Skip to main content
sharethis

'ศิริกัญญา' ร้อง Voice TV ขอให้มีการแก้ไขปรับปรุง กรณีที่มีการระบุแคปชั่น "#ศิริกัญญา ไม่สนประโยชน์ชาติ ขวางรัฐบาลเดินหน้า "แลนด์บริดจ์" อ้างไม่จำเป็น-ทับซ้อนผลประโยชน์สิงคโปร์ ทั้งที่โครงการนี้คนไทยได้ประโยชน์" และ "ห่วงสิงคโปร์มากกว่าไทย?" ชี้เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงจากที่พูด

 

 

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2567 ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์ทวิตเตอร์ ระบุว่ากรณีที่มีการระบุแคปชั่น "#ศิริกัญญา ไม่สนประโยชน์ชาติ ขวางรัฐบาลเดินหน้า "แลนด์บริดจ์" อ้างไม่จำเป็น-ทับซ้อนผลประโยชน์สิงคโปร์ ทั้งที่โครงการนี้คนไทยได้ประโยชน์" และ "ห่วงสิงคโปร์มากกว่าไทย?" ในดังแสดงในโพสต์ด้านล่าง เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่ดิฉันได้พูดอย่างเกินเลยไปมาก

สิ่งที่ดิฉันได้แถลงมีดังต่อไปนี้

- นายกพูดเรื่องท่อน้ำมันที่จะทำให้มีนักลงทุนมาลงทุน แต่แท้จริงไม่มีอยู่ในรายงานศึกษาความเป็นไปได้ ถ้านายกพูดถูกต้องแล้ว หมายความว่าเราต้องรื้อรายงานความเป็นไปได้ใหม่ ซึ่งรายงานมูลค่า 68 ล้าน ที่ใกล้จะเสร็จแล้ว ต้องเปลี่ยนจากทำ EIA เป็น EHIA

- ช่องแคบมะละกาไม่ได้แออัด จนต้องมาเข้าคิวผ่านช่องแคบอย่างที่นายกกล่าวอ้าง  ถ้าแออัดจริงสิงคโปร์คงไม่ลงทุนสร้างท่าเรือใหม่เพิ่มที่ความจุใหญ่เป็น 2 เท่า และในการประชุมกมธ. ตัวแทนจากหอการค้าตอบคำถามเรื่องนี้โดยเล่าว่าเคยเชิญรัฐมนตรีในอดีตที่พูดแบบนี้ ไปลงเรือคาร์โก้ ไปให้เห็นกับตา ว่ามันไม่ได้แออัดอย่างที่กล่าวอ้าง

- ตัวเลขที่เอาเข้าครม. จากรายงานศึกษาความเหมาะสม landbridge ของสนข.  ประเมินความเป็นไปได้ที่ตัวเลขสวยหรู รายได้สูงเกินจริง ทั้งประมาณการว่าจะมีเรือเข้ามาใช้สูงเกินจริง รวมเส้นทางที่ไม่น่าจะมีใครมาใช้จริง เช่นบอกว่าเรือจากออสเตรเลียที่เดิมจะมาผ่านช่องแคบมะละกา จะเปลี่ยนเส้นทางขึ้นมาใช้แลนด์บริดจ์ รวมรายได้ของสายเดินเรือมาเป็นรายได้โครงการ ประมาณการการประหยัดเวลาและต้นทุนสูงเกินจริง  ค่าใช้จ่ายต่ำเกินไป ซึ่งเป็นข้อมูลจากทางตัวแทนบริษัทเดินเรือ และผู้ขนส่งสินค้าทางเรือที่ให้กับกรรมาธิการ

- แน่นอนว่าเราอาจจะไม่ต้องกังวลเพราะเราคาดว่าเอกชนจะลงทุนเองเกือบ 100% แต่ถ้าเราวาดแผนสวยหรูเกินจริง ก็จะไม่มีใครมาลงทุนอยู่ดี แต่อยากให้คิดถึงคนที่จะนอนไม่หลับคือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่จะถูกเวนคืนซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่บ้านเค้าจะโดนเวนคืน

- เราเห็นด้วยกับการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้เป็นอย่างมาก และท่าเรือระนองจะเป็นท่าเรือยุทธศาสตร์สำคัญ การมีโครงข่ายระบบรางเชื่อมต่อขนถ่ายสินค้ามาที่ท่าเรือ และการสร้างนิคมอุตสาหกรรมหลังท่า

จะพบว่าไม่มีข้อความใดเลยที่สื่อได้ว่าโครงการนี้ "ทับซ้อนผลประโยชน์สิงคโปร์" หรือ "ห่วงสิงคโปร์มากกว่าไทย" มีเพียงแต่จะขยายความให้เห็นภาพเรื่องช่องแคบมะละกาว่ามันไม่ได้แออัด เพราะสิงคโปร์ได้ลงทุนทำท่าเรือใหม่ไปเมื่อ 2 ปีก่อน และการที่กล่าวหาว่า "ไม่สนประโยชน์ชาติ" ก็ไม่เป็นความจริง เพราะดิฉันเองก็พูดแล้วว่าเห็นความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางน้ำ และทางราง เพียงแต่เราต้องเลือกให้ถูกวิธี

จึงเรียนมาเพื่อขอความกรุณาให้มีการแก้ไขปรับปรุงโดยคำนึงถึงจรรยาบรรณของการเป็นสื่อมวลชนที่ควรนำเสนอข่าวโดยอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงเป็นสำคัญ ไม่มุ่งแต่จะปกป้องฝ่ายใดฝ่ายใดหนึ่งด้วยการจงใจทำลายฝ่ายตรงข้ามด้วยเนื้อหาที่บิดเบือน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net