อัยการนัดหมายยื่นฟ้อง "ตี๋" (สงวนชื่อ-นามสกุล) นศ.ป.โท ม.นเรศวร เอี่ยวแจกหนังสือ "บทปราศรัยคัดสรรคดี 112" ในงานรับปริญญามหาวิทยาลัย ก่อนได้ประกันตัว 
 

1 ก.ย. 2566 เว็บไซต์ "ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน" รายงานวานนี้ (1 ก.ย.) เวลา 9.30 น. ที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก พนักงานอัยการนัดหมายยื่นฟ้อง “ตี๋” (สงวนชื่อ-นามสกุล) นักศึกษาปริญญาโท คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เหตุเกี่ยวข้องกับการแจกหนังสือ “บทปราศรัยคัดสรรคดี 112” ในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2564 โดยศาลให้ประกันตัว ไม่ต้องวางหลักทรัพย์

สำหรับคดีนี้มี พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ บุญเยี่ยม เป็นผู้กล่าวหา โดยเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2566 ตี๋ถูก พ.ต.ท.มนู หรศาสตร์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ออกหมายเรียกเพื่อไปให้การเป็นพยาน แต่เมื่อเดินทางไปที่สถานีตำรวจ พนักงานสอบสวนกลับแจ้งข้อกล่าวหาว่าดูหมิ่น หมิ่นประมาทหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทำให้ตี๋ตกเป็นผู้ต้องหาในทันที โดยเขาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ต่อมา ตำรวจได้นัดหมายส่งสำนวนคดีให้พนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2566 ก่อนอัยการจะพิจารณาสำนวน โดยมีการนัดหมายฟังคำสั่งมาแล้ว 3 ครั้งในแต่ละเดือน จนมีความเห็นควรสั่งฟ้องในวันนี้

เวลา 9.30 น. ตี๋ เดินทางมาตามนัดของอัยการ โดยมีทนายความและอาจารย์ร่วมเดินทางไปที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก เพื่อทำเรื่องขอประกันตัวระหว่างพิจารณา

ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น. ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยโดยไม่ต้องวางหลักประกัน เนื่องจากตี๋ยังเป็นนักศึกษา และไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี แต่ให้จำเลยทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลว่าหากไม่มาตามนัด จะยินยอมให้ปรับเป็นเงิน 150,000 บาท และกำหนดวันนัดพร้อมคดีต่อไปวันที่ 2 ต.ค. 2566

ฟ้องกล่าวหาว่าเป็นผู้แจกจ่ายหนังสือ รวมคำปราศรัย ทำให้ ร.10 ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

สำหรับคำฟ้องโดยสรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2564 ซึ่งเป็นวันที่กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ มาประธานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร จำเลยได้แจกจ่ายหนังสือบทปราศรัยคัดสรรคดี 112 มีข้อความว่า “ประเทศนี้เป็นของราษฎร ไม่ใช่กษัตริย์ ตามที่เขาหลอกลวง” เล่มสีขาว ให้แก่บุคคลทั่วไป 

คำฟ้องได้ยกข้อความบางส่วนของคำปราศรัยของบุคคล 6 คน ที่กล่าวในการชุมนุมครั้งต่างๆ ได้แก่ พริษฐ์ ชิวารักษ์, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี, จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์, พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ, อานนท์ นำภา รวมทั้งข้อความจากจดหมายเปิดผนึกถึงราษฎรชาวไทยถึงสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563

พนักงานอัยการบรรยายต่อไปว่าข้อความดังกล่าว อันเป็นการโฆษณา ละเมิด หมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่าพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง จากผู้อื่นหรือประชาชน อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

โดยฟ้องระบุว่าในวันเกิดเหตุ เจ้าพนักงานได้ตรวจยึดหนังสือดังกล่าวไว้จำนวน 1 เล่ม เป็นของกลาง และอัยการขอให้ศาลสั่งริบหนังสือของกลางดังกล่าวด้วย โดยหากจำเลยขอประกันตัว ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

คำฟ้องเรียงฟ้องโดย กุลนิษฐ์ รัตนคูสกุล พนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลก 

ทั้งนี้ น่าสังเกตว่าคดีนี้ ตำรวจมีการออกหมายเรียกพยานในช่วงปลายปี 2565 หลังเกิดเหตุตามข้อกล่าวหา ผ่านไปกว่า 1 ปี และตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหาทันที แม้ไปพบตามหมายเรียกพยานก็ตาม อีกทั้งคำปราศรัยที่ถูกกล่าวหาในข้อหามาตรา 112 ในหนังสือเล่มดังกล่าว ยังไม่มีคำปราศรัยคดีใดที่ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิด และหนังสือเล่มดังกล่าวก็ไม่เคยถูกห้ามการเผยแพร่ตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ถ้อยคำปราศรัยทั้งหมดในหนังสือก็ไม่ใช่ข้อความที่ “ตี๋” เป็นผู้กล่าว