Skip to main content
sharethis

สงกรานต์รถติด ถนนมิตรภาพมีกี่เลนก็ขับช้าเท่ากัน แต่ถ้าเดินทางหลังคนอื่น รถโล่งยิ่งกว่าวันธรรมดา เพราะรถบรรทุกห้ามวิ่ง

ขับรถเสาร์อาทิตย์หงุดหงิดกว่า เพราะต้องแซงซ้ายแล้วกลับเข้าขวา เนื่องจากรถคันหน้า ขับปลอดภัย ขับประหยัดพลังงาน ขับ 90 ชิดขวาสุด ทั้งที่ป้ายทางหลวงบอก 100-120

ครั้นจะเปิดไฟสูงหรือบีบแตรขอทาง ก็กลัวหาว่าเปิดไฟไล่ บีบแตรด่า รถคันหน้าทำปากหมุบหมิบ ถนนของพ่อ-หรือไง ถนนสร้างจากภาษีประชาชน (โว้ย) ทุกคนมีสิทธิใช้เท่ากัน

ครับผม แต่มันมีกฎจราจร เลนขวามีไว้แซง “รถช้ากว่าชิดซ้าย”” ซึ่งคงกระทบอีโก้ ไม่มีใครอยากเป็นคน “ช้ากว่า” ทางหลวงทุกสายในประเทศไทย มีกี่เลนจึงขับเท่ากันหมด กฎช้าชิดซ้ายแทบไม่บังคับใช้ ตำรวจมีแต่กล้องจับความเร็ว ไม่มีกล้องจับความช้า

ใช่ละ ประเทศนี้มีพวกขับรถเร็วนิสัยเลวๆ เยอะ ปาดป่ายไปมาน่ากลัวชนเราตาย แต่ขับช้าชิดขวา ซึ่งทำให้รถเร็วกว่าต้องแซงซ้าย ก็เพิ่มอันตรายไม่น้อยเช่นกัน

สังเกตไหม พวกขับเร็วและเลวไม่ยักกลัวใบสั่ง ทางตรงรถโล่งเราเผลอเร่ง 121 เท่านั้น โดนบังคับไม่จ่ายใบสั่งไม่ให้ต่อทะเบียน

ทำไมกฎจราจรประเทศนี้ไม่ค่อยมีคนเคารพ บังคับใช้ไม่ได้ผล อันดับแรก ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เชื่อว่ากฎหมายบังคับใช้เสมอหน้ากัน

ถัดมาคือความไม่สมเหตุสมผล ไม่ได้สัดส่วน ยกตัวอย่างทางหลวงจำกัดความเร็ว 120 ทางด่วน 100-110 ทั้งที่ทางด่วนไฟสว่าง ไม่มีมอเตอร์ไซค์ ไม่มีคนข้ามถนน

ทางด่วนบางช่วงขีดเส้นทึบ ห้ามเปลี่ยนเลน “พื้นที่กวดขันวินัยจราจร” ทั้งที่เป็นช่วงซึ่งเราจะเปลี่ยนเลน ไม่งั้นต้องขับตามก้นคันหน้าเป็นกิโล ออกกฎมาให้คนขับรถตามปกติวิสัย กลายเป็นคนผิดวินัยจราจร

ทำไมคนขับ “ช้าชิดขวา” จึงไม่ค่อยรู้สึกผิด ก็เพราะแม้เป็นกฎ แต่การรณรงค์ทั้งหลายทั้งโดยรัฐโดยเอกชน ล้วนเรียกร้องให้คนขับช้า ช้าไว้ปลอดภัยกว่า ช้าไว้เป็นคนดี มีระเบียบวินัย ฯลฯ คนขับช้าชิดขวาจึงหมุบหมิบด่าคันหลัง จะรีบไปตายไหน ทั้งที่ไม่ได้ขับเร็วเกินกฎ กฎมีไว้ให้ขับช้าหลีกคนขับเร็ว

แต่บางคนก็คิดว่า ความเป็นคนดี ต้องยับยั้งพวกใจเร็วด่วนได้ แบบ “ทำถนนลูกรังให้หมดก่อน”

สงกรานต์ “เทศกาลห้ามตาย” ซึ่งบานปลายปลอดเหล้า ห้ามแป้ง ห้ามโป๊ ก็เป็นตัวอย่างของการเข้มงวดเกินเลย

ทั้งที่ควรห้ามแค่เมาขับ ทะเลาะวิวาท ละเมิดสิทธิ ลวนลามทางเพศ แต่รัฐอนุรักษนิยมอยากจัดระเบียบ ให้เป็นสงกรานต์พับเพียบเรียบร้อย

ประเพณีพื้นบ้านไทยแต่เดิม สงกรานต์คือเทศกาลปลดปล่อย ให้ละเล่น สนุกสนาน ละเมิดข้อห้ามโดยไม่ถือสา ไม่ว่าเด็กผู้ใหญ่ สมัยก่อนจึงมีการจับพระโยนน้ำ

