ผลสำรวจพบหลายประเทศในยุโรปไม่มั่นใจความปลอดภัยของวัคซีนแอสตราเซเนกา เนื่องจากมีรายงานว่าผู้รับวัคซีนบางรายมีอาการลิ่มเลือดแข็งตัว ประกอบกับจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหราชอาณาจักรยังเชื่อมั่นในวัคซีนแอสตราเซเนกา
24 มี.ค. 2564 ผลสำรวจความเชื่อมั่นในวัคซีนแอสตราเซเนกา จัดทำโดย ยูกอฟ (YouGov) บริษัทวิจัยด้านการตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตซึ่งมีสำนักงานอยู่ในที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร พบว่า ประชาชนหลายประเทศในยุโรปมีความเชื่อมั่นต่อวัคซีนยี่ห้อนี้ลดลง
ผลสำรวจจากยูกอฟเผยให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ในทวีปยุโรป โดยเฉพาะประเทศขนาดใหญ่ เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี มองว่าวัคซีนแอสตราเซเนกานั้นไม่ปลอดภัย ซึ่งผลสำรวจนี้จัดทำขึ้นระหว่าง 12-18 มี.ค. 2564 และมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามประมาณ 8,000 คนจากทั้งหมด 7 ประเทศ
ความเชื่อมั่นของสาธารณชนที่มีต่อการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาลดลงนับตั้งแต่มีรายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในยุโรปเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนไปแล้วในหลายประเทศ ทั้งยังมีรายงานว่าผู้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาบางรายมีอาการลิ่มเลือดแข็งตัวหลังจากฉีดวัคซีน แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตวัคซีนดังกล่าว องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) จะออกมาปฏิเสธว่าอาการลิ่มเลือดแข็งตัวไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา แต่มีอย่างน้อย 13 ประเทศทั่วโลกที่ประกาศระงับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาชั่วคราว
ผลสำรวจของยูกอฟระบุว่าชาวเยอรมัน 55% มองว่าการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาไม่ปลอดภัย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจเมื่อเดือนก่อนถึง 15% ในขณะที่ชาวเยอรมันจำนวน 32% มองว่าการฉีดวัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย โดยล่าสุด รัฐบาลเยอรมันประกาศขยายระยะเวลาล็อกดาวน์ไปจนถึง 18 เม.ย. เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่ฝรั่งเศส ประชาชนจำนวน 61% คิดว่าการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ จำนวนประชาชนที่ไม่เชื่อมั่นในวัคซีนแอสตราเซเนกานั้นยังเพิ่มสูงขึ้นถึง 27% ในอิตาลีและสเปน โดยยูกอฟเผยว่าความคิดเห็นเช่นนี้ ไม่เกิดขึ้นกับวัคซีนเจ้าอื่น เช่น ไซเฟอร์ และโมเดอร์นา
แม้ความเชื่อมั่นในวัคซีนแอสตราเซเนกาจะลดลงในหลายประเทศทั่วทวีปยุโรป แต่ผลสำรวจประชาชนในสหราชอาณาจักรกลับพบว่ารายงานการพบอาการลิ่มเลือดแข็งตัว ไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ โดย 2 ใน 3 ของประชาชนในสหราชอาณาจักรมองว่าวัคซีนยี่ห้อนี้ปลอดภัย มีเพียงประชาชน 9% เท่านั้นที่เห็นตรงกันข้าม
วัคซีนแอสตราเซเนการ่วมพัฒนาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ กับบริษัทแอสตราเซเนกา พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างอังกฤษและสวีเดน โดยวัคซีนยี่ห้อนี้ คือ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ทางการสหราชอาณาจักรอนุญาตให้ใช้ในยามฉุกเฉิน และเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับประเทศไทย บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้ถือหุ้น 100% ได้รับเลือกจากบริษัทแอสตจราเซเนกา พีแอลซี ให้เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัคซีนแอสตราเซเนกาแห่งเดียวในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการผลิตวัคซีนล็อตแรกทั้งหมด 26 ล้านโดส และคาดว่าจะเริ่มฉีดให้กับประชาชนในเดือน พ.ค. นี้
ที่มา: