Skip to main content
sharethis

กัมพูชาประกาศเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้แรงงานในภาคผลิตเสื้อผ้าและรองเท้า เดือนละ 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 67 บาท) เป็น 194 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6,540 บาท) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้  ม.ค. 2565 แต่ตัวเลขนี้ยังต่ำกว่าที่สหภาพแรงงานเรียกร้องให้เพิ่มเดือนละ 12 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 404 บาท)


ที่มาภาพ: ILO Asia-Pacific (CC BY-NC-ND 2.0)

เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย. 2564 กัมพูชาประกาศเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้แรงงานในภาคผลิตเสื้อผ้าและรองเท้า เดือนละ 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 67 บาท) เป็น 194 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6,540 บาท) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้  ม.ค. 2565 

แต่ตัวเลขนี้ยังต่ำกว่าที่สหภาพแรงงานเรียกร้องให้เพิ่มเดือนละ 12 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 404 บาท)

"ขอให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นายจ้างและรัฐบาล พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการเพิ่มค่าจ้างให้กับคนงานอีก" ภาพ สีนา ประธาน Collective Union Movement of Workers กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ค่าแรงในกัมพูชาเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องพยายามสร้างความสมดุลในเรื่องของความสามารถในการแข่งขันของนักลงทุนและยี่ห้อของสินค้า ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความพอใจให้กับบรรดาสหภาพแรงงานที่มีอิทธิพลที่เป็นตัวแทนของแรงงานราว 700,000 คน ที่มักจะหยุดงานประท้วงบ่อยครั้งในรอบหลายปีที่ผ่านมา

อุตสาหกรรมภาคการผลิตเสื้อผ้าและรองเท้า ในกัมพูชามีมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 237,000 ล้านบาท) ต่อปี ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของ COVID-19 อุตสาหกรรมนี้จ้างงานมากที่สุดและสร้างรายได้สำคัญที่สุดให้กับครอบครัวของแรงงานที่มาจากชนบท โดยโรงงานในกัมพูชาเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าแบนด์ดัง ๆ เช่น H&M, Adidas, Nike และ Gap

อย่างไรก็ตาม แก่ง โมนิกา รองเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปแห่งกัมพูชา (GMAC) กล่าวว่าการขึ้นเงินเดือนอาจเป็นปัญหากับต้นทุนการดำเนินงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

"การเพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ฯ ก็ยังส่งผลกระทบในทางลบ" แก่ง โมนิกา กล่าว รองเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปแห่งกัมพูชาผู้นี้ยังระบุว่าขณะนี้นายจ้างจะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นในเรื่องเงินเบี้ยเลี้ยง เงินด้านดูแลสุขภาพ และหมดเงินไปกับมาตรการรับมือกับ COVID-19 โดยเฉพาะค่าตรวจหาเชื้อ 4 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 135 บาท) ต่อเดือนต่อคน ให้กับพนักงานของตน

ตามรายงานของจากธนาคารโลกระบุว่าเมื่อเดือน เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา เสื้อผ้าและรองเท้าไม่ได้เป็นสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาอีกต่อไป โดยสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ใหม่อื่น ๆ กำลังเพิ่มขึ้น เช่น กระเป๋าเดินทาง ซึ่งปลอดภาษีในสหรัฐฯ 

การส่งออกสินค้าของกัมพูชาไปยังตลาดสหรัฐฯ มีมูลค่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 118,000 ล้านบาท) ในปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 จากปี 2562

เมื่อเทียบกับสหภาพยุโรป (EU) ที่มีมูลค่า 2,600 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 88,000 ล้านบาท) หดตัวร้อยละ 35 การถอถอยนี้ส่วนหนึ่งมีสาเหตุเนื่องจากการเพิกถอนสิทธิพิเศษทางภาษี เนื่องมาจากปัญหาสิทธิมนุษยชนและข้อกังวลทางการเมืองที่ EU มีต่อกัมพูชา

ที่มาเรียบเรียงจาก
Cambodia raises minimum textiles minimum wage by $2 (Prak Chan Thul, Yahoo Finance, 28 September 2021)

อัตราแลกเปลี่ยน ณ 1 ต.ค. 2564

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net