สงกรานต์ยังเป็นประเพณีบวงสรวงก่อนเริ่มฤดูการผลิตใหม่ ฝนใหม่ หมักบ่มแป้งจนได้ที่ เลี้ยงผีบรรพบุรุษ แล้วเฉลิมฉลองกันสนุกสนาน

สงกรานต์กับเหล้าจึงเป็นของคู่กัน สงกรานต์สนุกเพราะมันยกเว้นกฎเกณฑ์แบบแผน เพียงแต่เมื่อเข้าสู่ยุคใช้รถกระบะเล่นน้ำ ก็ต้องห้ามเมาขับ จำกัดความเร็ว และหามละเมิดสิทธิ ฉวยโอกาสลวนลาม

เท่านั้นเอง ที่ต้องห้าม แต่ทำไม ถนนคนเดินเล่นน้ำซดเบียร์ ประแป้งหน้าลาย ตั้งเวทีแดนซ์กระจาย ร้อนก็ใส่สายเดี่ยว ฯลฯ จึงต้องห้ามไปด้วย

รัฐอนุรักษนิยมอยากให้สงกรานต์เป็นวันไหว้พระ เคารพผู้ใหญ่ เล่นน้ำในกรอบเกณฑ์ ไม่ใช่วันแหกกฎอีกต่อไป ไม่เอาสงกรานต์แบบบ้านๆ พระ,หมอ ผู้หวังดีก็รณรงค์ “สังสรรค์ไร้แอลกอฮอล์” มันไม่ใช่ผิดแค่เมาขับ แต่เหล้าเป็นบาป ผิดศีล เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

แล้วยังสอดคล้องกับส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำสงกรานต์เป็นประเพณีดีงามในภาพวาด เพื่อเป็นจุดขายนักท่องเที่ยวต่างชาติ แถลงว่าจะมีคนมาเที่ยวเท่านั้นเท่านี้ ทำเงินเข้าประเทศกี่หมื่นล้าน (ทั้งที่ฝรั่งจีนแขกก็อยากมาแดนซ์ซดเบียร์ยิงปืนฉีดน้ำ)

แล้วสังเกตไหม ความพยายามควบคุมสงกรานต์ก็เหมือนพยายามควบคุมการเลือกตั้ง ไม่ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ตามปกติวิสัย ของการแข่งขัน

ผู้สมัคร ส.ส.จะหาเสียงในเทศกาล กกต.รีบแจกใบสั่ง ห้ามแจกของห้ามจัดเลี้ยงพอเข้าใจ แต่ห้ามมหรสพรื่นเริง ถ้าเขาไม่ได้จัดเอง กองเชียร์จัดกันครื้นเครงแล้วไปร่วม จะผิดไหม

ก่อนสงกรานต์กระทั่งรถแห่หาเสียง กกต.ก็ห้ามเปิดเพลง ให้ใช้เพลงพรรคได้เท่านั้น เดี๋ยวจะเป็นมหรสพ ห้ามผู้สมัครร้องเพลง ทั้งที่ก่อนนี้เคยตีความว่าร้องสดได้ แต่ห้ามใช้ดนตรี

ว่าที่จริงนะ สงกรานต์ตามจุดต่างๆ ถ้าพรรคการเมืองจะไปตั้งเวทีแดนซ์กับชาวบ้าน โดยไม่จัดเลี้ยงไม่แจกของ ก็ไม่น่าผิดตรงไหน แต่ กกต.คงมองเป็นมหรสพ สนุกไม่ได้ รื่นเริงไม่ได้ ต้องพับเพียบ ร้องเพลงไม่ได้ กลัวคนหลงเสน่ห์ ต่อไปน่าจะห้ามสวยหล่อ ห้ามแต่งหน้าไปหาเสียง

เราอยู่ในระบบเลือกตั้งที่ทำอะไรก็ผิด ขับ 121 โดนใบแดง แต่ไอ้พวกขับรถเลวเต็มเมือง พวกซื้อเสียงฉ้อโกงโจ๋งครึ่ม กกต.ก็ยังขับช้าชิดขวา บีบแตรด่าก็ไม่ได้ แล้วแทนที่จะอยู่เที่ยวสงกรานต์ส่งเสริมประเพณีไทย ก็ไปดูงานเมืองนอกเสียอีก

“ขับช้าชิดขวา” เจอนโยบายเศรษฐกิจเล่นใหญ่ ตกใจ ไม่เคยพบเห็น จะดีหรือแย่ก็ให้ประชาชนตัดสินใจ ให้พรรคการเมือง ให้นักเศรษฐศาสตร์ถกเถียงกัน

ไม่ใช่ต้องยื่น กกต.ชี้ถูกผิด ตั้งข้อหาหลอกลวงประชาชน ตัดสิทธิติดคุก

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7611566

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net