Skip to main content
sharethis

ประมวลการชุมนุม #ม็อบ1กันยา อภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา จัดโดยเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย-ไทยไม่ทน-ทะลุฟ้า ปราศรัยปัญหา-ความล้มเหลวของรัฐบาลคู่ขนานไปกับด้านในสภา พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรม 'ปาลูกดอกไล่ประยุทธ์' และการแสดงดนตรีจากพ่อของ 'ไผ่ ดาวดิน' ด้านกลุ่ม 'ราษฎรตาลีบัน' บุกสาดสีหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่สมรภูมิดินแดงนิ่งเพราะฝนเท

3 ก.ย. 2564 ไอลอว์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2564 เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ร่วมด้วยกลุ่มทะลุฟ้า และกลุ่มไทยไม่ทน จัดกิจกรรม #ม็อบ1กันยา ซักฟอกเผด็จการ อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา แยกเกียกกาย คู่ขนานกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา โดยเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00-20.00 น. โดยกลุ่มทะลุฟ้ายังร่วมจัดกิจกรรม ‘Rastaspaland สวนสนุกเปิดใหม่ ใครเล่นก็ลืมอายุ’ ซึ่งประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ ‘กิจกรรมซุ้ม ปา-ยุทธ์’ ที่เปิดให้ประชาชนปาลูกดอกใส่เป้าที่เป็นแสตนดี้รูป พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนอีกหนึ่งกิจกรรม คือ การระดมความคิดออกแบบรัฐธรรมนูญ ที่เชิญชวนคนมาเขียนและพ่นสเปรย์ลงบนผืนผ้าเพื่อแสดงความคิดของตัวเองเกี่ยวกับรัฐบาลชุดนี้

15.16 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพ มาพูดคุยกับตัวแทนผู้จัดการชุมนุม โดยตัวแทนเครือข่ายรามคำแหงฯ ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่าทางกลุ่มได้นำหนังสือมายื่นต่อประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย เพื่อขออนุญาตจัดกิจกรรมแล้วเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ ต่อมาเวลา 15.21 น. พ.ต.อ.พงพัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ ผู้กำกับฯ สน.บางโพ อ่านประกาศข้อกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมให้ฟังและแจ้งต่อผู้สังเกตการณ์การชุมนุมของไอลอว์ว่าแม้ทางกลุ่มจะขออนุญาตจัดกิจกรรมกับทางรัฐสภาแล้ว แต่ตามข้อกำหนดนั้นสามารถจัดกิจกรรมได้โดยต้องมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 25 คน

ภาพจากเพจเฟซบุ๊กเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย
 

หลังจากนั้น เวลา 15.23 น. ตัวแทนเครือข่ายรามคำแหงฯ กล่าวเปิดกิจกรรม และเปิดเวทีให้ผู้ปราศัยขึ้นมาอภิปรายจนเลิกกิจกรรม โดยมี ณัทพัช อัคฮาด น้องชายของกมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 2553 ร่วมกล่าวปราศรัย ณัทพัชกล่าวว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ คิดว่าเป็นครั้งที่ประชาชนจับตามองดูมากที่สุด เพราะสถานการณ์ทุกวันนี้อยู่ไปก็เหมือนจะไม่มีอนาคต โดยเฉพาะประเด็นปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือ IO ที่มีไลฟ์รายชื่อบุคคลในกลุ่มเฝ้าระวัง (watch list) หลุดออกมาสะท้อนว่าสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำได้ดีคือการคุกคามคนเห็นต่าง ไม่ใช่การจัดหาวัคซีนหรือการเยียวยาประชาชน พร้อมฝากถึง ส.ส. โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลให้ออกมาลงคะแนนไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ในการอภิปรายครั้งนี้

