ส.ส.เพื่อไทย มั่นใจนโยบายพรรคโดนใจรากหญ้า ชี้สภาล่มเหตุฝ่ายรัฐบาลไม่รักษาองค์ประชุม

  • 'ปิยวัฒน ส.ส.เพื่อไทย' เชื่อนโยบายพรรคโดนใจชาวรากหญ้าชี้ปลายรัฐบาลเหตุสภาล่มเกิดจากฝ่ายรัฐบาลไม่รักษาองค์ประชุม ไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้าน
  • รมว.สำนักนายกฯ ย้ำขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ต้องเป็นธรรมกับนายจ้างด้วย ระบุที่ผ่านมารัฐบาลเน้นพัฒนาทักษะใหม่ Upskill / Reskill และ New Skill

12 ธ.ค.2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์การประชุมสภาผู้แทนราษฏรล่มติดต่อกันหลายสัปดาห์ พรรคร่วมรัฐบาลเรียกร้องนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้เปิดเผยรายชื่อส.ส.ที่ไม่ยอมแสดงตนเป็นองค์ประชุม ทั้งๆที่องค์ประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาล เมื่อจำนวนส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมีมากกว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน ดังนั้นหากสภาล่มก็มาจากส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ไม่ยอมอยู่เป็นองค์ ประชุมมากกว่า  

ทั้งนี้เนื่องมาจากเป็นช่วงปลายรัฐบาล และใกล้เลือกตั้ง บรรดาส.ส. ย้าย พรรคเป็นจำนวนมาก เพราะเกรงจะไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.กับพรรคการ เมืองที่มีการตกลงกันไว้ เพราะเกรงจะติดล็อกเงื่อนเวลา 90 วัน หากมีการยุบสภาใน เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ในส่วนขององค์ประชุมนั้นอยากให้นายชวน ตรวจสอบการกดบัตรแทนกันของฝ่ายรัฐบาล มากกว่าจะมาตรวจสอบฝ่ายค้าน หากบอกว่าฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือคงไม่ไช่เพราะส.ส.ฝ่าย ค้านไปร่วมประชุมเพื่อเปิดประชุมสภาทุกครั้ง แต่ปัญหาสภาล่มมาจาก ฝ่ายรัฐบาลไม่ยอมรักษาองค์ประชุมต่างหาก  ดังนั้นจึงไม่แปลกใจหากการประชุมสภาจะล่มอีกหลังจากนี้ 

ปิยวัฒน กล่าวด้วยว่า จากนี้ไปอีก 3 เดือนข้างหน้าเป็นช่วงที่จะเข้าสู่ฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ 8 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สร้างภาระหนักและความปวดร้าวให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำที่ลดลง สวนทางราคาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งน้ำมัน  ทั้งปุ๋ย ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว 
ในขณะเดียวกันราคาประกันรายได้ ราคาข้าวไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง พลเอกประยุทธ์ดีใจที่ไทยส่งออกข้าวได้มากแต่พลเอกประยุทธ์รู้หรือไม่ว่าใครได้ประโยชน์จากการส่งออกข้าว นายทุนใกล้ชิดที่กำไรมหาศาลหรือชาวนาที่แบกรับภาระต้นทุนทางการเกษตรหลังแอ่นในขณะเดียวกันการช่วยเหลือจากรัฐเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มคนชั้นกลางในขณะที่กลุ่มเกษตรกรหรือกลุ่มคนรากหญ้าเข้าไม่ถึงมาตรการของรัฐ

“หลังจากนี้เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองจะลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างเข้มข้น ประชาชนอดทนรอวันเลือกตั้งมานานแล้ว ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เร่งผลักดันนโยบายแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนเป็นหลัก เชื่อว่าประชาชน จะไม่ยอมรับพรรคการเมืองที่แจกเงินอีกแล้ว เพราะหลังเลือกตั้ง รัฐบาลทอดทิ้ง ไม่เหลียวแล ดังนั้นการเลือกตั้งในปี 2566 เชื่อว่าประชาชนจะให้ความ สำคัญกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายมุ่งแก้ปัญหา ปากท้องยกระดับราคาสินค้าเกษตร ไม่ปล่อยให้เงินเป็นปัจจัยสำคัญในการลง คะแนนเลือกตั้งอย่าง แน่นอน” ปิยวัฒน์ กล่าว

