Skip to main content
sharethis

“ส.ส.ฝ่ายค้านโดนไล่ฉีดวัคซีน 20 ล้าน 30 ล้าน โดนฉีดกันใหญ่ เตรียมจะย้ายพรรค” ทักษิณอยู่ดูไบยังรู้ว่ามี ส.ส.เพื่อไทยไปประชุมกับพรรครัฐบาล แจกคนละ 2 แสนต่อเดือน เอาเงินที่ไหนมา

ถามจริง คนดีย์มีศีลธรรมที่ไล่ทักษิณยิ่งลักษณ์เมื่อ 16 ปีก่อน 8 ปีก่อน รู้สึกอย่างไร กับการจ่าย 20-30 ล้านให้ ส.ส.ย้ายพรรค ปากบอกไม่เชื่อแต่ในใจก็รู้กัน นี่ไงผลงานรัฐประหารปฏิรูปการเมือง แต่บางคนอาจดีใจ ดีเสียอีก ดูด ส.ส.เพื่อไทยไม่ให้มันชนะเลือกตั้ง

อนุทินทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทักกี้มีบุญคุณ อ่านหนังสือ ว.วชิรเมธีดีกว่า ไม่อยากโต้ว่าพรรคไหนไล่ฉีดวัคซีน แต่ขณะเดียวกัน “หนูช่วยหน่อยนะ” ก็ให้ความมั่นใจประยุทธ์ว่ารัฐบาลมี 260 เสียง นับจากไหน? นั่นไง หนูคาบ 3 ส.ส.ก๊วนธรรมนัสหายวับไปกับตา

มองข้ามช็อตหลังฝ่ายค้านอภิปราย รถไฟฟ้าสีเขียวสีส้มคงผ่านฉลุย ทั้งที่ประชาชนคัดค้าน ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับการต่อสัมปทาน

รัฐบาลเสถียรภาพง่อนแง่น ทั้งขัดแย้งแย่งชิงแตกแยก แต่ยังอยู่ได้ทั้งที่ชาวบ้านบ่นทั่ว ประยุทธ์พูดหน้าตาเฉยเป็นพระเอกเป็นพระราม ไม่มีความรับผิดแต่ทวงบุญคุณ ซื้อวัคซีนล่าช้าแทงม้าตัวเดียว คนตายสองหมื่นกว่า ยังอวดว่าถ้ารัฐบาลไม่อนุมัติซื้อวัคซีนเพิ่ม สถานการณ์คงแย่กว่านี้

ฝ่ายค้านทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ ไม่ใช่เพราะมีผลงาน ไม่ใช่เพราะพรรคร่วมรัฐบาลสามัคคี แต่เพราะเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจพิเศษหนุนหลัง เป็นตัวแทนอำนาจอนุรักษนิยม ที่ควบคุมรัฐราชการทหารตำรวจกระบวนการยุติธรรมองค์กรอิสระ

นี่ถ้าเป็นรัฐบาลปกติ พรรคร่วมคงโดดหนี เรือล่มไปนานแล้ว หรือถ้าเป็นรัฐบาลเพื่อไทย ก็คงโดนรัฐประหารไปนานแล้ว

ทหารที่ไหนจะทำรัฐประหารล้มประยุทธ์ ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ทหารทำรัฐประหารอีกไม่ได้แล้ว ถึงแม้ทำง่ายประชาชนไม่สามารถต่อต้าน แต่ความล้มเหลวของรัฐประหาร 57 ที่สืบทอดอำนาจถึงวันนี้ ทำให้ไม่มีใครเชื่อแล้วว่า รัฐประหารปฏิรูปการเมืองได้ ปฏิรูปประเทศได้ ปราบโกงได้

รัฐประหาร 57 ควบคุมประเทศ 5 ปี ฟื้นโครงสร้างรัฐราชการเป็นใหญ่ รวบอำนาจสู่ศูนย์กลาง วางกติกาให้ตัวเองสืบทอดอำนาจผ่าน 250 ส.ว. และการดูดกวาด ส.ส.มาตั้งพรรค ในจินตภาพคงอยากเป็นพลเอกเปรม ที่ปล่อยให้พรรคการเมืองฟาดฟันกันในสนามเลือกตั้งแล้วค่อยไปเชิญมาเป็นนายกฯ พร้อมทีมงาน

แต่มันหาเป็นเช่นนั้นไม่ ในด้านแรก รัฐราชการใหญ่โตเทอะทะไร้ประสิทธิภาพ เปลืองงบอีกต่างหาก งบเงินเดือนงบประจำกำลังพอกพูนจนจะไม่เหลืองบลงทุนในอีกไม่กี่ปี

