สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกแถลงสถานการณ์น้ำ เผยระดับน้ำแม่น้ำโขงมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องช่วง 12-16 ก.ย.นี้ 'สถานีเชียงคาน จ.เลย-หนองคาย-บึงกาฬ' น้ำล้นตลิ่ง เตือนประชาชนในพื้นที่ริมโขง ภาคเหนือ และอีสาน เตรียมรับมือสถานการณ์

12 ก.ย. 2567 เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประจำวันที่ 12 ก.ย. 2567 คาดการณ์สถานการณ์น้ำ พร้อมแจ้งเตือนคนริมโขงรับมือน้ำล้นตลิ่งช่วง 12-16 ก.ย.นี้

เตือนระดับในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ช่วงวันที่ 12-15 ก.ย. 2567

แถลงการณ์ของ สทนช. ระบุว่า ระดับแม่น้ำโขงอาจเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ สปป.ลาว ประกอบกับอิทธิพลจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักมากในช่วงวันที่ 14-18 ก.ย. 2567 ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่แม่โขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดย สทนช. ได้คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ในช่วงวันที่ 12-16 ก.ย. 2567 จังหวัดเชียงราย บริเวณสถานีเชียงแสน ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 0.50 - 0.70 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 3.40 เมตร 

จังหวัดเลย บริเวณสถานีเชียงคาน ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 3.00-3.60 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50-1.50 เมตรในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. 2567

จังหวัดหนองคาย บริเวณสถานีหนองคาย อำเภอหนองคาย และจังหวัดบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 3.50-3.90 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 1.50-2.50 เมตรในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. 2567 

จังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00-2.60 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50-1.30 เมตร

จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดริมโขง ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และท่วมขังบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำโขง และริมน้ำบางสาขาของประเทศไทยที่ไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้โดยสะดวก และโปรดประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง และแจ้งเตือนให้ประชาชนที่สัญจรและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง รวมทั้งผู้ที่อาศัยในพื้นที่บริเวณดังกล่าวติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง

แจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 13-18 ก.ย. 2567

สทนช. ระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า เนื่องจากช่วง 13-18 ก.ย. 2567 จะมีร่องมรสุมเลื่อนลงมาพัดผ่านประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางแห่ง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันบริเวณที่ลุ่มต่ำและชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ รวมทั้งน้ำป่าไหลหลาก

• บริเวณภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลธานี
• ภาคกลาง จ.ลพบุรี สระบุรี กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และภาคใต้ จ.ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี ตรัง และสตูล

เตือนเฝ้าระวัง ผลกระทบจากระดับแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้น ช่วง 12-18 ก.ย. 2567

สทนช. ระบุว่า เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และ สปป.ลาว ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 12-18 ก.ย. 2567 ประมาณ 0.5-1.0 เมตร บริเวณจังหวัดเชียงราย เลย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี และมีแนวโน้มล้นตลิ่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย 0.3-1.0 เมตร จึงขอให้มีการเฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นและเตรียมตัวรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณริมฝั่งโขง และริมน้ำบางสาขาของประเทศไทยที่ไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงโดยสะดวก

คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้า 3 วัน ระหว่าง 12-14 ก.ย. 2567 

สทนช.ประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้า 3 วัน พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงจำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.แม่ฟ้าหลวง แม่สาย ดอยหลวง และแม่จัน) จ.เชียงใหม่ (อ.เชียงดาว แม่อาย ฝาง และอมก๋อย) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.ปางมะผ้า) จ.ตาก (อ.ท่าสองยาง) จ.จันทบุรี (อ.ขลุง) และนครศรีธรรมราช (อ.ทุ่งสง) ซึ่ง สนทช. ได้ประสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือสถานการณ์ล่วงหน้าแล้ว