Skip to main content
sharethis

แม้วิกฤตการระบาด COVID-19 จะค่อยๆ คลี่คลาย แต่คนทำงานในสหรัฐฯ บางส่วนจะเลือก 'สัตว์เลี้ยง' ก่อน 'งาน' ผลสำรวจชี้คนทำงานไม่อยากกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ ยังอยากทำงานทางไกลที่บ้านต่อไปเพราะไม่อยากทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ลำพัง - การนำนโยบาย 'สถานที่ทำงานเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง' มาใช้อาจเป็นทางออกของเรื่องนี้ ในยุคหลัง COVID-19


ที่มาภาพประกอบ: Thalia Tran/Unsplash

  • หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การระบาดของ COVID-19 เป็นโรคระบาดใหญ่ในเดือน มี.ค. 2563 ครัวเรือน 12.6 ล้านครัวเรือนในสหรัฐฯ นำสัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาเลี้ยง
  • แม้วิกฤตการระบาด COVID-19 จะค่อยๆ คลี่คลาย แต่คนทำงานในสหรัฐฯ บางส่วนจะเลือก 'สัตว์เลี้ยง' ก่อน 'งาน' ผลสำรวจหลายชิ้นชี้ว่าคนทำงานไม่อยากกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ ยังอยากทำงานทางไกลที่บ้านต่อไปเพราะไม่อยากทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ลำพัง
  • นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจระบุว่าพวกเขาจะไม่ออกจากงานหากนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงในที่ทำงานได้
  • การนำนโยบายสถานที่ทำงานเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง และมีสวัสดิการนำสัตว์เลี้ยงไปที่ทำงานได้ อาจเป็นทางออกของเรื่องนี้
  • แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะรักสัตว์ ถือเป็นความท้าทายขององค์กรในการจัดสวัสดิการให้แก่พนักงานท่ามกลางความแตกต่างหลากหลาย

พบคนทำงานไม่อยากกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ เหตุไม่อยากทิ้ง 'สัตว์เลี้ยง' ไว้ลำพัง

ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ขณะที่บริษัทต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ว่าจะเริ่มเปิดสำนักงานอีกครั้งหลังสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย แต่คนทำงานที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายต่อหลายคนกำลังอยู่บนทางแพร่งแห่งการตัดสินใจครั้งสำคัญ หลังผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าพวกเขากังวลว่าการกลับไปทำงานที่ออฟฟิศจะส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยง เพราะในช่วงการระบาดหลายคนแทบไม่เคยห่างจากสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเลย 

ในช่วงฤดูร้อนปี 2563 การสำรวจเจ้าของสัตว์เลี้ยง 3,000 ราย ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ ร้อยละ 20 มีกังวลว่าสัตว์เลี้ยงของพวกเขาจะมีความวิตกกังวลในการแยกจากกัน ต่อมาในฤดูใบไม้ผลิปี 2564 เมื่อการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมได้ช่วยให้คนอเมริกันกลับมาใช้ชีวิตได้เกือบปกติ มีผลสำรวจอื่นพบว่าความกลัวที่จะต้องแยกจากสัตว์เลี้ยงนี้เพิ่มขึ้นไปถึง ร้อยละ 69 เลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น ผลการสำรวจเจ้าของสุนัข 400 ราย โดยบริษัทผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง Honest Paws พบว่า ร้อยละ 67 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขาจะพิจารณาหางานใหม่ หากบริษัทของพวกเขาไม่อนุญาตให้ทำงานทางไกลอีกต่อไป ผู้ตอบแบบสอบถาม ร้อยละ 78 ระบุว่าพวกเขาจะยังคงทำงานที่เดิมหากนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงในที่ทำงานได้ ส่วนการสำรวจคนทำงาน 1,500 ราย โดยโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง Banfield พบว่ากลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่อายุระหว่าง 18-24 ปี กว่าครึ่งหนึ่ง และกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่อายุระหว่าง 25-40 ปี กว่า 1 ใน 3 ระบุว่าพวกเขาต้องการลาออกจากงาน มากกว่าถูกบังคับให้ทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้านตามลำพัง

สมาคมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงแห่งอเมริการะบุว่าครัวเรือน 12.6 ล้านครัวเรือนในสหรัฐฯ นำสัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาเลี้ยง ภายหลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้การระบาดของ COVID-19 เป็นโรคระบาดใหญ่ในเดือน มี.ค. 2563 ส่วนองค์กรไม่แสวงผลกำไร Shelter Animal Count ระบุว่ามีการขอสัตว์เลี้ยงอย่างน้อย 269,000 ตัว จากสถานสงเคราะห์สัตว์มาเลี้ยงเฉพาะในปี 2563 ซึ่งมากกว่าปี 2562 ประมาณ 36,000 ตัว 

นโยบายที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงของภาคธุรกิจ คือสวัสดิการของพนักงาน


การทำงานทางไกลที่บ้านในช่วง COVID-19 ทำให้คนทำงานแทบไม่เคยห่างจากสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเลย | ที่มาภาพ: Richard Burford (CC BY 2.0)

จากปรากฏการณ์ 'การลาออกครั้งใหญ่' (Great Resignation) ทำให้องค์กรทั่วสหรัฐฯ ต้องดิ้นรนเพื่อรักษาพนักงานของตนเองเอาไว้ โดยความต้องการของพนักงานอันดับต้นๆ ได้แก่ นโยบายที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบผสมผสานทั้งทำงานจากที่บ้านและในออฟฟิศ หรือการอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในสำนักงาน

บริษัทต่างๆ ในสหรัฐฯ กำลังค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ทำให้ทั้งคนทำงานและสัตว์เลี้ยงมีความสุข ในการสำรวจผู้บริหาร 500 ราย โดยโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง Banfield ผู้ตอบแบบสอบถามครึ่งหนึ่งกล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะเริ่มอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในสถานที่ทำงาน อีกร้อยละ 59 ระบุว่าพวกเขากำลังดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงเนื่องจากคำขอของพนักงาน ทั้งนี้บริษัทใหญ่ๆ เช่น Google, Amazon และ Ben & Jerry’s ก็ได้รับคำชื่นชมว่าเป็นองค์กรที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงมาเป็นเวลานานแล้ว

ในเดือน ธ.ค. 2563 PuppySpot บริษัทที่มีโมเดลธุรกิจการเชื่อมโยงผู้เพาะพันธุ์สุนัขกับผู้ซื้อในอนาคต ได้ละเมิดสัญญาเช่าที่สำนักงานใหญ่ในเมืองเวสต์ฮอลลีวูด รัฐฟลอริดา ด้วยการอนุญาตให้พนักงานนำสัตว์เลี้ยงมายังที่ทำงานได้ ต่อมาบริษัทได้ย้ายไปยังอาคารที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาเลี้ยงได้แทน แม้มันเป็นการตัดสินใจที่มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ผู้บริหารระบุว่ามันเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ เพราะครึ่งหนึ่งของพนักงานที่บริษัทว่าจ้างมาใหม่นั้นมีแนวโน้มจะถามว่า "สำนักงานเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงหรือไม่?" 

โจนาธาน เชอรินส์ ประธานกรรมการบริหารของ PuppySpot กล่าวว่าในที่สุดการที่จะสามารถตอบตกลงได้นั้นเป็น "ชัยชนะครั้งใหญ่" สำหรับความน่าเชื่อถือของ PuppySpot ในฐานะองค์กรที่รักสัตว์ เช่นเดียวกับความพยายามในการสรรหาบุคลากร "การนำสุนัขไปยังที่ทำงานด้วยได้นั้น เป็นค่าตอบแทนที่จับต้องได้อย่างแท้จริง" เขากล่าว

"การนำสุนัขไปยังที่ทำงานด้วยได้นั้น เป็นค่าตอบแทนที่จับต้องได้อย่างแท้จริง"

โจนาธาน เชอรินส์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท PuppySpot

ในสหรัฐฯ สถานที่ทำงานที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เป็นเวลาหลายปี การเติบโตนี้แม้จะดูเล็กน้อยแต่ก็เป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับผู้รักสัตว์ ตัวเลขปี 2562 นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2556 และมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา นอกจากนี้การวิเคราะห์โดย Instant Offices พบว่าการค้นหาออนไลน์สำหรับสำนักงานที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 และเพิ่มขึ้น ร้อยละ 22 ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 

แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะรักสัตว์

แม้การจัดสวัสดิการให้พนักงานนำสัตว์เลี้ยงมายังออฟฟิศได้อาจดึงดูดพนักงานได้กลุ่มหนึ่ง ในทางกลับองค์กรอาจต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงที่สัตว์เลี้ยงจะทำให้พนักงานเสียเวลาหรือเสียสมาธิ อาจมีปัญหาการเช่าสำนักงาน รวมถึงประเด็นทางกฎหมายและการประกันภัยที่สัตว์เลี้ยงอาจสร้างความเสียหายให้กับองค์กรได้

นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงพนักงานที่ไม่ชอบเลี้ยงสัตว์หรือมีปัญหาสุขภาพในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง (เช่นแพ้ขน) สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายขององค์กรในการจัดสวัสดิการให้แก่พนักงานท่ามกลางความแตกต่างหลากหลายยุคหลัง COVID-19 


ที่มาข้อมูล
Some Workers Are Choosing Their Pets Over Their Jobs as Offices Reopen, But Will Animal-Friendly Workplaces Catch On? (MELISSA CHAN, TIME, 7 July 2021)
Pet parents are seeking a sense of community. Employers can help (Katie Blakeley, Benefitspro, 30 December 2021)
Why Pets Are A Key Opportunity To Include In Your Business Plan (Aimee Gilbreath, Forbes, 5 January 2022)
Making post-pandemic working more pawsome (Nic Paton, Employee Benefits, 25 March 2022)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net