ศาลให้ประกัน 2 ทะลุแก๊ซ คดีขว้างระเบิดใส่รถสายตรวจ รวมถูกขังนาน 115 วัน

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยศาลให้ประกัน 2 ทะลุแก๊ซ ‘พิชัย-นฤเบศร์’ คดีขว้างระเบิดใส่รถสายตรวจ รวมถูกขังนาน 115 วัน - เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีผู้ชุมนุม ARMY57 ไปไม่มีกำหนดเป็นครั้งที่ 7

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2565 ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งให้ประกันตัว 2 สมาชิก ‘ทะลุแก๊ซ’ ได้แก่ พิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี และนฤเบศร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ในคดีซึ่งทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่าขว้างปาวัตถุคล้ายระเบิดใส่รถยนต์สายตรวจของสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2564 หลังทนายความยื่นขอประกันตัวทั้งสองเช้าวันนี้ โดยทั้งสองจะถูกปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในค่ำวันนี้ หลังถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. 64 ถึงปัจจุบันคิดเป็นเวลา 115 วันแล้ว  

ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดคุ้มครองสิทธิในคดีนี้ โดยจำเลยทั้งสองได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และศาลกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานเป็นวันที่ 7 มี.ค. 2565 เวลา 9.00 น. หลังจากนัดหมาย ทนายความยังได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวจำเลยทั้งสองรายต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยเสนอวางหลักประกันจำนวนคนละ 200,000 บาท และยินยอมให้ศาลติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) หากต้องการติดตามตัวจำเลย

อ่านข่าวนี้ฉบับเต็มได้ในเว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีผู้ชุมนุม ARMY57 ไปไม่มีกำหนดเป็นครั้งที่ 7

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2565 ศาลแขวงดุสิตนัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง กรณีการเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไปยังหน้ากองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2561 หรือคดี #ARMY57 เพื่อเรียกร้องให้ คสช. ไม่เลื่อนการเลือกตั้ง และยุติการสืบทอดอำนาจ หลังจากการยื่นอุทธรณ์คดีมาเป็นเวลาปีกว่า

ผู้แทนทนายความและ “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว ซึ่งเป็นจำเลยที่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาในคดี เดินทางมาศาล ต่อมาผู้พิพากษาศาลแขวงดุสิตได้แจ้งว่าศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคำพิพากษาในคดีนี้ ให้เลื่อนวันนัดฟังคำพิพากษาออกไป โดยไม่มีกำหนดวันนัดใหม่

ทั้งนี้ ชลธิชาได้แถลงวาจาต่อศาลว่า การเลื่อนนัดโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทำให้ได้รับผลกระทบในหลายๆ ด้าน เช่น ค่าเดินทางที่ต้องจ่าย เวลา และโอกาสในการทำงานที่เสียไป ดังในนัดก่อนหน้า  ตนได้รับการติดต่องานเข้ามา แต่เนื่องจากเป็นวันเดียวกันกับวันฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ จึงไม่สามารถรับงานนั้นได้ เพราะต้องเดินทางมาที่ศาล เมื่อถึงวันนัดและเดินทางมาถึงศาลแล้ว กลับมีคำสั่งเลื่อนนัดออกไปอีก ทำให้ตนเสียโอกาสในการได้ทำงานและได้ค่าจ้างนั้นไป

การเลื่อนอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในวันนี้ นับว่าเป็นการเลื่อนครั้งที่ 7 แล้ว หลังจากที่ชลธิชาได้รับหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2564 จากนั้นก็มีการเลื่อนการอ่านคำพิพากษาในนัดวันที่ 1 เม.ย., 19 พ.ค., 10 มิ.ย., 10 ก.ย. และ 30 ก.ย. 2564 โดยวันดังกล่าว ศาลเคยระบุเหตุผลในการเลื่อนว่ายังพิจารณาจัดทำคำพิพากษาไม่แล้วเสร็จ แต่กลับมีการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษามา และเลื่อนวันนัดเรื่อยมา

อ่านข่าวนี้ฉบับเต็มได้ในเว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท