Skip to main content
sharethis

"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ลงพื้นที่แหลมตะลุมพุกมอบถุงยังชีพ พร้อมเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต และกำชับเจ้าหน้าที่เร่งแจ้งเตือนภัยประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ที่เสี่ยงดิน โคลนถล่ม

ที่มาของภาพ: ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล

ศูนย์สื่อทำ้เนียบรัฐบาล รายงานว่า เมื่อวานนี้ (30 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ซึ่งประกอบด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.สัดส่วน ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพงัน และอำเภอท่าศาลาเพื่อแจกถุงยังชีพ และมอบเงินเยียวยาให้กับญาติผู้เสียชีวิตครอบครัวละ 50,000 บาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนว่า ขอให้ประชาชนติดตามการเตือนภัยของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา พร้อมชี้แจงถึงความล่าช้าที่ยังจ่ายค่าเงินชดเชยเงินจำนวน 5,000 บาทให้กับครอบครัวที่ประสบอุทกภัย ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาว่า เนื่องจากมีปัญหาเรื่องรายชื่อที่ซ้ำซ้อน จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ยืนยันว่าจะเร่งรัดช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และเท่าที่ได้รับรายงาน ได้มีการจ่ายไปแล้วร้อยละ 70 - 80

ทั้งนี้ ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีและคณะได้ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วม มีชาวบ้านแหลมตะลุมพุกฝั่งทะเล ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ให้เร่งแก้ปัญหา เนื่องจากมีชาวบ้านกว่า 250 ครัวเรือน ได้รับความเดือนร้อนจากการถูกน้ำทะเลกัดเซาะ โดยต้องการขอย้ายไปอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับเรื่องไว้และจะนำไปหารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม เพราะต้องผ่านการพิจารณาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และต้องขอยกเว้นในการใช้พื้นที่โดยขอมติคณะรัฐมนตรี

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ได้รับรายงานว่าเกิดเหตุดินโคลนถล่ม เนื่องจากน้ำป่าไหลหลาก ลงมาจากเขาพนม ที่จังหวัดกระบี่ และมีผู้เสียชีวิต โดยพบแล้ว 4 ศพ และยังมีผู้สูญหาย จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้กองทัพเรือกองทัพบก ระดมกำลังในการช่วยเหลือและเร่งค้นหาผู้สูญหายโดยด่วน และกำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งการเตือนภัยและการอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะบริเวณที่ราบเชิงเขา เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกลงมามาก หากพื้นดินอุ้มน้ำมากเกินไป และเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนอาจจะถล่มซ้ำลงมาได้ จึงขอเน้นเรื่องย้ำในเรื่องของความปลอดภัย เพราะขณะนี้สถานการณ์เกิดขึ้นทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน จึงต้องมีการแจ้งเตือนภัยอย่างจริงจัง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม น่าเป็นห่วงมากกว่าพื้นที่ฝั่งทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐจะอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด ส่วนที่มีรายงานการขึ้นราคาสินค้านั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า จะไม่ยอมเด็ดขาด แต่ขณะนี้ต้องดูแลข้าวของเครื่องใช้ที่ประชาชนประสบปัญหา

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปดูสภาพพื้นที่บริเวณแหลมตะลุมพุก ที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากน้ำทะเลกัดเซาะจนถึงผิวถนน ทำให้ถนนทรุดตัวลง แม้จะนำกระสอบทราบมากั้นไว้ก็ไม่สามารถต้านทานได้ ก่อนเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปไปยัง ศาลาประชาคม อ.ท่าศาลา เพื่อพบปะกับประชาชน และมอบสิ่งของช่วยเหลือหลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง โรงพยาบาลท่าศาลา โดยมี นพ. กิตติ รัตนสมบัติ ผอ.รพ.ท่าศาลา นำตรวจสอบพื้นที่เสียหาย ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยให้กำลังใจผู้ป่วยที่นอนพักรักษาอยู่ในโรง พยาบาล ก่อนเดินทางกลับ

สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช มี 23 อำเภอ 165 ตำบล 1,551 หมู่บ้าน ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2554 ทำให้เกิดอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว 23 อำเภอ 159 ตำบล 1,290 หมู่บ้าน โดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ำบริเวณเขาหลวง มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น และท่วมกระจายเป็นบริเวณกว้างทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ ที่ราบเชิงเขาและที่ลุ่มได้รับความเดือดร้อนประมาณ 90,000 ครัวเรือน 285,000 คน เสียชีวิต 8 ราย เป็นราษฎรจมน้ำ 6 ราย และเป็นพระธุดงค์จากอำเภอขนอม ถึงแก่มรณภาพ 2 รูป นอกจากนี้ สิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายเป็นถนน 935 สาย พื้นที่การเกษตร 500,000 ไร่ และความเสียหายอื่น ๆ อยู่ระหว่างการสำรวจเพิ่มเติม รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ประมาณ 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและได้บูรณาการทำงานร่วมกับทหาร ตำรวจ กาชาดจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ ภาคเอกชน อาสาสมัคร โดยเฉพาะสมาชิกผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ให้คำแนะนำและประสานการปฏิบัติกับจังหวัดอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ความช่วย เหลือพี่น้องประชาชน และได้กำชับให้นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครพื้นที่เฝ้าระวัง เตรียมการอพยพ ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างทันท่วงที และแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา

 

ที่มา: เรียบเรียงจาก ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net