ด้าน ธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ‘ปูน ทะลุฟ้า’ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ทำให้เศรษฐกิจถดถอยได้อย่างที่ไม่มีรัฐบาลชุดไหนเคยทำมาก่อน และสร้างประวัติศาสตร์ทำให้คนฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจได้มากที่สุด คนออกมาชุมนุมมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เพราะทนไม่ไหวกับการบริหารงานที่ล้มเหลว นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในอำนาจ ประชาชนถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพมาโดยตลอด รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศให้การรับรองว่าการชุมนุมโดยสันติปราศจากอาวุธเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สามารถทำได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์กลับนำทหาร-ตำรวจมาควบคุมการชุมนุม และจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยอ้างว่าใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งที่จริงๆ แล้ว จุดประสงค์ของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็เพื่อแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในครั้งนั้นก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์กลับนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาใช้แก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งดูแล้วเป็นการใช้กฎหมายที่ ‘ผิดฝาผิดตัว’

ภาพจากเพจเฟซบุ๊กเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย

ต่อมาเวลา 17.00 น. ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที โดยระบุว่าขอขอบคุณ ส.ส.พรรคก้าวไกลที่อภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) โดยตนเพิ่งทราบว่ามีประชาชนคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจนถึงขั้นตาบอดรุนแรงกว่าตน แต่ไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพได้ ซึ่งทำให้เขาตั้งปณิธานว่า ‘จะไม่ให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาเกิดกับคนอื่นอีก’

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่าธนัตถ์กล่าวอ้างถึงสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่าให้ไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าตำรวจใช้อาวุธจริงหรืออาวุธปลอม พร้อมฝากถึงกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนที่สิระนั่งเป็นประธาน หากยังไม่ตรวจสอบการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนก็ขอให้ออกไป นอกจากนี้ ธนัตถ์ยังประกาศว่าการชุมนุมมาถึงจุดที่ต้องยกระดับขึ้นมา จะมีม็อบเกิดขึ้นทุกวัน และมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วประเทศ ซึ่งตนเชื่อว่าคนทั้งประเทศพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง ขอให้ใช้ความคิดในการต่อสู้

17.43 น. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ขอร้องให้ ส.ส. ใช้พื้นที่ในสภาเป็นทางออกในการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีโดยสันติตามกระบวนการรัฐสภา อย่าทำให้ประชาชนรู้สึกว่ารัฐสภาไม่ใช่ทางออก เพราะอาจเป็นเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงในอนาคต นอกจากนี้ เมธา ยังกล่าวถึงการใช้กระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. ว่าขัดหลักสากล เพราะตามหลักสากล กระสุนยางเขาจะใช้ยิงเฉพาะช่องท้องหรือขาเท่านั้น ซึ่งต่อมา ธนเดช ศรีสงคราม หรือ ‘ม่อน อาชีวะ’ ขึ้นกล่าวปราศรัยในประเด็นเกียวกัน โดยระบุว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าสลายการชุมนุมให้สอดคล้องกับหลักสากลนั้นไม่เป็นความจริง เพราะตามหลักการใช้กระสุนยาง จะต้องเล็งบริเวณช่องท้องหรือขาเท่านั้น แตที่ผ่านมามีคนที่เขารู้จักถูกยิงที่ใบหน้าด้วยกระสุนยางจนเลือดออกมาแล้ว

ภาพจากเพจเฟซบุ๊กเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย
 

ต่อมาเวลา 18.10 วันเฉลิม กุนเสน เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนขับไล่เผด็จการแห่งชาติ และแกนนำกลุ่มคนพัทยารักประชาธิปไตย ร่วมกล่าวปราศรัยบนเวที โดยระบุว่าข้อเรียกร้องในขณะนี้ไม่ใช่การยุบสภา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกเท่านั้น และให้เลือกผู้นำคนอื่นจากบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ให้ได้ผู้นำที่มีความสามารถตามกระบวนการทางรัฐธรรมนูญ โดยวันเฉลิมเชื่อว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ลาออกไปแล้ว ส.ว. 250 คนจะไม่กล้าขัดขวางกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก นอกจากนี้ยังมีเกริกหิรัญ แปลกประเสริฐ หรือ ‘เฉิ่ม ดอกจิก’  ที่ร่วมปราศรัย โดยกล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลตลอด 7 ปีที่ผ่านมาว่าล้มเหลว ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะการบริหารจัดการวัคซีนที่ไม่มีการบูรณาการข้อมูลเข้ากับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์เพื่อกระจายวัคซีน แต่กลับจัดทำแอปพลิเคชันจำนวนมากมาเพิ่มภาระให้ประชาชน

นอกจากนี้ มติชนออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่าระหว่างกิจกรรมยังมีการแสดงดนตรีจากวิบูลย์ บุญภัทรรักษา บิดาของจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ซึ่งเขาได้ร่วมร้องเพลงกับโชคดี ร่มพฤกษ์ หรือ ‘อาเล็ก’ ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร โดยทั้งคู่ได้แสดงเพลง “ฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ” ซึ่งมีการดัดแปลงเนื้อหา ความว่า “สักวันหนึ่ง เราจะกลับมาพบกันลูกรัก” พร้อมกล่าวถึงบุตรชาย และขอให้กำลังใจแก่นักกิจกรรมทุกคนที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนขำขณะนี้ และมีการแสดงจากกลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร โดยขับร้องบทเพลงที่มีเนื้อหากล่าวถึงวัคซีน และการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์

‘ราษฎรตาลีบัน’ สาดสีหน้าพลังประชารัฐ-ทะลุแก๊ซบุกสามเหลี่ยมดินแดง

ข่าวสดออนไลน์ และไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า นอกจากกิจกรรมอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาแล้วยังมีผู้ชุมนุมที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า ‘ราษฎรตาลีบัน’ ไปรวมตัวกันที่หน้าพรรคพลังประชารัฐเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน และปราศรัยเรียกร้องให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมกิจกรรมสาดสีเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

ทั้งนี้ หลังจากผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรตาลีบันจัดกิจกรรมโดยใช้ชื่อดังกล่าว ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ถึงการเลือกใช้ชื่อว่าเหมาะสมหรือเข้าใจที่มาที่ไปหรือไม่ แต่ต่อมา วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ‘ตี้ พะเยา’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ โดยระบุว่า “วันนี้ตี้ได้เข้าร่วมช่วยน้อง ‘กลุ่มราษฎรตาลีบัน’ พร้อมกับพูดคุยกับน้องๆ เรื่องชื่อกลุ่ม พอน้องๆ ทราบที่มาของ ‘กลุ่มตาลีบัน’ จริงๆ น้องๆ ตกใจมากและฝากขอโทษพร้อมน้อมรับคำติชมทั้งหมด รวมถึงได้ช่วยกันเปลี่ยนชื่อกลุ่มในทันที ทั้งนี้น้องๆ ฝากขอโทษรวมถึงตัวหนูด้วย ปล. ตอนนี้เพจราษฎรตาลีบันได้ปิดตัวลงแล้ว อาจจะกลับมาในชื่อใหม่งับ ทั้งนี้น้องๆ ฝากขอโทษรวมถึงตัวหนูด้วย และขอขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกันชี้แนะแนะนำกันด้วยเน้อ”

ขณะที่สำนักข่าวอิศรารายงานว่าที่บริเวณแยกดินแดง เวลา16.55 น. มีผู้ชุมนุมอิสระนัดรวมตัวกัน รอบด้านมีตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ยืนประจำจุดบริเวณหน้ากองดุริยางค์ทหารบก แต่สักพักมีฝนตกหนัก ต่อมา เวลา 17.20 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนทยอยรวมตัวกับที่ใต้ทางด่วนดินแดง ในขณะที่ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง แต่การจราจรยังคงสัญจรได้เป็นปกติ หลังจากนั้นเวลา 18.50 ยังคงมีผู้ชุมนุมรวมตัวอยู่บริเวณแยกดินแดง แต่ไม่มีการทำกิจกรรมใดๆ นอกจากจุดและประทัดเป็นระยะ เพราะฝนตกอย่างต่อเนื่อง และในเวลา 19.23 น. ฝนเริ่มหยุดตก มีผู้ชุมนุมบางส่วนทยอยเดินทางกลับ แต่บางส่วนยังอยู่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net