ผู้จัดการประกวดสาวงามเวทีระดับชาติของปานามาประกาศว่าหญิงข้ามเพศ ‘ที่ผ่านการแปลงเพศและได้รับการรับรองตามกฎหมาย’ สามารถลงสมัครและเข้าร่วมแข่งขันในการประกวดสาวงามระดับชาติได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
3 มี.ค. 2564 ซินญอริตา ปานามา เจ้าของเวทีประกวดสาวงามมิสปานามา (Miss Panama) ผู้เฟ้นหาสาวงามทั่วประเทศไปแข่งขันต่อในเวทีมิสยูนิเวิร์ส ประกาศว่า “ผู้จัดการประกวดมิสปานามาอนุญาตให้บุคคลระบุเพศเป็นหญิงตามกฎหมายของปานามาสามารถสมัครและเข้าร่วมการแข่งขันได้ การเปลี่ยนแปลงกติกาการแข่งขันในครั้งนี้เป็นมติโดยรวมขององค์กร โดยยึดตามแนวทางกฎหมายของประเทศอย่างเคร่งครัด รวมถึงข้อตกลงนานาชาติก่อนหน้านี้”
ซินญอริตา ปานามา กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการพูดคุยร่วมกันและไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนระหว่างซินญอริตา ปานามา และกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส โดยก่อนหน้านี้ สเปน แคนาดา และเนปาล อนุญาตให้หญิงข้ามเพศสามารถลงประกวดในเวทีสาวงามระดับชาติได้
กองประกวดมิสยูนิเวิร์สอนุญาตให้หญิงข้ามเพศสามารถลงแข่งขันในเวทีสาวงามได้ตั้งแต่ พ.ศ.2555 โดย อังเคลา ปอนเซ เป็นหญิงข้ามเพศคนแรกที่ได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สสเปนในปี 2561
อังเคลา ปอนเซ หญิงข้ามเพศคนแรกที่ดำรงตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สสเปน 2018
สิทธิ LGBTQ+ ในปานามา
การมีอัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิดและการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเป็นเรื่องผิดกฎหมายในปานามา มีโทษจำคุกหรือปรับสูงสุด 500 ดอลลาร์สหรัฐ จนกระทั่งใน พ.ศ.2551รัฐสภาปานามามีมติยกเลิกกฎหมายดังกล่าว และอนุญาตให้บุคคลเพศเดียวกันที่อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ ใน พ.ศ.2518 ปานามาอนุญาตให้การผ่าดัดแปลงเพศทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และใน พ.ศ.2549 อนุญาตให้บุคคลข้ามเพศที่ผ่านการผ่าดัดแปลงเพศแล้วสามารถเปลี่ยนชื่อและคำนำหน้าชื่อในเอกสารราชการได้
สิทธิของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศในปานามาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี แต่ยังถือว่าล้าหลังเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มละตินอเมริกัน โดยเฉพาะการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันที่ยังถือว่าผิดกฎหมาย แต่มีแนวโน้มว่ารัฐสภาปานามาใกล้จะเปลี่ยนแปลงกฎหมายการแต่งงานให้ทันสมัยและทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ในทวีปอเมริกา เนื่องจากใน พ.ศ.2561 ศาลสิทธิมนุษยชนระหว่างรัฐอเมริกามีคำสั่งให้ประเทศที่อยู่เป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐอเมริกาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (IACHR) ต้องให้สิทธิในการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน ซึ่งปานามาเป็นหนึ่งในสมาชิกความร่วมมือดังกล่าว ส่งผลให้รัฐสภาปานามาต้องพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติครอบครัว ที่ระบุว่า ‘การสมรสระหว่างเพศชายและหญิงจึงจะถือว่ามีผลตามกฎหมาย’ โดยรัฐบาลปานามาพยายามผลักดันให้เกิดการลงประชามติเพื่อรับร่างแก้ไขกฎหมาย แต่ถูกต่อต้านจากกลุ่มบุคคลที่ไม่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ รวมถึงองค์กรทางศาสนาที่มีบทบาทอย่างมากในประเทศปานามา ทำให้การลงประชามติต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่เตรียมจัดขึ้นใน พ.ศ.2563
ที่มา:
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)