'ผสานวัฒนธรรม' นัดยื่นจม.ปิดผนึกถึง ปธ.ศาลฎีกา บ่ายพรุ่งนี้ จี้แก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับประกันตัวนักกิจกรรม

ภาพปก แฟ้มภาพแมวส้ม

'ผสานวัฒนธรรม' ชวนทุกภาคส่วนร่วมแสดงพลัง ยื่นจม.ปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา บ่ายพรุ่งนี้ จี้แก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับการประกันตัวนักกิจกรรม เร่งคลี่คลายวิกฤตศรัทธาโดยด่วน ศูนย์ทนายฯ เผยอาการ 'ตะวัน' มีอาการจุกอก หายใจถี่ขึ้น มีเลือดกำเดาออก หมอได้ขอให้พยาบาลมอนิเตอร์ตลอด หากค่าน้ำตาลต่ำลงไปกว่านี้ อาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นหมดสติได้ 'แบม' วิงเวียนตลอดเวลา

1 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ว่า วันที่ 2 ก.พ. 2566 เวลา 13.00 น. ที่ศาลฎีกา มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเชิญชวนเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม ประชาชน และสื่อ ร่วมแสดงพลังยื่นจดหมายปิดผนึกถึงศาลฎีกาด้วยกันเพื่อขอให้ประธานศาลฎีกาเร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราว การกำหนดหลักประกันและเงื่อนไข การถอนประกันตัว นักกิจกรรมทางการเมืองอย่างเร่งด่วน หลังทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และอรวรรณ ภู่พงศ์ หรือแบม มีอาการทรุดลงอย่างรุนแรงและสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการงดน้ำและอาหาร เข้าสู่วันที่ 14 เพื่อประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมที่ไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมและปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้อย่างแท้จริง

จากกรณีของโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท และณัฐนิจ ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ ตลอดจนกรณีผู้ต้องหาทางการเมืองอื่นๆ จำนวนกว่า 15 คน ผู้ถูกขังก่อนและในระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาลในขณะนี้ โดยไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว ทำให้เกิดการตั้งคำถามอย่างกว้างขวางท่ามกลางการจับตาอย่างใกล้ชิดของประชาชน ถึงการใช้อำนาจของผู้พิพากษาบางคนที่อาจไม่เป็นธรรม รวมถึงการใช้ดุลพินิจที่ขัดต่อหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ซึ่งได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญและกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งเห็นได้ว่าก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก สิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม (Fair trial) และไม่เคารพหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริสุทธิ์จนกว่าคดีจะถึงที่สุด (Presumption of innocence)

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งจดหมายปิดผนึกเรียนประธานศาลฎีกาไป โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อห่วงกังวลเรื่องความเป็นอิสระของผู้พิพากษา และการใช้ดุลพินิจในการพิจารณาสั่งไม่ให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง และควรปฏิบัติตามหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริสุทธิ์จนกว่าคดีจะถึงที่สุด (Presumption of innocence)เป็นสำคัญ โดยการอนุญาตให้ผู้ต้องหา/จำเลยถูกปล่อยตัว โดยเฉพาะกรณีของตะวัน และแบม อย่างไรก็ตาม จนบัดนี้มูลนิธิฯยังไม่ได้รับคำตอบหรือการติดต่อกลับแต่อย่างใด

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมกับองค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยกว่า 10 องค์กร ได้แก่ สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.), สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD) สถาบันสังคมประชาธิปไตย คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กลุ่มนักเคลื่อนไหวเผื่อประชาธิปไตย กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และโมกหลวงริมน้ำ จะร่วมเดินทางไปยังศาลฎีกาในวันที่ 2 ก.พ. 2566 เวลา 13.00 น. และนำจดหมายปิดผนึกฉบับนี้ยื่นให้ถึงมือของประธานศาลฎีกา เพื่อให้มั่นใจว่าตุลาการจะอำนวยความเป็นธรรมและเป็นเสาหลักอันศักดิ์สิทธิให้กับประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนและประชาคมนานาชาติและเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งต่อไป

ทั้งนี้ในเช้าวันเดียวกัน เวลา 11.00 – 12.30 น. ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (ห้องประชุมด้านหลัง) สี่แยกคอกวัว ถ.ราชดำเนิน เครือข่าย 8 องค์กรสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย จะจัดเวทีเสวนา “คำขานรับข้อเสนอตะวัน-แบม แนวทางการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย” ร่วมเสวนาโดย สมชาย หอมลออ, เมธา มาสขาว, ประกายดาว พฤกษาเกษมสุข, รัษฎา มนูรัษฎา ฯลฯ

สำหรับสถานการณ์ของทั้งคู่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยแพร่คำชี้แจงกรณี “ตะวัน” ทานตะวัน และ “แบม” อรวรรณ ประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

โดยระบุว่า

ในวันนี้ทนายความได้เข้าเยี่ยมตะวันและแบม ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในช่วงบ่ายของวัน

จากการพูดคุยทนายความได้ทราบว่า ตะวันมีอาการจุกอกเนื่องจากแสบท้องและมีอาการปวดท้องหนักกว่าวันที่ผ่านๆ มา หายใจถี่ขึ้น ไม่ทั่วท้อง และมีเลือดกำเดาออกมาเมื่อคืน โดยตะวันได้เล่าว่ารู้สึกเหนื่อยมากๆ แบบอธิบายไม่ได้ และตอนที่มีคนมาเยี่ยมก็ลุกไม่ไหวแล้วจึงลุกนั่งขึ้นมาคุยไม่ได้ ซึ่งค่าน้ำตาลของตะวันขณะนี้คือ 63 โดยตอนนี้ค่าน้ำตาลที่วัดได้จะขึ้นไม่ถึง 70 เลย โดยหมอได้ขอให้พยาบาลมาตรวจบ่อยๆ พร้อมกับคอยมอนิเตอร์ตลอดเวลา เพราะถ้าค่าน้ำตาลต่ำลงไปกว่านี้ อาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นหมดสติได้ นอกจากนี้มีพี่พยาบาลเอาลูกอมมาให้ ตะวันเล่าว่าได้รับมาเพื่อให้หมอสบายใจ แต่ตะวันจะไม่กิน

ตะวันยังเล่าต่อไปอีกว่า คุณหมอได้บอกว่าถ้าหมดสติไป หากฟื้นขึ้นมาสมองอาจจะทำงานได้ไม่เท่าเดิม เพราะสมองเอาน้ำตาลไปเป็นอาหาร ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ตะวันรู้สึกเครียดมากๆ เพราะตะวันเป็นคนคิดเลขเร็ว

ส่วนแบมได้แจ้งว่าตอนนี้จะนอนหลับยากมากๆ และเมื่อนอนหลับไปแล้วก็จะตื่นเป็นระยะๆ อยู่ตลอด เพราะไม่สบายตัวเลย โดยทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาแบมจะพยายามบอกตัวเองให้ตั้งสติก่อน และทุกการเคลื่อนไหวตอนนี้ทำให้แบมมีอาการวิงเวียนตลอดเวลา รู้สึกเวียนหัวและตัวโคลงเคลง นอกจากนี้แล้วตอนยืนแปรงฟันก็รู้สึกว่ากล้ามเนื้อของตัวเองเกร็งมากเหมือนเป็นตะคริว โดยในวันนี้ค่าโพแทสเซียมของแบมอยู่ในเกณฑ์ปกติค่อนไปทางต่ำ และพรุ่งนี้หมอจะมาทำการตรวจอีกครั้ง

แบมเล่าว่าเวลามีคนมาเยี่ยมจะรู้สึกเหนื่อยมากๆ แต่ก็พยายามที่จะทำตัวแอคทีฟและชวนพวกเขาคุย แบมพูดถึงกรณีที่พิ้งกี้ได้ถอดกำไล EM ว่า "หนูรู้สึกแย่มาก ทำไมพิ้งกี้ได้ถอดกำไล EM หนูเคยไปขอถอดกำไล EM เพราะทำงานไม่ได้ แล้วหนูไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับเข้าทำงาน ศาลบอกว่า 'เป็นเรื่องส่วนตัวของหนู ไม่ใช่เรื่องของศาล'

แล้วทำไมพิ้งกี้ศาลอนุญาตให้ถอดได้ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องงานเหมือนกัน

ทั้งคู่เล่าว่า เมื่อวานมีรัฐมนตรีมาหาและบอกว่า "จะเอาข้อเรียกร้องไปใส่ในยุทธศาสตร์ที่นายกฯ เป็นประธาน ตราบใดที่ผมยังดำรงตำแหน่งอยู่ ผมจะทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น อยากให้รับการรักษาก่อน"

โดยตะวันได้บอกว่า "หนูยังยืนยันเหมือนเดิมว่าจะไม่รับการรักษาและจะจิบแค่น้ำเท่านั้น" และหากรัฐมนตรีจะทำประการใดให้ทำไปได้เลยไม่ต้องสัญญา หลังจากนั้นทั้งคู่จะพิจารณาต่อไป

โดยในวันนี้จากการสังเกต พบว่าจากการพูดคุยตะวันมีการตอบสนองช้ากว่าปกติ

ข่าว