อีกด้านหนึ่ง การเมืองตั้งแต่เลือกตั้ง 62 ก็ถอยหลังไปสู่ยุคก่อนรัฐธรรมนูญ 2540 ย้อนไปสู่ระบบอุปถัมภ์ นักการเมือง “บ้านใหญ่” ทุนท้องถิ่น อิทธิพลท้องที่ รวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก๊วนหรือกระทั่งเป็นพรรค เพื่อแสวงผลประโยชน์

ไม่ได้ว่าพรรคไหน ลักษณะอย่างนี้มีอยู่ในหลายพรรค เลือกตั้งครั้งหน้ายังอาจมีพรรคเพิ่มอีก

การเมืองระบบอุปถัมภ์ในวันนี้ มีบางด้านพัฒนาไปไกลกว่ายุคก่อน 40 เช่น นักการเมืองเจ้าถิ่นสามารถยึดครองจังหวัดเป็นอาณาจักรของตน ให้บริการประชาชนดีทุกอย่าง ส่งเสริมการลงทุน การท่องเที่ยว การกีฬา สร้างเศรษฐกิจ สร้างความภาคภูมิใจ จนยึดได้หมดตั้งแต่ ส.ส.ไปถึงนายก อบต. ออกกฎกติกาเองก็ได้ ออกคำสั่งป้องกันโควิดเป็นรัฐอิสระ

แล้วอย่าไปว่ามีอิทธิพลอุ้มฆ่า นั่นมัน 30 ปีก่อน เจ้าพ่อเจ้าแม่ฆ่าเสี้ยนหนามหมดแล้วก็ส่งลูกไปเรียนเมืองนอก กลับมาเป็นนักการเมืองอัธยาศัยดี รู้จักวางตัวเข้าหาประชาชน

โมเดลอย่างนี้กำลังขยายไปทุกจังหวัด ประชาชนเลือกนักการเมืองที่ทำประโยชน์ให้พื้นที่ตัวเอง เข้าสู่การเมืองระดับชาติ มีอำนาจชี้ขาดการประมูล สัมปทาน ดึงโครงการเข้าจังหวัดตัวเอง ได้เป็น ส.ส. เป็นนายก อบจ. เทศบาล ชั่วลูกชั่วหลาน

นักการเมืองพันธุ์นี้ยังมีปมเด่นอีกอย่าง คือพยายามไม่เป็นศัตรูใคร ร่วมรัฐบาลได้ทุกฝ่าย ไม่มีความมุ่งหมายจะเป็นผู้กุมอำนาจ พูดง่ายๆ ไม่อยากเป็นนายกฯ เพราะไม่มีความกล้าหาญจะรับผิดชอบ ต้องการเพียงเก็บเกี่ยวอยู่ด้านข้างด้านหลัง ผลุบๆ โผล่ๆ คาบอาหารลงรู

เป็นพวกไร้จุดยืนทางการเมือง ไม่ใช่ทั้งอนุรักษนิยมและเสรีประชาธิปไตย ฉวยประเด็นเฉพาะหน้ามาเป็นนโยบาย เรื่องอะไรที่เป็นกระแสสังคม เช่นธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ก็ห้อยโหน

นักการเมืองแบบนี้ สมัยก่อนเรียกว่า “ปลาไหล” ไม่ได้ร่วมรัฐบาลอดอยากปากแห้ง แต่ใครจะว่าอย่างไร บรรหาร ศิลปอาชา ก็มีความกล้าหาญประกาศแก้รัฐธรรมนูญ จนได้เป็นนายกฯ ผู้ริเริ่มยกร่างรัฐธรรมนูญ 2540

นักการเมืองพันธุ์รูยุคปัจจุบัน คงไม่มีใครกล้าแบบบรรหาร ภายใต้อำนาจพิเศษค้ำประยุทธ์ นักการเมืองเหล่านี้ได้แต่หวังว่าจะรวมหัวกันเอาชนะเลือกตั้งให้มากที่สุด แล้วไปนั่งกระดิกรอให้ประยุทธ์ (หรือใครก็ตามที่อำนาจพิเศษเปลี่ยนตัวมา) เรียกไปร่วมรัฐบาล

ย้ำอีกที นักการเมืองพันธุ์นี้ไม่ต้องเจาะจงพรรคไหน ระบบ “บ้านใหญ่” ลามไปทุกพรรค สมัยหน้าถ้าพลังประชารัฐแตก ก็อาจเกิดอีกหลายพรรค จับกลุ่มตั้งก๊วน รอร่วมรัฐบาล

นั่นคือผลงานของรัฐประหารปฏิรูปการเมือง ทำให้การเมืองจากการเลือกตั้งอ่อนแอ

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_6894790

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net