Skip to main content
sharethis

สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ยื่นหนังสือ รมว.แรงงาน ฝากเสนอ ครม. พิจารณาการจ่ายเงินชดเชยลูกจ้าง 1,388 คนที่ถูกลอยแพ พร้อมดำเนินการเอาผิดนายจ้างต่างชาติ หากไร้ความคืบหน้า เตรียมบุกทำเนียบอีกครั้ง 

นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน (ซ้าย) ขณะเป็นตัวแทนรับหนังสือจากประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ (ขวา) ที่หน้ากระทรวงแรงงาน เมื่อ 16 ธ.ค. 64 (ภาพจาก Voice TV

17 ธ.ค. 64 Voice TV ไลฟ์ถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ยูทูบ (Youtube) วานนี้ (16 ธ.ค.) เวลา 12.00 น. ติดตามการชุมนุมของ สมาชิกสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นลูกจ้างบริษัท บริลเลียนท์ อัลไลแอนซ์ ไทย โกลบอล จำกัด (เดิมชื่อโรงงานไทรอัมพ์) ที่หน้ากระทรวงแรงงาน เพื่อยื่นหนังสือต่อ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ติดตามข้อเรียกร้องก่อนหน้านี้ คือ หนึ่ง ให้รัฐจ่ายเงินเยียวยาจำนวนเงินกว่า 242 ล้านบาทโดยใช้เงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง แก่ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรมตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 1,388 คน โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และให้รัฐบาลไปติดตามเงินชดเชยจากนายจ้างเอง สอง ให้รัฐติดตามเอาผิดกับนายจ้างให้ได้ และสาม ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องไม่ให้เกิดกรณีการเลิกจ้างลอยแพแบบนี้ขึ้นมาอีก 

นอกจากนี้ ทางสหภาพฯ ต้องการให้กระทรวงแรงงานชี้แจงความคืบหน้าเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างที่คณะกรรมการกองทุนมีมติแล้วว่าจะปรับเพิ่ม การติดตามเอาผิดนายจ้างที่กระทรวงแรงงานระบุว่าประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการต่างประเทศ ไปถึงไหน อย่างไร และการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเอางบกลางมาดูแลมีความคืบหน้าอย่างไร แต่เนื่องด้วยนายสุชาติ ไม่อยู่ที่กระทรวงฯ นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน จึงเป็นตัวแทนพูดคุยกับแรงงาน และรับหนังสือ

ก่อนการยื่นหนังสือ นายวรรณรัตน์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากกระทรวงแรงงาน ชี้แจงกับสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ถึงความคืบหน้าของข้อเรียกร้องว่า สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาลูกจ้าง ทางกระทรวงแรงงานมีการจ่ายเงินชดเชยให้แล้ว 2 ครั้ง  

ขณะที่ความคืบหน้าเรื่องการดำเนินคดีอาญากับนายจ้างที่ลอยแพลูกจ้างนั้น ศาลอนุมัติออกหมายจับนายจ้างแล้ว และทาง สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ต้องดำเนินการติดตามตัวนายจ้างตามหมายจับดังกล่าว นอกจากนี้ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี รับปากจะประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ด้วย 

อย่างไรก็ตาม นายเซีย จำปาทอง ประธานสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์หนัง แห่งประเทศไทย และเป็นหนึ่งในผู้มายื่นหนังสือ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานต้องตอบให้ชัดเจน และเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ไม่ใช่บอกว่าเป็นหน้าที่ตำรวจอย่างเดียว ต้องตอบว่าเรื่องไปถึงไหน อย่างไรแล้ว 

สำหรับการดำเนินคดีแพ่งกับนายจ้างนั้น ศาลมีคำวินิจฉัยว่า ให้นายจ้างจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้าง ซึ่งขึ้นตอนต่อไป ก็เป็นการบังคับตามคำสั่งศาล 

ขณะที่เรื่องสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ขอให้กระทรวงแรงงานช่วยเหลือ อย่างการจ่ายเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเพิ่มนั้น รมว.แรงงาน สั่งการให้ปลัดกระทรวงแรงงานรับผิดชอบ และคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ก็ยกร่างระเบียบช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกนายจ้างเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และไม่ได้จ่ายค่าชดเชยในช่วงโควิด-19 แล้ว และระเบียบนี้ก็ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 15 ธ.ค. และมีผลในวันถัดไป โดยลูกจ้างจะได้เงินเพิ่ม 30 เท่าจากค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน หรือประมาณ 9,930 บาท ซึ่งลูกจ้างสามารถไปยื่นคำร้องที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการได้เลย และจะได้รับเงินก่อนปีใหม่แน่นอน 

สำหรับการตั้ง คกก.เพื่อดึงเงินจากงบประมาณกลางมาจ่ายชดเชยเงินลูกจ้าง จำนวน 242 ล้านบาทนั้น จากการหารือกับสำนักงบประมาณ การที่นายจ้างค้างค่าชดเชยนั้นเป็นหนี้ระหว่างเอกชนกับเอกชน หรือนายจ้างกับลูกจ้าง อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของกรมสวัสดิการฯ ทำให้ไม่สามารถนำเงินจากงบฯ กลาง มาจ่ายชดเชยให้ลูกจ้างก่อนได้  

ขณะที่ธนพร วิจันทร์ หนึ่งในแกนนำที่มายื่นหนังสือติดตามข้อเรียกร้อง สอบถามตัวแทนกระทรวงแรงงานว่า ถ้าอย่างนั้น ลูกจ้างต้องไปตามเงินกับใคร ในเมื่อกระทรวงแรงงานซึ่งทำหน้าที่คุ้มครองแรงงานทำหน้าที่นี้ไม่ได้ ซึ่งการพิจารณาใช้งบฯ กลางนั้น ต้องผ่านการพิจารณาโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อรัฐมนตรีสุชาติ อยู่ใน ครม. สามารถพิจารณางบฯ กลางได้หรือไม่ ให้คำตอบแรงงานได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผู้แทนกระทรวงแรงงานไม่ได้ตอบในประเด็นนี้ 

ตัวแทนสหภาพฯ อีกรายกล่าวต่อว่า การนำเงินจากงบฯ กลางมาจ่ายให้ลูกจ้างนั้น ไม่ได้หมายความว่าให้ รมต.สุชาติ เป็นคนอนุมัติ แต่อยากให้กระทรวงแรงงานนำเรื่องเข้าสู่มติคณะรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาจ่าย ซึ่งถ้ามติ ครม.ออกมาแล้ว ยังไงก็ใช้งบฯ กลางจ่ายได้ แต่ปัญหาอยู่กระทรวงแรงงานไม่ยอมเอาเข้า ครม. เรื่องถึงไม่คืบหน้า ดังนั้น จึงขอฝากเรื่องนี้ไว้กับกระทรวงแรงงานด้วย 

นอกจากนี้ ตัวแทนสหภาพไทรอัมพ์ฯ มีข้อสงสัยถึงตัวแทนกระทรวงแรงงานว่า ทำไมเวลามายื่นข้อเรียกร้องถึงไม่ให้แรงงานเข้าไปด้านในกระทรวงแรงงานเพื่อทำเรื่อง และเป็นไปได้ไหมที่จะให้ลูกจ้างที่มาหน้ากระทรวงแรงงานวันนี้ที่มีเอกสารพร้อมเขียนคำร้องเลยได้ไหม ไม่ต้องกลับไปที่ จ.สมุทรปราการ  แต่ทางตัวแทนกระทรวงแรงงานปฏิเสธตอบคำถาม 

“การที่กระทรวงแรงงานปิดประตูแรงงานไม่ให้ลูกจ้างเข้ากระทรวง โดยหลักการแล้ว คิดว่ามันไม่ใช่ เพราะว่าลูกจ้างเดือดร้อน เมื่อลูกจ้างเดินทางมา ก็ควรต้อนรับ เจรจา หาแนวทางแก้ปัญหาถึงแนวทางการแก้ปัญหาของลูกจ้าง ไม่ใช่มาปิดประตูไม่ให้ลูกจ้างเข้า” เซีย จำปาทอง กล่าว 

ขณะที่ธนพร ปราศรัยหลังยื่นหนังสือ ไม่พอใจการตอบคำถามของทางตัวแทนกระทรวงแรงงาน ซึ่งตอบเหมือนทุกครั้งที่ลูกจ้างมายื่นหนังสือ ซึ่งเธอขอถามไปยังกระทรวงฯ ว่า กระทรวงแรงงานไม่มีความพยายามที่จะช่วยแรงงานเลยใช่หรือไม่ ถ้ามีความพยายาม กระทรวงฯ เสนอ ครม. นำเงินจากงบฯ กลาง 242 กว่าล้านบาท ชดเชยให้แก่ลูกจ้างแล้ว นอกจากนี้ ธนพร กล่าวด้วยว่าจะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องเงินเยียวชดเชยลูกจ้างต่อไป 

ทั้งนี้ การเลิกจ้างไม่บอกกล่าวล่วงหน้าของบริษัท บริลเลียนท์อัลไลแอนซ์ไทย โกลบอล จำกัด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ลูกจ้างจำนวน 1,388 คนตกงานทันที โดยไม่มีโอกาสทราบล่วงหน้า โดยไม่จ่ายเงินค่าชดเชย ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า วันหยุดพักผ่อนประจำปีและเงินอื่นๆ ที่ลูกจ้างมีสิทธิ์ได้รับตามกฎหมาย เมื่อถูกนายจา้งปิดกิจการลูกจ้างได้ไปเขียนคำร้อง คร. 7 พนักงานตรวจแรงงานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.สมุทรปราการ ได้สอบสวนข้อเท็จจริงตลอดจนพยานหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องและออกคำสั่ง ที่ 119/2564 เรื่อง ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลาในวันทำงาน ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี โบนัสและเบี้ยขยันโดยให้นายจ้างบริษัท บริลเลียนท์ฯ จ่ายเงินต่างๆ ที่ลูกจ้างมีสิทธิ์ได้รับรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 242,689,862.71 บาท พร้อมดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละสิบห้าบาทต่อปีจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น ขณะนี้นายจ้างยังไม่ได้จ่ายเงินค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีโบนัสและเบี้ยขยันให้กับลูกจ้าง
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net