รมว.สำนักนายกฯ ย้ำขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ต้องเป็นธรรมกับนายจ้างด้วย ระบุที่ผ่านมารัฐบาลเน้นพัฒนาทักษะใหม่ Upskill / Reskill และ New Skill

สำนักข่าวไทย รายงานว่า ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยุทธศาสตร์แรงงานตลอดระยะเวลา 8 ปีภายใต้การบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ถือว่าพี่น้องแรงงานไทยเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงวางเป้าหมายสร้างการเติบโตรายได้ของพี่น้องแรงงานอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับและเน้นการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ให้แก่แรงงานทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย แม้ในช่วงโควิด-19 ก็ยังเดินหน้ามาตรการรักษาการจ้างงาน เสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการ และให้กระทรวงแรงงานเปิดช่องการจ้างงานใหม่ๆ ผ่านระบบออนไลน์ เช่น Smart Job Center ขณะเดียวกันยังกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ออกมาตรการ Upskill Reskill และ New Skill เพื่อพัฒนาแรงงานให้มีทักษะตรงตามความต้องการของนายจ้าง ส่งเสริมการเรียนรู้ทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มของภาครัฐ เช่น “ไทยมีงานทำ” และ Futureskill-newcareer ของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม รวมทั้ง โรงเรียนฝึกอาชีพ 10 แห่งของ กทม. หน่วยงานฝึกอาชีพของกระทรวงมหาดไทย การศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำของ กศน. สถาบันยานยนต์และสถาบันพัฒนา ผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพให้สอดคล้องกับแนวนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ( Creative economy) และอุตสาหกรรมใหม่ ที่เน้นการเพิ่มมูลค่าเพิ่ม (Value added) แม้ว่าตลาดแรงงานจะถูกท้าทายจากเทคโนโลยีดิสรัปชั่นและโควิด-19 แต่ก็ยังทำให้แรงงานไทยเป็นที่ต้องการทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

ธนกร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลยังสนับสนุนให้มีโครงการฝึกอบรมความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อพัฒนาแรงงานหรือพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความรู้และทักษะฝีมือสอดคล้องกับอุตสาหกรรม 6 กลุ่มเป้าหมาย (ดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ชีวภาพ ปัญญาประดิษฐ์ และหุ่นยนต์) โดยมีผู้ได้รับการฝึกอบรม จำนวน 5,671 คน โครงการยกระดับเพื่อเพิ่มศักยภาพฝีมือและสมรรถนะแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม รองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีของภาคอุตสาหกรรม/บริการ มีผู้ได้รับการฝึกอบรม จำนวน 28,304 คน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ/ผลิตภาพได้จัดฝึกอบรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบ SMEร กลุ่ม OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ จำนวน 17,407 คน รวมถึงมีการสำรวจข้อมูลความต้องการแรงงานของสถานประกอบการที่มีแรงงานต่ำกว่า 50 คนลงมา และบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลอุปสงค์และอุปทานกำลังคนเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 17,359 แห่งด้วย

“การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น ต้องคำนึงถึงภาพรวมที่ให้พี่น้องแรงงานมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมแก่นายจ้างด้วย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ผ่านมา จึงเป็นฉันทามติร่วมกันของคณะกรรมการไตรภาคี คือ นายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล เพื่อให้พี่น้องแรงงานเติบโตเคียงข้างไปกับเศรษฐกิจของประเทศได้ ไม่ใช่ประกาศว่าจะให้ค่าแรงขั้นต่ำเท่านั้นเท่านี้แบบไม่ปรึกษาหารือกับใคร แล้วค่อยไปหาวิธีเอาในอีก 4-5 ปีข้างหน้า ซึ่งมีแต่จะทำให้สังคมสับสนเปล่าๆ” ธนกร กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท