Skip to main content
sharethis

'โภคิน พลกุล' ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศพรรคไทยสร้างไทย มองแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่สร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ นโยบายไทยสร้างไทยขอดูแลคนไทยทุกช่วงวัยอย่างเป็นระบบ สร้างประชาชนให้มีความรู้ ทักษะ มีสุขภาพดี อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ - ‘เฉลิม’ ลั่นนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อไทย หากงบไม่พอก็รื้องบทหาร-งบลับนายก

13 เม.ย. 2566 Voice online รายงานว่าโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนประเทศพรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวโดยกล่าวถึงกรณีที่ พรรคเพื่อไทยมีนโยบาย แจกเงิน ดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านวอลเล็ต โดยตั้งคำถามว่า นโยบายการแจกเงิน ถูกต้องหรือไม่ ควรทำในระดับที่จำกัด เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในและความฝืดเคืองช่วงต้นๆ เพราะไม่ก่อให้เกิดผลผลิตใดๆ 

และเงินดิจิทัล คืออะไร ควรแจกทุกคนหรือไม่ ถ้าเท่าเทียมตามรัฐธรรมนูญ ทำไมต้องแจกตั้งแต่อายุ 16 ขณะเดียวกันเห็นว่า Decentralization Finance หรือการเงินแบบไม่รวมศูนย์ มีการสร้างเงินตราขึ้นใหม่ จนทำให้ เงินล้นโลก แต่อยู่ในมือคนเพียง 10% 

เงิน QE หรือ นโยบายทางการเงินที่ฉีกกดนโยบายแบบดั้งเดิม ไม่ทราบว่าเพิ่มเท่าใด

ส่วนเงิน ดิจิทัล คิดเป็นมูลค่าหลายล้านๆ ดอลลาร์จึงเกิดภาวะเงินเฟ้อที่ Fed (The Federal Reserve) ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตลอดตั้งแต่ปี 2565 จนวิตกกันว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย และเกิดการต่อต้านการครอบงำของ USDแจกให้คนจนทั่วโลกโดยเฉพาะช่วง Covid 19 ในรูปแบบต่างๆ แต่ก็กลับไปที่คนรวยอีก

พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่า รัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกำหนดสิทธิของประชาชนในการมีชีวิตที่ดีไว้อย่างไร

ในครรภ์ มาตรา 48 สิทธิของมารดาช่วงก่อนและหลังตลอด มาตรา 54 รัฐต้องให้เด็กทุกคนได้เรียนฟรี 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ ก่อนวัยเรียนและ วัยเรียน โดยในวรรค 2 เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษา วรรค 3 ประชาชนได้รับการศึกษาตามความต้องการ วรรค 5 ตามวรรคและ 2 และ วรรค3 ช่วยผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งจะมีกองทุนให้

ส่วนในมาตรา 77 วัยทำมาหากิน ยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็น เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพโดยไม่ชักช้าเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน มาตรา 48 วรรค 2 วัยเกษียณ บุคคลซึ่งมีอายุเกิน 60 ปีและไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ และบุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ

ดังนั้นโยบายพรรคไทยสร้างไทย จึงสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตของประชาชน ให้มีชีวิตที่มีศักดิ์ศรี มีความมั่นคงทุกช่วงวัย ต้องสร้างประชาชน ให้มีความรู้ ทักษะ มีสุขภาพดี ต้อง Liberate และ Empower ประชาชน ต้องสถาปนาความยุติธรรม ต้องขจัดคอรัปชั่นและธุรกิจสีเทา

ซึ่งผลของสงครามการเมือง 2 ขั้ว ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ยากจน ความใหญ่โตและสิ้นเปลืองหรือการกดทับของรัฐราชการ การทุจริตคอรัปชั่น

ธุรกิจสีเทาสีดำ การผูกขาด ทุนนิยมพรรคพวกจนทำให้ประชาชนพ่ายแพ้เจ็บปวดมาตลอด17ปีและเสพติดการแจก การช่วยเหลือแบบครั้งคราวเฉพาะหน้า ไม่ยั่งยืน พรรคไทยสร้างไทยจึงมียุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ซึ่งต้องใช้งบประมาณ 600,000 – 700,000 ล้านปี

โดยตัดงบประมาณที่ฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็น 10% ของงบรายจ่ายประจำปี จะได้เงินในส่วนดังกล่าวประมาณ 300,000 ล้านบาท พร้อมกับการ เอาธุรกิจใต้ดินขึ้นบนดิน จะสามารถจัดเก็บรายได้ เพิ่มประมาณ ถึง 300,000-400,000 ล้านบาท

ซึ่งคาดว่า คนที่ได้รับการดูแลจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินตลอดปี ซึ่งถ้า เกิดการหมุนเวียน แค่เพียง 3 รอบ จากเงิน 700,000 ล้านบาท จะทวีคูณ เป็น 2,100,000 ล้านบาท ซึ่งหากเงินหมุนเวียน ได้เหมือนที่บางพรรคทำ 6 รอบใน 6 เดือน ก็จะเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

โภคิน ระบุว่า การขับเคลื่อนนโยบายทั้งระบบไม่ใช่ประชานิยมแบบที่ทำให้ประชาชนเป็นขอทาน ต้องไม่ทำให้ประชาชนเป็นขอทาน เป็นทาสของแต่ละขั้ว อยู่ท่ามกลางความยากจน เกลียดชังซึ่งกันและกันตามความเชื่อที่ผูกพันกับขั้วที่ตนชอบ ถูกหลอกให้เจ็บปวด ล้มตาย ชีวิตครอบครัวล่มสลายมา 90 ปีแล้ว โดยเฉพาะ 17 ปีนี้ยิ่งเลวร้ายที่สุด

ดังนั้นต้องใช้เงินสร้างคน จ้างงาน ลดความเครียด ความเสี่ยง แต่ละช่วงวัย เติมความรู้ ทักษะ เติมโอกาสใช้เทคโนโลยีของระบบ ดิจิทัล อำนวยความสะดวก สร้างพลัง ประชาชนต้องไม่หลงเชื่อหรือเป็นเหยื่อของการชักจูง เพื่อให้พรรคบางพรรคได้อำนาจและพาประเทศไปเสียหายยิ่งกว่าเดิมต้องลุกขึ้นปฏิวัติ อย่ายอมแพ้อำนาจเงิน ยอมแพ้อำนาจรัฐ ยอมแพ้อำนาจอิทธิพล บ้านใหญ่ต่างๆการชักจูงหลอกล่อ ด้วยการแจกเงินในอนาคตที่ไม่ยั่งยืน และไม่ได้สร้างคนให้เข้มแข็งแต่อย่างใด

‘เฉลิม’ ลั่นนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อไทย หากงบไม่พอก็รื้องบทหาร-งบลับนายก

มติชนออนไลน์ รายงานว่าเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2566 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวราวุธ ยันต์เจริญ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 29 เบอร์ 9 เขตบางแค (เฉพาะแขวงบางแคเหนือ) และแขวงบางไผ่, เขตหนองแขม (ยกเว้นแขวงหนองแขม) ร่วมพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรค พท. ซอยบางแวก 97 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีพี่น้องประชาชนผู้สนับสนุนพรรคมาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.อย่างอบอุ่น

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็น ส.ส.สมัยแรกเริ่มต้นที่เขตบางแค วันนี้ได้กลับมาช่วยนายกฤชนนท์หาเสียงที่เขตบางแคอีกครั้ง รู้สึกอบอุ่นใจและมั่นใจว่าพรรค พท.จะชนะเลือกตั้งในเขตบางแคนี้แน่นอน ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่านโยบายเงินดิจิทัล ไม่มีกฎหมายรองรับและถ้าเข้าสภา ส.ว.จะคว่ำนโยบายนี้ว่า นายไพบูลย์พูดไร้สาระ เหมือนมีคนเขียนบทละครมาให้ ขอเรียนว่า คนที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายพรรค พท.เขาตกใจกับนโยบายของพรรค พท. เพราะทีมงานพรรคได้คิดผลิตนโยบายออกมาอย่างละเอียด รอบด้าน ตอบโจทย์ทั้งในมิติเศรษฐศาสตร์ มิติด้านกฎหมาย มิติด้านสังคม นโยบายเดียวสามารถแก้ปัญหาให้พี่น้องได้หลายมิติในเวลาเดียวกันและทรงพลังจนพวกเขาเหล่านั้นนั่งอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ดังนั้น ถ้าใครถามอะไรพรรค พท.ตอบได้ทั้งหมด

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่า งบประมาณปี 2567 เหลืองบประมาณให้ใช้แค่ไม่ถึง 200,000 ล้านบาทเท่านั้น ตนขอบอกว่าที่เงินไม่พอก็เพราะพวกคุณใช้กันไปแบบไร้ประโยชน์ และถ้าเงินไม่พอจริง ผมก็จะไปรื้องบทหาร งบซื้อเรือดำน้ำ และงบลับของนายกรัฐมนตรีที่เขาปิดปากเงียบไม่เอ่ยถึง ถ้าไม่พอเราจะไปค้นมาใช้เอง

“บอกเงินเหลือแค่ 200,000 ล้านบาทไม่พอใช้ ไม่เป็นไร ถ้าเงินไม่พอ งบเรือดำน้ำเราจะซื้อไปทำไม กฎหมายเรารู้ ระบบราชการเรารู้ เราจะไปรื้องบทหาร งบลับที่นายกฯนั้นแหละถืออยู่เงียบๆ เราจะไปเอางบที่ใช้กันอีลุ่ยฉุยแฉก เอามาเป็นงบประมาณมาใช้เพื่อปากท้องและความกินอยู่ที่ดีของประชาชน” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ด้านนายสุริยะกล่าวว่า ทีมงานของพรรค พท.ทำงานอย่างมียุทธศาสตร์ มีหลักคิด ทุกนโยบายของ พท.เช่นนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตอบโจทย์อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะเราคิดทั้งระบบภาพรวม ไม่ได้คิดออกมาเป็นส่วนๆ ดังนั้น ถ้ามีคนวิพากษ์วิจารณ์นโยบายจุดไหน เราพร้อมยินดีตอบคำถาม และขอให้พี่น้องเชื่อใจว่าทุกนโยบายของ พท.ทำได้ ทำจริง และถ้าเลือก พท.ให้แลนด์สไลด์เป็นรัฐบาลเมื่อใด เราจะลงมือทำนโยบายทันทีให้ประสบความสำเร็จเหมือนสมัยที่พรรคไทยรักไทยเคยทำในอดีต

ขณะที่ นางพวงเพ็ชรกล่าวว่า พรรค พท.มีทีมทำนโยบายมากกว่า 15 ทีม อย่างนายกฤชนนท์ ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการค้าขาย และเขาลงพื้นที่จริง จึงเห็นปัญหาของพี่น้อง เราเก็บปัญหามาคิดและทำนโยบายตามที่พี่น้องสะท้อน ถ้า พท.เป็นรัฐบาล จะลดราคาค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันทันที จะเพิ่มค่าแรงได้ทันทีในปีแรก และจะเพิ่มถึง 600 บาทต่อวัน ได้ภายในปี 2570 พี่น้องบางแคจะได้รักษา 30 บาทรักษาทุกโรค ตรวจรักษาผ่านระบบเทเลเมดิซีน และเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะช่วยพี่น้องให้ฟื้นจากเศรษฐกิจที่ล้มฟุบได้ทันที ขอให้เลือก พท.ไม่ลังเลใจ เลือก พท.ทั้ง 2 ใบ เลือก พท.เบอร์ 29 เลือกนายกฤชนนท์ เบอร์ 9 เท่านั้น

นายกฤชนนท์กล่าวว่า พรรค พท.มีนโยบายที่เน้นการอยู่ดีของพี่น้องทุกกลุ่ม เปรียบเทียบกับโครงการเดิมๆ ของรัฐบาลปัจจุบันที่อ้างว่าให้เงินกับคนจน แต่คนจนได้ประโยชน์แค่ไม่กี่ล้านคนและเงินไหลไปรวมอยู่ในกระเป๋าผู้ประกอบการร้านค้าใหญ่ๆ แค่ไม่กี่ราย แต่โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะเป็นประโยชน์กับคนไทย 50 ล้านคน เงินทุกบาทจะถูกนำไปใช้หมุนเวียนอยู่ในชุมชน ร้านค้า ผู้ประกอบการ คืนกลับมาเป็นแวตภาษีให้กับรัฐบาล ดังนั้น นโยบายดีๆ ที่มีคนได้ประโยชน์มากกว่า 40-50 ล้านคน ทำไมพรรค พท.จะไม่ทำ


 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net