'สนธิญา' ขอ บชน. ตรวจสอบ 'กองทุนราษฎรประสงค์' เข้าข่ายสนับสนุนการล้มล้างการปกครอง ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว เตรียมยื่นขอตรวจสอบพฤติกรรมกับอาจารย์ที่เกี่ยวข้อง
28 ก.พ.2565 The Opener และสยามรัฐ รายงานตรงกันว่า ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บชน. สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธาน กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องกองทุนราษฎรประสงค์เปิดรับบริจาค และประกาศระดมทุนเพื่อเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวผู้ต้องขังคดีอาญามาตรา 112 ต่อ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
สนธิญา กล่าวว่า ต้องการให้ตำรวจตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวโดยเฉพาะอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เป็นเจ้าของบัญชี ว่าเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่าให้ยุติการกระทำ กรณีเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันว่าเป็นการล้มล้างการปกครองก่อนหน้านี้ ซึ่งคำวินิจฉัยผูกพันกับทุกองค์กร และหากตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่า เข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุน ก็ให้ดำเนินการเพื่อให้ยุติการกระทำตามกฎหมาย
ซึ่งหลังจากนี้จะไปยื่นหนังสือถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมของอาจารย์ในสังกัดดังกล่าวด้วย
"สำหรับผู้ที่ร่วมบริจาคนั้นสามารถทำได้ แต่หากไม่มีการเปิดบัญชีเรียกรับบริจาคก็จะไม่มีผู้บริการ ดังนั้นจึงมุ่งไปที่การยับยั้งการกระทำของผู้เปิดรับบริจาคซึ่งมีเจ้าของบัญชีร่วม 2 คน และเห็นว่าหากจะระดมทุนช่วยเหลือก็ควรที่จะทำเงียบ ๆ หรือมีวิธีการหย่าร้างอย่างที่ทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำให้เอิกเกริก" สนธิญา กล่าว
ขณะที่วานนี้ (27 ก.พ.) เพจกองทุนราษฎรประสงค์ โพสต์ระบุว่า เมื่อวันที่ 25-27 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา กองทุนราษฎรประสงค์ ได้เบิกเงินจำนวนทั้งสิ้น 46,593.25 บาท โดยเป็นทั้งเงินประกัน เงินค่าปรับ และควันหลงจากพลังระดมในช่วงไม่กี่วันก่อน ที่ทำให้ยังต้องมีการคืนผู้บริจาคซึ่งโอนผิดบัญชีเนื่องจากสับสนกับคิวอาร์โค้ดของเราที่น่าจะยังค้างอยู่ในเครื่อง ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. วันที่ 25 ก.พ. 65 เบิกเงิน 30,000 บาท เพื่อวางประกันประชาชน 3 คนที่ถูก ศาลอาญาโดยผู้อำนวยการสำนักอำนวยการศาลอาญา กล่าวหาในคดีละเมิดอำนาจศาล จากเหตุชุมนุมหน้าศาลอาญาเมื่อ 23 ธ.ค. 64 ศาลอาญาเรียกหลักทรัพย์วางประกันคนละ 10,000 บาท รวม 3 คนเป็น 30,000 บาท ดังหลักฐานใบเสร็จในภาพที่ 3
2. วันที่ 25 ก.พ. 65 เบิกเงิน 800 บาท เพื่อชำระค่าปรับให้แก่ประชาชน 1 คน ที่ถูกตำรวจ สน.พหลโยธิน แจ้งข้อกล่าวหาจำพวกใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งวางสิ่งของกีดขวางการจราจร ฯลฯ จากกรณีชุมนุมคาร์ม็อบที่เคลื่อนขบวนจากยูเนี่ยนมอลล์ลาดพร้าวไปที่หน้าศาลอาญาเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 64 ดังหลักฐานใบเสร็จในภาพที่ 4
3. วันที่ 25 ก.พ. 65 เบิกเงิน 141 บาท และ 15,000 บาท เพื่อคืนให้แก่ผู้บริจาค 2 คนที่แจ้งมาว่าโอนเงินเข้าบัญชีผิดเนื่องจากสับสนคิวอาร์โค้ด โดยได้ส่งหลักฐานยืนยันมายืนยันและแอดมินได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว จึงได้โอนคืนกลับไปแล้วดังหลักฐานสลิปโอนเงินที่ผู้บริจาคนำมายืนยันในภาพที่ 5 และ 6 และหลักฐานสลิปโอนเงินคืนจากกองทุนในภาพที่ 7 และ 8
4. วันที่ 27 ก.พ. 65 ระบบธนาคารได้ตัดยอดเงิน 652.25 ออกจากบัญชีโดยอัตโนมัติ เพื่อคืนให้แก่ผู้บริจาคที่แจ้งไปยังธนาคารว่าตนโอนเงินผิด โดยทางธนาคารได้ติดต่อแอดมินเจ้าของบัญชีเพื่อขอความยินยอมก่อนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในกรณีแบบนี้แม้เราจะไม่มีหลักฐานสลิปโอนเงินมาแสดงเพราะเป็นการตัดยอดในระบบของธนาคาร แต่สามารถแสดงหลักฐานจากหน้ารายงานเคลื่อนไหวของบัญชีในภาพที่ 9 ที่จะเห็นขึ้นข้อมูลตัวเลขยอดเงิน 652.25 บาทที่หักลบออกโดยสาขาของธนาคารเอง
ภายหลังการเบิกจ่ายข้างต้น ยอดเงินคงเหลือในบัญชีคือ 13,706,278.26 บาท ดังหลักฐานในภาพที่ 1 ดูหลักฐานสรุปรายรับรายจ่ายในภาพที่ 2