‘เศรษฐา’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปราศรัยที่วังสะพุง จ.เลย ท่ามกลางประชาชนกว่า 3,000 คน ประกาศชัด ‘เพื่อไทย’ ไม่จับมือพรรคพลังประชารัฐ – รวมไทยสร้างชาติ ต่างคนต่างอยู่ทางการเมือง เพราะสองพรรคนี้มีส่วนร่วมในการทำรัฐประหาร
21 เม.ย. 2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยรายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (21 เม.ย.66) เวลา 18.30 น. เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยกล่าวปราศรัยที่โรงเรียนบ้านวังสะพุง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ท่ามกลางประชาชนร่วมรับฟังกว่า 3,000 คน
“มีคำถามตลอดว่าพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ พี่น้องอยากให้ไปร่วมหรือไม่ พอแล้ว 8 ปีที่ผ่านมายืนยันชัดเจนว่าไม่จับมือกับสองพรรคนี้ เพราะสองพรรคนี้มีส่วนร่วมในการทำรัฐประหาร ปล้นอำนาจ อธิปไตยประชาชน บอกว่าเราเป็นเรือใหญ่ เขาเป็นเรือเล็กพายอยู่ข้างๆ ไม่ต้องมาอยู่ข้างๆ ต่างคนต่างอยู่ ไม่ร่วมกันแน่นอน” เศรษฐา กล่าว
เศรษฐา ทวีสิน หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย
เศรษฐาระบุ ทุกวันนี้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องค่าไฟฟ้า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลภายใน 4 ปี ค่าไฟจะทำให้ลดลงทันที และรายได้ของเกษตรกรจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า ผ่านการทำตลาดที่เฉลียวฉลาด รัฐบาลที่ผ่านมาทำให้เกิดภาวะแล้ง ปัญหานี้จะหมดถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ ทำเป็นมาโดยตลอด คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปจะมีเงิน 10,000 บาทจากดิจิทัลวอลเล็ต คนรุ่นใหม่ หากไม่อยากเป็นทหารก็จะมีนโยบายให้สมัครใจเป็นทหาร ไม่จำเป็นต้องคัดเลือก ทั้งนี้ประชาชนมีวิธีรักชาติต่างกันไป เป็นหมอ เป็นครู ก็รักชาติได้
ส่วนเรื่องยาเสพติดที่หาซื้อง่ายในปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยจะบำบัดผู้ป่วยและป้องกันไม่ให้กลับไปเป็นผู้เสพยาอีกครั้ง และนายกรัฐมนตรีต้องนั่งหัวโต๊ะจัดการปัญหานี้ให้เด็ดขาด
“ผมในฐานะมือใหม่ทางการเมือง ผมเห็นแววตาที่พี่น้องเดือดร้อน ผมอายุ 62 ปี ถึงจุดที่ว่าไม่ไหวแล้ว ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า วันที่ 14 พฤษภาคมเข้าคูหากาเพื่อไทย 2 ใบ ให้ผู้สมัคร ส.ส. เลยทั้ง 4 คน ได้เข้าสู่สภา และเลือกเบอร์ 29 ของพรรคเพื่อไทย เลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ยกจังหวัด และให้นายกรัฐมนตรีมาจากพรรคเพื่อไทย” เศรษฐา กล่าว