา เพื่อนำเป็นเหตุในการสั่งยุติคดี เนื่องจากไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะในการดำเนินคดีกับชาวบ้านต่อไป

3. ขอให้ท่านได้ทำหนังสือถึงสำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี และสำนักงานเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี เพื่อให้ดำเนินการชะลอการดำเนินคดีออกไป เนื่องจากคดีมีอายุความถึง 10-20 ปี ดังนั้น การชะลอการดำเนินคดีไปก่อนเพื่อแก้ไขในทางรัฐศาสตร์และแก้ปัญหาให้เกิดความมั่นคงต่อการคุ้มครองชีวิตของชุมชนที่กลุ่มด้อยโอกาสในสังคมเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

ขณะนี้พีมูฟได้แจ้งความเคลื่อนไหวของอัยการให้ทางกระทรวงยุติธรรมรับทราบเรียบร้อยแล้ว และกำลังจับตาว่าทางกระทรวงจะมีท่าทีอย่างไร รวมถึงพีมูฟยังยืนยันปักหลักชุมนุมอย่างไม่มีกำหนดต่อไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเร่งรัดให้รัฐบาลตอบรับข้อเรียกร้องการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ซึ่งรวมถึงเรื่องคดีความของชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยด้วย

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net