Skip to main content
sharethis

สส.สุรเชษฐ์ พรรคก้าวไกล วอนรัฐหยุดขยายสัมปทานทางด่วน ชี้อาจจงใจเอื้อประโยชน์นายทุน ทำรัฐเสียรายได้ แนะ กทพ. ต้องหยุดการขยายสัญญาสัมปทานออกไปเรื่อย ๆ รวมถึงควรเร่งพิจารณาโครงการตามต่างจังหวัดด้วย


สุรเชษฐ์  ประวีณวงศ์วุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล

เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2567 ว่านายสุรเชษฐ์  ประวีณวงศ์วุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล แถลงข่าว หัวข้อ “ทวงคืนทางด่วน หยุดหาเรื่องขยายสัมปทาน เอื้อประโยชน์ให้นายทุนไปเรื่อย” ว่ามีความพยายามของนายทุนในการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วน ผ่านการขายนโยบายลดค่าทางด่วนโดยรัฐบาล โดยวันที่ 25 เม.ย.67 ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศว่าจะลดค่าทางด่วนให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้ แต่เป็นการลดแบบมีเงื่อนไข ซึ่งต้องพิจารณาต่อไปว่าเป็นผลดีต่อประเทศในภาพรวมหรือไม่

นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ตนมองว่าการลดค่าทองด่วนไม่เป็นผลดีต่อภาพรวมด้วย 3 เหตุผล คือ 1. การเดินทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นการแข่งขันระหว่างรูปแบบการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวกับระบบขนส่งสาธารณะ การลดค่าทางด่วนจะย้อนแย้งกับนโยบายของรัฐที่บอกว่าอยากให้คนหันไปใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะเมื่อลดค่าทางด่วน ก็จูงใจให้คนใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น 2. ทางด่วนเป็นสินค้าที่ผู้ใช้เป็นผู้จ่าย (Pay per use) แต่การลดหรือฟรีค่าทางด่วนจะทำให้ความยุติธรรมนี้ลดลง รัฐสูญเสียรายได้ที่จะนำไปใช้ในการพัฒนา และ 3. นายทุนมักเอาเปรียบรัฐมากขึ้นเมื่อได้เซ็นสัญญาใหม่​ โดยปัจจุบันนายทุนได้เซ็นสัญญาขยายสัมปทานไปแล้ว 15 ปี 8 เดือน ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าหากเอกชนไม่ได้ผลประโยชน์มากขึ้นจากสัญญานั้นเอกชนแห่งนั้นจะยอมเซ็นหรือไม่ ดังนั้น การลดราคาค่าทางด่วน รัฐแลกมาด้วยการสูญเสียรายได้จากส่วนแบ่งค่าทางด่วน รวมถึงสูญเสียรายได้ที่รัฐควรจะได้ในอนาคต

นายสุรเชษฐ์ กล่าวถึง ขณะนี้บอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กำลังพิจารณาเรื่องการขยายสัมปทานเพื่อลากยาวไปถึง 31 มี.ค.2601 หรืออีก 34 ปีข้างหน้า ดังนั้น เป้าหมายที่แท้จริงของรัฐบาล คือ การช่วยเอกชนหาเรื่องขยายสัญญาสัมปทาน แต่กลับใช้แนวทางการตลาดอ้างว่าเป็นการลดค่าทางด่วน ซึ่งต้องแลกด้วยส่วนแบ่งรายได้รัฐที่ลดลง สิ่งสำคัญ คือ รัฐบาลต้องทวงคืนทางด่วน หยุดการขยายสัญญาสัมปทานออกไปเรื่อย ๆ รวมถึงควรเร่งพิจารณาโครงการตามต่างจังหวัดด้วย และยังมีอีกหลายทางเลือกที่ไม่ต้องเอื้อประโยชน์ให้นายทุนด้วยการขยายสัญญาสัมปทาน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net