ภาคีSaveบางกลอย โพสต์สรุปสถานการณ์คดี 28 กะเหรี่ยง กับคณะอนุกรรมการคดีและกฎหมายที่ยังไม่คืบหน้า ก่อนเคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาล
24 พ.ค.2564 ภาคีSaveบางกลอย โพสต์รายงานสถานการณ์คดีกะเหรี่ยงบางกลอย 28 ราย กับคณะอนุกรรมการคดีและกฎหมายที่ยังไม่คืบหน้า โดยระบุว่าก่อนการเคลื่อนไหวของภาคีSaveบางกลอย ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป ชวนย้อนมองสถานการณ์ทางคดีของชาวบางกลอย จากวันที่ถูกจับกุม สู่วันที่พนักงานสอบสวนจะส่งฟ้อง ในวันที่คณะกรรมการฯ ยังตกอยู่ในสภาพอัมพาต ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
ดังนี้
- 5 มีนาคม 2564 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังไปที่บางกลอยบนเพื่อควบคุมตัวชาวบ้าน โดยกวาดต้อนชาวบ้านลงมาได้ทั้งหมด 85 คน มีหมายจับจากศาลจังหวัดเพชรบุรี 30 คน ในข้อหา “บุกรุก ก่นสร้าง แผ้วถาง ยึดถือครอบครอง กระทำการใดๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิมแก่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 19 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ซึ่งกระบวนการดังกล่าวทำให้ชาวบ้านต้องรับสารภาพข้อกล่าวหา เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้ทนายความที่ชาวบ้านไว้วางใจและญาติเข้าพบ จนทำให้ชาวบ้าน 22 คนที่ถูกจับกุมได้ในที่เกิดเหตุต้องถูกฝากขังทันที
- 7 มีนาคม 2564 ชาวบ้าน 22 คนได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ โดยมีเงื่อนไขว่า “ห้ามผู้ต้องหากลับเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกจับ และพื้นที่อุทยานที่ไม่ได้รับอนุญาต” เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมในระหว่างการพิจารณาคดี และแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นผู้กำกับดูแลเพื่อให้ผู้ต้องหาทั้ง 22 คน ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด
- 7-16 มีนาคม 2564 ชาวบ้านบางกลอยเข้าร่วมการชุมนุมกับภาคี #SAVEบางกลอย ณ สะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล ในระหว่างการปักหลักชุมชนและเจรจาให้เกิดการแก้ไขปัญหานั้น มีการเจรจาและเห็นชอบแนวทางว่า ให้พนักงานสอบสวนชะลอการดำเนินการใดๆ ไว้ก่อน ก่อนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน รวมทั้งการพัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านบางกลอย โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน
- 25 มีนาคม 2564 คณะกรรมการฯ ประชุมนัดแรก โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธานในที่ประชุม มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหา 5 ชุด ได้แก่ 1. คณะอนุกรรมการศึกษาประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานชุมชน และผลกระทบจากการประกาศอุทยานแห่งชาติ และการอพยพชุมชน 2. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหากฎหมาย 3. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาคดีความ 4. คณะกรรมการศึกษาแนวทางและผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ สัตว์ป่า และการให้การบริการทางนิเวศน์ กรณีการกลับไปอยู่อาศัยและทำกินที่บางกลอยบน และ 5. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตบ้านบางกลอยล่าง
- 26 มีนาคม 2564 ชาวบ้านบางกลอยอีก 7 คน เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน โดยศาลจังหวัดเพชรบุรีมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวด้วยเงื่อนไข “ห้ามผู้ต้องหากลับเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกจับ และพื้นที่อุทยานที่ไม่ได้รับอนุญาต” เช่น 22 คนแรก
- 24 พฤษภาคม 2564 ชาวบ้านบางกลอยทั้งสิ้น 28 ราย (จากเดิม 30 ราย แต่เนื่องจากความผิดพลาดในการออกหมายศาลที่ทำให้ชื่อของชาวบ้าน 2 คนคลาดเคลื่อน) ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนให้ไปพบที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน เพื่อรับทราบข้อหาเพิ่มเติม ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
- 28 พฤษภาคม 2564 พนักงานสอบสวนแจ้งว่า ให้ชาวบ้านทั้ง 28 คน ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการในวันดังกล่าว
"คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหากฎหมายและคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาคดีความ ยังไม่มีการประชุมจนถึงวันนี้ อ้างติดสถานการณ์โควิด-19 แต่กระบวนการทางคดียังดำเนินต่อไปแม้มีข้อตกลงว่าจะชะลอไว้จนกว่าจะได้แนวทางการแก้ไขปัญหาอันเป็นข้อยุติจากคณะอนุกรรมการฯ" ภาคีSaveบางกลอย ระบุตอนท้าย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)