สอบ.เรียกร้อง กสทช.กำกับควบรวม DTAC - True กังวลไม่เกิดการแข่งขันกระทบค่าโทร-เนตของประชาชน

สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) แถลงจุดยืนต่อการควบรวม DTAC-True ว่าจะทำให้การแข่งขันในตลาดโทรคมฯ ลดลง กระทบผู้บริโภคที่เนื่องจากทำให้ไม่มีการแข่งขันด้านราคาและคุณภาพในตลาดและทำให้ไม่เกิดผู้เล่นรายใหม่ในตลาดเพราะไม่คุ้มลงทุน เกิดสภาพกึ่งผูกขาดตลาดโทรคมฯ เพราะจะเหลือแค่รายใหญ่เพียง 2 เจ้า

23 พ.ย.2564 ที่แฟนเพจสภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) มีการถ่ายทอดสดการแถลงจุดยืนขององค์กรต่อกรณีที่เครือเจริญโภคภัณฑ์บริษัทแม่ของทรูมูฟและกลุ่มเทเลนอร์บริษัทแม่ดีแทคประกาศความร่วมมือที่จะควบรวมทางธุรกิจทรูและดีแทคเข้าด้วยกัน

พวงทอง ว่องไว อนุกรรมการด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) กล่าวว่า ถึงแม้ในปัจจุบัน การควบรวมจะเกิดขึ้นในระดับผู้ถือหุ้น คือระหว่างเทเลนอร์และซีพี โดยยังไม่ได้มีการควบรวม ในระดับบริษัทผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม คือระหว่าง ดีแทคกับทรู แต่ก็จะเกิดการรวมกันในอนาคตเพราะอยู่ภายใต้บริษัทแม่เดียวกัน ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลง และอาจจะส่งผลต่อราคาค่าบริการที่ผู้บริโภคต้องจ่ายด้วย

พวงทองเห็นว่าหน่วยงานกำกับดูแลอย่างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ก็ควรจะเข้ามาดูแลในเรื่องการควบรวมนี้

ด้านชลดา บุญเกษม อนุกรรมการด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สอบ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาในประเทศไทยมีค่ายมือถือ 3 ค่ายหลักที่แข่งขันกันอยู่ ทั้งด้านการพัฒนาบริการใหม่ ๆ การขยายพื้นที่การบริการ รวมไปถึงการแข่งขันด้านราคา แต่หากมีการควบรวมแม้จะเป็นในระดับผู้ถือหุ้น อาจทำให้สัดส่วนแข่งขันในตลาดเปลี่ยนไป จากที่เคยมี 3 เจ้าเหลือเพียง 2 เจ้าเท่านั้น ซึ่งจะกระทบต่อผู้บริโภคจำนวนมากอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่อาจจะถูกเปิดเผยมากขึ้นเพราะที่ผ่านมาก็เกิดกรณีข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้บริการหลุดออกไป

ชลดากล่าวเสริมด้วยว่าในสภาพที่เหลือเพียงรายใหญ่ 2 เจ้าก็จะทำให้มีลักษณะกึ่งผูกขาดตลาด มันไม่ส่งผลดีต่อผู้บริโภคแล้วก้ทำให้ผู้บริการรายใหม่ไม่เกิด เพราะเขามองว่าการลงทุนครั้งนี้ไม่เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน รายใหม่ก็จะไม่เข้ามาเป้นตัวเลือกใป้กับประชาชน จึงไม่เห็นด้วยที่เขาจะมาควบรวมให้เหลือแค่ 2 รายใหญ่ เพราะถ้าไม่เกิดการแข่งขันเขาก็อาจจะมาฮั้วกันผู้บริโภคก้ต้องรับสภาพไป

“อย่างเมื่อสักครู่เรามีปัญหาอินเตอร์เนต เรามองว่ามีตัวเลือกที่จะมีตัวเลือกที่มีคุณภาพดีกว่า ก็อาจจะไม่ในอนาคตเพราะไม่มีการแข่งขันกันทั้งเรื่องราคาและคุณภาพ ผู้บริโภคก็ต้องรับสภาพไป” ชลดากล่าวหลังจากตัวเธอเองกลับเข้ามาในการไลฟ์อีกครั้งเพราะก่อนหน้านี้อินเตอร์เนตหลุด

ส่วนบุญยืน ศิริธรรม ประธาน สอบ. ตั้งข้อสังเกตว่า หากข้อตกลงระหว่างเทเลนอร์กับซีพีได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และสามารถตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ได้ กิจการภายใต้บริษัทดังกล่าวจะมีส่วนแบ่งตลาดโทรคมนาคมในประเทศไทยถึงร้อยละ 52 จึงอยากสอบถามไปยังคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ว่ากรณีดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากมีส่วนแบ่งเกินครึ่งหนึ่งของตลาด

ประธาน สอบ. กล่าวอีกว่าส่วนตัวเธอไม่เห็นด้วยกับการควบรวมครั้งนี้เพราะทำให้ทางเลือกของประชาชนลดลง และสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาคืการแบ่งตลาดกันเล่นแล้วก็ไม่แข่งจันกัน คิดว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องการแข่งจัน หรือ กสทช จะต้องให้ข้อมูลชัดเจนว่าทำอะไรได้บ้าง

สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการ สอบ. กล่าวย้ำว่า สอบ. ขอเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ ต้องหาแนวทางในการกำกับดูแลกรณีดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดอำนาจเหนือตลาดและการผูกขาดทางการค้า ซึ่งส่งผลกระทบและถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งนี้ สอบ. มองว่า จำนวนผู้ให้บริการ หรือค่ายมือถือ ไม่ควรลดน้อยลงจากเดิมที่มีรายใหญ่ 3 ราย และการที่ในตลาดมีแต่ผู้เล่นรายใหญ่ก็จะทำให้ไม่มีธุรกิจรายเล็กเกิดขึ้นมาเพราะเขาก็จะคิดแล้วว่าไม่คุ้มค่าแก่การลงทุน ดังนั้น กสทช. ควรมีมาตรการที่ส่งเสริมให้เกิดผู้ให้บริการรายใหม่ด้วย

สารียังกล่าวด้วยว่าการออกมาแสดงจุดยืนครั้งนี้ไม่ได้มีปัญหาในพยายามลดอุปสรรคทาง*การค้า แต่อยากเห้นการลดอุปสรรคผ่านการแข่งขัน เช่น การกีดกันในธุรกิจโทรคมนาคมตอนนี้ทำผ่านโครงสร้างพื้นฐานอย่างการไม่ให้ใช้เสากระจายสัญญาณร่วมกันแต่ทางทุกบริษัทร่วมมือกันแบ่งเสากันใช้แล้วไปแข่งกันในลักษณะอื่นเพื่อลดต้นทุนการให้บริการ แม้ว่าเรื่องนี้ กสทช.จะอนุญาตทำแต่ก็ไมได้ถึงขั้นบังคับหรือต้องการให้ กสทช.บังคับใช้เสาร่วมกันเพื่อลดต้นทุนการบริการ

นอกจากนั้นเธอยังกล่าวถึงประเด็นเรื่องการประมูลคลื่นสัญญาณในอนาคตด้วยว่าจะทำให้เกิดการแข่งขันน้อยลงไปด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ที่จะเข้าสู่รัฐ

ทั้งนี้ สอบ. จะทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี กสทช. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพรรคการเมือง เพื่อคัดค้านการพิจารณาการควบรวมดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท