‘ก้าวไกล-สามัญชน-เป็นธรรม’ ประณามท่าทีรัฐบาลไทย ละเมิดกม.ระหว่างประเทศ จากกรณี ตม.ไทยส่งตัวทหารฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพม่า 3 คนกลับไปให้รัฐบาลพม่า ขณะกลับจากรักษาตัวที่ อ.แม่สอด จ.ตาก
10 เม.ย. 66 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อพม่าหลายสำนักรายงานตรงกันถึงกรณีสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยจับทหารกองกำลังปกป้องพลเรือน (PDF) 3 คนซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา ขณะกลับจากรักษาตัวที่ อ.แม่สอด จ.ตาก กลับไปให้รัฐบาลพม่า โดยมีรายงานในภายหลังว่าผู้ที่ถูกส่งกลับ 1 คนถูกสังหาร
จากกรณีดังกล่าว 3 พรรคการเมือง ได้แก่ ก้าวไกล สามัญชน และพรรคเป็นธรรม แสดงจุดยืนประณามท่าทีรัฐบาลไทย ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 3 และหลักทางการทูต ‘non-refoulement’ (หลักไม่ส่งกลับไปเผชิญอันตราย)
‘โรม’ ชี้คสพ.เผด็จการไทย-พม่า
ทำลายชีวิตคนทั้ง 2 ประเทศ
ทวิตเตอร์พรรคก้าวไกลกล่าวถึงความเห็นของรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกลระบุว่า
"เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความแนบแน่นของรัฐบาลเผด็จการไทยกับเผด็จการเมียนมาที่มีมาอย่างยาวนาน และเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ในเมียนมายากจะคลี่คลาย ทำให้สถานะของรัฐบาลไทยตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับการเป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญของรัฐบาลทหาร มิน อ่อง หล่าย"
ความสัมพันธ์เช่นนี้ กำลังทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง การส่งตัวทั้งสามคนกลับไปทำให้เป็นที่ชัดเจนว่าประเทศไทยไม่เคารพในเรื่องสิทธิมนุษยชน ทั้งที่รู้ว่าการส่งตัวกลับอาจทำให้ทั้งสามคนถึงแก่ชีวิตได้ ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านสิทธิมนุษยชนต่อเวทีต่างประเทศเลวร้ายลง เป็นเครื่องสะท้อนที่ชัดเจนว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยสนใจเรื่องสิทธิมนุษยชน
สายสัมพันธ์แบบนี้ยังส่งผลกระทบถึงสถานการณ์ภายในประเทศไทยเอง โดยเฉพาะในกรณีปัญหายาเสพติด ที่ทุกคนรู้กันจากข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่ายาเสพติดจำนวนมากข้ามมาจากฝั่งเมียนมา
กรณีของ ‘ส.ว. ทรงเอ’ เป็นหนึ่งในรูปธรรมถึงความแนบแน่นที่ชัดเจน คือความสัมพันธ์ระหว่างคนสนิทของ มินอ่องหล่าย อย่างทุนมินลัต กับ ส.ว. ทรงเอ ที่ถูกเลือกมาโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยังนำอาคารสำนักงานของตัวเองมาให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เป็นสำนักงานพรรคการเมือง
สังคมจึงย่อมตั้งคำถามได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองเผด็จการอำนาจมืดนี้ ได้ต่อยอดกลายเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับขบวนการค้ายาเสพติด ให้ทำธุรกิจค้ายาและฟอกเงินในประเทศไทยได้อย่างง่ายดายหรือไม่ และเงินที่ได้จากการค้ายาเหล่านี้เอง ก็ถูกส่งกลับไปที่เมียนมา เปลี่ยนเป็นอาวุธของกองทัพเผด็จการ นำไปใช้ห้ำหั่นประชาชนในประเทศเมียนมาต่อไป กลายเป็นวิกฤตสิทธิมนุษยชนไม่จบสิ้น
ความสัมพันธ์ระหว่างเผด็จการสองประเทศนี้ จึงมีส่วนอย่างมากในการทำลายทั้งประเทศไทยและทำลายประเทศเมียนมาเอง จึงเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดอย่างมาก ที่ประเทศไทยของเรามาไกลถึงขนาดนี้
“หน้าที่ของเราควรจะเป็นการแก้ปัญหาเมียนมา แต่ทำไมกลับกลายเป็นว่าเรามีส่วนสำคัญทำให้ให้วิกฤตการณ์ของเมียนมาเลวร้ายมากขึ้น ที่ชอบพูดกันว่าเราต้องสร้างสัมพันธ์อันดีเพื่อสร้างพื้นที่ในการพูดคุยแก้ปัญหาวิกฤตเมียนมา สุดท้ายขอตั้งคำถามว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้นหรือไม่ ความจริงแล้วรัฐบาลไทยใช้ความสัมพันธ์ของสองประเทศในการทำธุรกิจ ซึ่งนำไปสู่การทำลายล้างชีวิตมนุษย์ด้วยกันในทั้งสองประเทศหรือไม่”
‘กัณวีร์’ จี้ไทยหยุดส่งคนกลับไปตาย
แนะใช้มนุษยธรรมนำการเมือง
กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม โพสต์เฟซบุ๊กประณามท่าทีของรัฐบาลไทยที่ละเมิดหลักการไม่ส่งกลับไปเผชิญอันตราย (Non Refoulement) และละเมิดกฎหมายสงคราม อย่างอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 3 (Geneva Convention III) เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเชลยศึก
การส่งตัว 3 ทหาร PDF กลับไปเผชิญอันตราย สะท้อนให้เห็นจุดยืนทางการทูตของไทยต่อสถานการณ์ในภูมิภาค รวมถึงประชาคมโลก ที่เกี่ยวกับงานด้านสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม ประเทศไทยยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศตั้งแต่สมัยสงครามเย็น คือดีลตรงกับ “ผู้ถืออำนาจ” ในประเทศต่างๆ ไม่ว่าผู้ถืออำนาจนั้นๆ จะมาถูกต้องตามครรลองของระบอบการเมืองในประเทศนั้นๆ หรือไม่ เพราะต้องการรักษาสมดุลทางความมั่นคงเพื่อให้ไทยอยู่รอด โดยไม่คำนึงถึงหลักศีลธรรม ความเป็นธรรม ตามหลักการความมั่นคงของมนุษย์ ที่ถือหลักสิทธิมนุษยชนเป็นหัวใจสำคัญ
กัณวีร์กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยต้องหยุดการผลักดันคนกลับไปตายและเผชิญหน้ากับการประหัตประหารทุกรูปแบบ ประเทศไทยต้องเดินหน้าในการนำหลักการด้านมนุษยธรรมมานำในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์การลี้ภัยของชาวเมียนมาโดยเร็ว
‘พรรคสามัญชน’ ออกแถลง
จี้ไทยแจงเหตุใดจึงละเมิดกม.ระหว่างประเทศ
เฟซบุ๊กพรรคสามัญชนออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลไทยต้องชี้แจงต่อสาธารณะกรณีละเมิดกฎหมายป้องกันการทรมานและอุ้มหาย จากเหตุที่ ตม. จับกุมและส่งกลับทหาร PDF 3 คน จนเป็นเหตุให้ทหาร PDF ทั้งสามถูกทหารเมียนมาสังหารชีวิต
มีข้อเรียกร้องดังนี้
1. ประณามการกระทำของรัฐบาลไทยต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ไร้มนุษยธรรม ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำงานตามใบสั่งของรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา เข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม เหตุเพราะมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาผู้เป็นอาชญากรสงคราม
2. ขอให้รัฐบาลรักษาการณ์ของประยุทธ์ต้องออกมาชี้แจงต่อสาธารณะว่าเหตุใดถึงต้องละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภายในประเทศจากเหตุที่ ตม. จับกุมและส่งกลับทหาร PDF 3 คน จนเป็นเหตุให้ทหาร PDF ทั้งสามถูกทหารเมียนมาสังหารชีวิต
เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการณ์ของประยุทธ์ต้องออกมาชี้แจงต่อสาธารณะว่าเหตุใดถึงต้องละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภายในประเทศจากเหตุที่ ตม. จับกุมและส่งกลับทหาร PDF 3 คน จนเป็นเหตุให้ทหาร PDF ทั้งสามถูกทหารเมียนมาสังหารชีวิต
จากกรณีทางการไทยส่งตัวชาวเมียนมา 3 คน ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา ที่เข้ามารักษาอาการป่วยในประเทศไทย กลับไปให้รัฐบาลเมียนมา โดยมีรายงานในภายหลังว่าผู้ที่ถูกส่งกลับ 1 คน ถูกสังหาร
อ่านความเห็นของ @RangsimanRome โฆษกพรรคก้าวไกลต่อได้ใน Thread นี้#พรรคก้าวไกล pic.twitter.com/TNUqlAIa4j
— พรรคก้าวไกล 164 Move Forward Party (@MFPThailand) April 8, 2023