นักปกป้องสิทธิที่ดิน สกต.เรียกค่าเสียหาย 1 แสน เหตุถูกลอบยิง ศาลนัดพิจารณาคดี 8 ก.พ.64

"ดำ" นักปกป้องสิทธิฯ ในที่ดินชุมชนสันติพัฒนา สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ติดตามคดีคนร้ายใช้ปืนจ่อยิงตนเองหลังอัยการสั่งฟ้องคนร้ายในข้อหาพยายามฆ่า พร้อมยื่นเรียกค่าสินไหมทดแทน 100,000 บาทเพิ่มเติม คาดผู้ต้องหามีความเกี่ยวพันกับบริษัทน้ำมันปาล์ม ขณะที่ศาลจังหวัดเวียงสระสุราษฎร์ธานีกำหนดวันนัดพร้อม 8 ก.พ.นี้

ทีมสื่อของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2564 เวลา 13.30 น. ที่ศาลจังหวัดเวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี นายดำ อ่อนเมือง นักปกป้องสิทธิในที่ดินชุมชนสันติพัฒนา สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) พร้อมนักปกป้องสิทธิในที่ดินชุมชนสันติพัฒนากว่า 10 คน และทนายความเดินทางจากชุมชนสันติพัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี มาที่ศาล เพื่อเข้าร่วมในนัดคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจำเลยในคดีอาญา โดยได้ยื่นคำร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทนจำนวน 100,000 บาท ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1

นอกจากนั้น ดำยังเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในคดีที่ตนถูกคนร้ายคือสมพร ฉิมเรือง ยิงปืนใส่เมื่อคืนวันที่ 20 ต.ค.2563 ในขณะที่เฝ้าเวรยามอยู่ที่หน้าทางเข้าชุมชนสันติพัฒนา แต่ดำสามารถหลบได้ทันจึงรอดชีวิตมาได้ โดยคาดว่าสมพรที่เป็นผู้ต้องหา มีความเกี่ยวพันกับบริษัทน้ำมันปาล์มในพื้นที่ซึ่งมีประเด็นพิพาทเรื่องที่ดินกับชุมชนสันติพัฒนา สหพันธ์เกษตรภาคใต้ และเชื่อว่าการเข้ามากระทำการดังกล่าวเป็นไปเพื่อคุกคามถึงขั้นเอาชีวิตต่อนักปกป้องสิทธิในที่ดิน

รอยวิถีกระสุน (ภาพซ้าย) เศษหัวกระสุน (ภาพขวา) ในที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2563 เวลา 1.00 น.

ศาลได้รับคำร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนของดำ อ่อนเมือง และให้เขาเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในข้อหาพยายามฆ่า แต่เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธในข้อหาพยายามฆ่าและประสงค์จะต่อสู้คดี และศาลได้นัดพร้อม และตรวจพยานหลักฐานในคดีวันที่ 8 ก.พ.2564 เวลา 9.00 น. ที่ศาลจังหวัดเวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนที่กำหนดวันนัดสืบพยานต่อไป

นอกจากกรณีของดำแล้วยังมีนักปกป้องสิทธิในที่ดินจากสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ถูกลอบสังหารเสียชีวิตไปแล้ว 4 ราย คือ สมพร พัฒภูมิ ถูกสังหารปี 2553 ปราณี บุญรักษ์ และมลฑา ชูแก้ว ถูกสังหารปี 2555 ใช่ บุญทองเล็ก ถูกสังหารปี 2558 และถูกลอบยิงบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย และยังไม่สามารถนำคนกระทำผิดมาลงโทษได้แต่อย่างใด

ด้านปรานม สมวงศ์ องค์กร Protection International ระบุว่าในปีนี้จะมีการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กรณีประเทศไทยในกระบวนการ UPR ประเทศไทยต้องมีการปฏิบัติการตามถ้อยแถลงที่เคยให้ไว้ว่า” เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่จะดูแลให้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนสามารถปฏิบัติหน้าที่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเกื้อหนุน”และประเทศไทยต้องประกันให้มี “การยุติการคุกคามและข่มขู่ต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนทุกคน และดำเนินการตามมาตรการอย่างเป็นผล เพื่อป้องกันความรุนแรงและอาชญากรรมต่อพวกเขา”

นักปกป้องสิทธิที่ดินถูกลอบฆ่าแต่รอด ผู้ต้องสงสัยถูกตำรวจควบคุมตัว

ทั้งนี้ ชุมชนสันติพัฒนาดำเนินการจัดสรรที่ดินตามแบบโฉนดชุมชน และได้รับรองเป็นพื้นที่โฉนดชุมชนนำร่อง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. 2553 แต่ที่ช่วงปีที่ผ่านมากลับถูกบริษัทน้ำมันปาล์มในที่พื้นที่ที่มีประเด็นพิพาทเรื่องที่ดิน ข่มขู่จะขับไล่ออกจากพื้นที่ โดยบริษัทเอกชนพยายามนำคำพิพากษาศาลแพ่งที่ตัดสินขับไล่จำเลย 12 รายและบริวาร มาทำรังวัดที่ดินเพื่อบังคับคดีในแปลงที่อยู่นอกเหนือที่ระบุในคำพิพากษา และพยายามขับไล่ให้ประชาชนชุมชนสันติพัฒนาออกจากพื้นที่ ทั้งๆ ที่เมื่อปี 2559 ศาลฎีกาได้ตัดสินให้ประชาชนชนะในคดีอาญา เนื่องจากมีหลักฐานว่าสมาชิกชุมชนสันติพัฒนามิได้อยู่ในพื้นที่พิพาทของเอกชน แต่ทำกินอยู่บนพื้นที่ของ ส.ป.ก. ศาลจึงยกฟ้องในคดีนี้ และการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังระบุด้วยว่า บริษัทที่พิพาทได้โฉนดที่ดินน.ส. 3 มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ชุมชนสันติพัฒนายืนยันว่า ยังคงจะต่อสู้เพื่อในสิทธิที่ดินของตนเอง ผ่านทางกระบวนการยุติธรรมและรูปแบบการจัดการที่ดิน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท