วันนี้ สว.ชุดเดิมยังประชุมสภาต่อ ยืนยันว่าเป็นการทำงานตามกฎหมาย จะหยุดก็ต่อเมื่อ กกต.จะประกาศรับรองชุดใหม่ วันนที่ประชุม สว.มีมติให้ตั้ง กมธ.มาศึกษาการเลือก สว. แจงไม่ได้ต้องการแทรกแซงการทำงาน กกต.

8 ก.ค.2567 ไทยพีบีเอสและสำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกันว่า วันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการประชุมร่วมกันแบบลับเพื่อพิจารณาคำร้องประเด็นต่างๆ และรายงานที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) รวมถึงผลการเลือก สว.ระดับประเทศที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่าหลัง กกต.ประชุมเสร็จมีรายงานว่าที่ประชุมยังไม่ได้รับรองรายงานผลการเลือก สว. เนื่องจาก กกต.แต่ละคนยังมีความเห็นแกต่างกันถึงการรับรองผลการเลือก จึงมีเพียงการพดคุยถึงงานที่ต้องดำเนินการให้ชัดเจนก่อนที่จะมีการประกาศรับรองผล

อย่างไรก็ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาเอาไว้ มีเพียงว่าสามารถรับรองผลได้เมื่อพ้นกำหนด 5 วันหลังการเลือกในระดับประเทศเสร็จหาก กกต.เห็นว่ากระบวนการเลือกเป็นไปโดยถูกต้อง สุจริต และเที่ยงธรรม

สว.ชุดเก่ายังประชุมต่อ แต่ “เสรี” ไม่เห็นด้วยพิจารณาบทบาท กกต.

นอกจากประเด็นการรับรองผลเลือก สว.ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการประกาศผลเมื่อไหร่ สว.ชุดเดิมยังคงเดินหน้าประชุมสภา สว.ต่อในวันนี้ (8 ก.ค.) แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมและถูกเรียกร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

เมื่อวานนี้พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการนัดประชุม สว.ต่อว่า เป็นเพราะเป็นสมัยประชุมที่ ซึ่งระหว่างปิดสมัยประชุมคิดว่า กกต.จะประกาศรับรอง สว.ชุดใหม่ในวันที่ 3 ก.ค. ถ้า กกต.ประกาศรับรอง สว.ชุดใหม่ชุดเก่าก็ทำหน้าที่อีกไม่ได้เพราะครบวาระตั้งแต่ 10 พ.ค. แต่เมื่อ 3 ก.ค.คือวันเปิดสมัยประชุมถ้า สว.ไม่เปิดประชุมก็จะขัดต่อกฎหมายที่กำหนดว่า สว.ชุดเดิมจะต้องทำหน้าที่ต่อจนกว่าจะมี สว.ชุดใหม่ ซึ่งเป็นไปตามที่ปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญและรัฐสภาก็ต้องมีทั้ง สส.และ สว.คู่กัน

นอกจากนั้นในการประชุม สว.วันนี้ สยามรัฐได้รายถึงข้อเสนอของของสมชาย แสวงการในระหว่างการยื่นญัตติถอดบทเรียนการเลือก สว.ชุดล่าสุดด้วยโดยการเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษารวจสอบการเลือก สว. โดยเขาให้เหตุผลโดยยืนยันว่า สว.ชุดนี้จะทำงานต่อไปจนกว่า กกต.จะประกาศรับรองผล สว.ชุดใหม่ และตนก็ไม่ได้อยากยื้อเวลาเพื่ออยู่ต่อเพียงแต่ทำตามหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ

ประเด็นที่ สว.สมชายเสนอว่า กมธ.ที่จะมาถอดบทเรียนมี 3 ประเด็นคือ 1. พบความไม่ชอบมาพากลในการลงสมัครของผู้สมัครที่ไม่ตรงกลุ่มอาชีพ ที่สืบเนื่องจาก กกต.มีการออกประกาศขยายความกลุ่มอาชีพทำให้มีผู้สมัครไม่ตรงกับกลุ่มอาชีพที่กำหนดทำให้ผู้สมัครที่มีอาชีพตรงกับกลุ่มอาชีพจริงๆ ตกรอบ นอกจากนั้นยังพบว่ามีการไปร่วมงานเลี้ยงกันของผู้สมัคร ไปจนถึงการพบโพยฮั้วเลือก สว.

ประเด็นที่สอง ประเด็นข้อกฎหมายที่มีการร้องเรียน ซึ่งการศึกษาจะเป็นข้อเสนอทางวิชาการเท่านั้น ไม่ก้าวล่วงการทำงานของ กกต. และประเด็นที่สามการตั้ง กมธ.ชุดนี้จะประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทั้งจาก กมธ.องค์กรอิสระ กมธ.กฎหมายฯ กมธ.บริหารราชการแผ่นดิน และ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ รวมถึงการเชิญบุคคลภายนอกที่เคยเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญฉบับ 2540-2560 เช่น สมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตกรธ. และคมสัน โพธิ์คง นักกฎหมาย เป็นต้น

สมชายระบุว่าหากได้มีโอกาสศึกษาตามเวลา 30 วัน จะมีข้อเสนอไปถึงคณะที่จะแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญใหม่ กกต.และ สว.ชุดใหม่ที่จะมารับหน้าที่ต่อเพื่อศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้นในการเลือก สว.ในปี 2562 และ 2567 และเขาได้ย้ำว่าการศึกษาของ กมธ.ชุดนี้จะมีความเป็นกลาง

สว.โหวตตั้ง กมธ.ศึกษาเลือก สว.

ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่าหลังการอภิปรายญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาการเลือก สว.ของสมชาย แสวงการแล้ว ที่ประชุมมีการเปิดให้ลงมติว่าจะให้มีการตั้ง กมธ.ชุดนี้ขึ้นมาหรือไม่

จากนั้นเวลา 16.49 น. ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยให้ตั้ง 101 เสียง ไม่เห็นด้วย 10 เสียง งดออกเสียง 14 โดย กมธ.ชุดนี้จะมีทั้งหมด 21 คน