Skip to main content
sharethis

ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’ 35 หนุน 'พีระพันธุ์' รื้อโครงสร้างพลังงาน ยกเลิกสัมปทานที่ไม่ชอบธรรม เร่งขุดทรัพยากรทางทะเลที่อ้างพื้นที่ทับซ้อน ซื้อพลังงานจากรัสเซีย เตือนรัฐบาลระวังประชาชนจะหมดความอดทน


อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 | แฟ้มภาพ

4 ส.ค. 2567 สภาที่ 3 แจ้งข่าวว่านายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ในฐานะผู้ก่อตั้งสภาที่ 3 กล่าวถึงปัญหาราคาพลังงานแพงที่ส่งผลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยยังฟื้นตัวช้า และมีโอกาสจะเกิดภาวะถดถอย ถึงขั้นล้มละลาย ปัญหาหลักใหญ่มาจากนโยบายสมคบคิดของกลุ่มทุนธุรกิจการเมืองปล้นเงินจากกระเป๋าประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น  จึงขอสนับสนุนแนวทางของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ที่จะรื้อโครงสร้างพลังงาน แก้ระเบียบหลักเกณฑ์ต่างๆ  เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานราคาถูกและการเปิดเสรีการนำเข้าน้ำมัน จึงขอเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาราคาพลังงานไฟฟ้าแพงอย่างเร่งด่วน ดังนี้

1. เป็นที่ทราบกันดีว่าปัญหาราคาพลังไฟฟ้าแพงเนื่องมาจากการผลิตที่ล้นเกิน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยผลิตไฟฟ้าสำรอง ไม่ต่ำกว่า  60 %  แต่กระทรวงพลังงานบอกว่า  30% ทั้งที่ตามหลักสากลผลิตสำรองไม่เกิน 15% เท่านั้น  การทำสัญญากับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนแบบ  Take or Pay คือ แม้ไม่ใช้ไฟประชาชนก็ต้องจ่าย  ให้กับโรงไฟฟ้าเอกชนโดยไม่จำเป็นเกินกว่า 30%  ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเพียง  32.06% และต้องซื้อจากเอกชนถึง 67.94 % ส่งผลต่อความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคต  ดังนั้นรัฐบาลจะต้องยกเลิกสัมปทานของรัฐที่ไม่ชอบธรรม  ซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 56 ที่บัญญัติว่า " ...รัฐต้องดูแลมิให้มีการเรียกเก็บค่าบริการจนเป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร การนําสาธารณูปโภคของรัฐไปให้เอกชนดําเนินการทางธุรกิจไม่ว่าด้วยประการใดๆ รัฐต้องได้รับประโยชน์ตอบแทนอย่างเป็นธรรม โดยคํานึงถึงการลงทุนของรัฐ ประโยชน์ที่รัฐและเอกชนจะได้รับและค่าบริการที่จะเรียกเก็บจากประชาชนประกอบกัน" ดังนั้นสัญญาสัมปทานใดที่ขัดต่อบทบัญญัตินี้มีข้อยกเว้นให้ยกเลิกสัมปทานได้

2. ส่งเสริมหน่วยงานของรัฐทั่วประเทศ ทุกแห่ง ทุกกระทรวง และองค์กรปกครองท้องถิ่น ใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะ โซล่าเซลล์ รวมทั้งภาคครัวเรือน (Solar Roof)  โดยเร่งด่วน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ เร่งวินิจฉัยกรณี นายไพบูลย์ นิติตะวัน  ยื่นคำร้องเพื่อให้วินิจฉัยต่อกรณีการจัดทำ บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน  (MOU2544) นั้นทำขึ้นโดยขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่  เป็นการกระทำละเมิดสิทธิประชาชนหรือไม่ เพื่อประเทศไทยจะได้เร่งขุดทรัพยากรพลังงานธรรมชาติทางทะเลของไทยมาใช้ในราคาถูกได้ ตามข้อเสนอแนะของอดีตแกนนำ สภาที่ 3 นายพิชัย นริพทะพันธุ์  และให้ทำทุกวิถีทางเพื่อเร่งขุดพลังงานทางทะเลมาใช้โดยเร็ว รวมทั้งยกเลิกการซื้อพลังงานที่มีราคาแพงสูงจากประเทศขาประจำ แล้วไปซื้อพลังงานจากประเทศรัสเซีย ซึ่งมีราคาถูกกว่า ไม่ต้องสนใจประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ และเชื่อว่ารัสเซียก็พร้อมขายราคามิตรภาพให้ประเทศไทยอย่างแน่นอน

“การที่กลุ่มนายทุนของธุรกิจพลังงานไปโผล่ร่วมก๊วนตีกอล์ฟกับ ทักษิณ ชินวัตร อนุทิน ชาญวีรกูล และนักการเมืองทั้งหลาย นี่คือใบเสร็จชั้นดี  ที่สะท้อนให้เห็นว่าต้นทุนของพลังงานที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ที่ไม่สามารถลดลงได้ก็เพราะความสัมพันธ์ของกลุ่มทุนเหล่านี้กับนักการเมืองมีการสมคบคิดเอื้อผลประโยชน์กัน  เปรียบเสมือนร่วมกันปล้นประชาชนทั้งประเทศ บนความเดือนร้อนของประชาชน เป็นใบเสร็จสำคัญที่ทำให้ประชาชนคนไทยได้เห็นกันว่าแท้จริงแล้วเมื่อพลังงานแพง ต้นทุนการผลิตทั้งหลายก็แพง ราคาสินค้าก็แพงขึ้น ทุกอย่างก็เลยแพงทั้งแผ่นดิน แต่ขอเตือนว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พระสยามเทวาธิราชจะคุ้มครองคนไทย เมื่อประชาชนได้รับความเดือดร้อนจนถึงที่สุดและหมดความอดทน บ้านเมือง สังคมไทยวุ่นวาย พวกท่านจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ” นายอดุลย์ กล่าว

นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่าในสัปดาห์ถัดไป สภาที่ 3 จะยกขบวนไปให้กำลังใจ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน ให้เดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างพลังงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนให้สำเร็จโดยไม่ต้องหวั่นเกรงกลุ่มทุนพลังงาน ซึ่งมีกระแสข่าวว่ากำลังกดดันให้นายพีระพันธุ์ พ้นตำแหน่ง รมว.พลังงาน จากนั้นวันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน สภาที่ 3 จะจัดเสวนา ตีแผ่ต้นเหตุพลังงานไฟฟ้าราคาแพงเนื่องมาจากกลุ่มทุนพลังงานสมคบคิดกับฝ่ายการเมืองปล้นกระเป๋าประชาชน และร่วมกับภาคประชาชนเคลื่อนไหวให้มีการปฏิรูปโครงสร้างพลังงานเพื่อประชาชนให้ถึงที่สุด

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net