ผู้เชี่ยวชาญเผยกองทัพพม่าเล็งออกกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ตัวใหม่ คาดภายใน ก.พ.นี้ ซึ่งส่งผลให้ใครก็ตามที่ท่องอินเทอร์เน็ตผ่าน VPN อาจถูกจำคุกสูงสุด 3 ปี หวังสกัดเสียงวิจารณ์บนโลกออนไลน์-บริจาคเงินช่วยรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG)
25 ม.ค. 65 สื่อพม่า เสียงแห่งประชาธิปไตยพม่า (DVB) และอิระวดี รายงานวานนี้ (24 ม.ค.) ว่า เมื่อ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร ภายใต้สภาบริหารแห่งรัฐ หรือ SAC สื่อสารผ่านแถลงการณ์เตรียมบังคับใช้ร่างกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ฉบับใหม่อีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้เคยเสนอมาแล้วครั้งหนึ่งแต่มีกระแสคัดค้านจากภาคธุรกิจจนต้องพับเก็บไป
หลายฝ่ายคาดว่า การออกกฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นการวิจารณ์กองทัพพม่าบนโลกออนไลน์ การบริจาคเงินให้ฝ่ายตรงข้ามกองทัพพม่าโดยเฉพาะรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือ NUG ซึ่งบ่อยครั้งใช้วิธีการระดมทุนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือต่างๆ รวมถึงเมื่อเดือนที่แล้ว (ธ.ค. 64) เผด็จการพม่าเพิ่งออกกฎหมายขึ้นภาษีข้อมูลอินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายมือถือ
สำหรับระบบ VPN ย่อมาจาก Virtual Private Network ซึ่งจะเปลี่ยนเลข IP ของผู้ใช้ เพื่อให้ระบบของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตมองเห็นเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณถูกใช้งานจากที่อื่น ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่าน VPN สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้นการเข้าถึงได้
เลขหมาย IP คือ สิ่งที่ระบุตัวตนของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ สามารถบอกได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์นี้ตั้งอยู่ที่ใด
อ้างอิงจากจดหมายที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์ กระทรวงคมนาคมและการสื่อสารเผยแพร่ร่างแก้ไขกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเสนอมาแล้วครั้งหนึ่งหลังทำรัฐประหารเมื่อ ก.พ. 64 โดยขอให้กระทรวงต่างๆ 13 กระทรวง หอการค้า ธนาคาร ผู้ให้บริการทางการเงิน ผู้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และผู้ให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต ส่งความเห็นภายใน 28 ม.ค. 65
ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะให้อำนาจแก่กองทัพสามารถอนุญาตบัญชีหมายเลข IP ของประชาชน ซึ่งส่งผลให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ใช้ VPN แต่ภายหลังกฎหมายตัวนี้มีอันต้องพับเก็บไปหลังทางสหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งสหภาพเมียนมา (UMFCCI) หวั่นเกรงส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจภายในประเทศ
เนโฟนลัต อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD ระบุว่า ผลจากกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ตัวใหม่จะส่งผลให้ผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านระบบ VPN มีความผิดตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี และปรับไม่เกิน 5 ล้านจ๊าต หรือราว 9 หมื่นบาท
อดีต ส.ส.พรรค NLD กล่าวด้วยว่า กฎหมายนี้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บ่งบอกว่า เผด็จการทหารตั้งใจบ่อนทำลายเสรีภาพบนโลกอินเทอร์เน็ตอย่างเด็ดขาด แต่ในอีกนัยหนึ่ง ก็พิสูจน์แล้วว่าการประท้วงบนโลกออนไลน์ของชาวพม่าประสบความสำเร็จ
“การสั่งจำคุกผู้ใช้ VPN เปรียบเสมือนกับการจำคุกคนทั้งประเทศ” เขากล่าวย้ำ
ขณะที่นักรณรงค์สิทธิดิจิทัลนิรนาม ระบุเธอเชื้อว่ากฎหมายจะผ่านออกมาช่วงต้นเดือนหน้า (ก.พ. 65)
“กองทัพพม่าพยายามแก้กฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์เมื่อเดือน ก.พ. 64 แต่มีการออกมาต่อต้านอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถคาดหวังแบบนั้นได้อีกครั้ง มันมีความกังวลว่ากองทัพพม่าจะทำทุกอย่างที่เขาต้องการเพื่อกำราบผู้ต่อต้าน เพราะแบบนี้ เราคิดว่า กฎหมายดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติช่วงต้นเดือน ก.พ.” เธอกล่าว
“แม้ว่าสภากองทัพจะได้รับคอมเมนต์ในแง่ลบกลับมาจากสถาบันทางสังคม หรือภาคเอกชน เขาจะไม่สนใจอีกแล้ว” เธอกล่าว พร้อมระบุว่า “ข้อเสนอแก้กฎหมายฉบับนี้เพื่อสกัดกั้นการปฏิวัติ ถ้ามีอะไรที่จะหยุดสาธารณชนไม่ให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต และช่วยสร้างความมั่นคงต่อการบริหารของกองทัพ ความเห็นต่างๆ ก็ไร้ความหมาย”
แปลและเรียบเรียงจาก