Skip to main content
sharethis

วงเสวนาวิพากษ์นโยบายรัฐบาลขาดการนิรโทษกรรมประชาชน หวั่นหากรัฐบาลฉ้อฉลจะไม่มีใครออกมาต่อสู้อีก แนะแก้เศรษฐกิจปากท้อง โวยราคาพลังงานแพงเป็นการสืบทอดมรดกบาป

สภาที่ 3 แจ้งข่าวว่าเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2567 เวลา 13.30 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สภาที่ 3 และคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35  จัดเสวนาวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบนโยบายรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร โดยมี นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35  กล่าวเปิดงาน  วิทยากรประกอบกด้วย นายปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (SVN) นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ นายสุวิช สุมานนท์ ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ พ.ท.แพทย์หญิง กมลพรรณ ชีวพันธุ์ศรี เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ และนายเมธา มาสขาว ผอ.สถาบันสังคมประชาธิปไตย ดำเนินรายการ

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวว่า นโยบายเร่งด่วน 10 ข้อของรัฐบาลยังไม่มีประเด็นสำคัญที่ประชาชนต้องการเช่น ประเด็นการนิรโทษกรรมสมานฉันท์ประชาชน และการทวงคืนสมบัติชาติ เช่น คดีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่สมาพันธ์คนงานรถไฟทวงถามมาอย่างยาวนานหลังศาลตัดสินไปแล้ว  รวมถึงประเด็นการแก้ไขเศรษฐกิจปากท้องพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน แต่ภาพที่อดีตนายกทักษิณไปตีกอล์ฟกับนายทุน เป็นใบเสร็จสำคัญที่ชี้ว่าทำไมราคาพลังงานและค่าไฟจึงลดไม่ได้ เพราะเป็นการรวมหัวกันปล้นเงินประชาชน สืบทอดมรดกบาปจากรัฐบาลที่แล้ว  

“ปัจจุบันต้องถือว่ารัฐบาลมีโอกาสเป็นครั้งที่ 2 ในการบริหารประเทศหลังจากความขัดแย้งและรัฐประหาร แต่เพราะเหตุใดไม่มีนโยบายปรองดองสมานฉันท์ที่มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม เพื่อให้โอกาสสังคมเป็นครั้งที่ 2 เช่นกัน โดยสภาที่ 3 จะจัดเวทีตรวจสอบรัฐบาลเป็นซีรี่ย์ทุกเดือน”นายอดุลย์ กล่าว

นายปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (SVN) กล่าวว่า ในสงครามเย็นรอบใหม่ ประเทศไทยจะมีเสถียรภาพได้อย่างไรเป็นโจทย์สำคัญ ปัจจุบันกลุ่มประเทศสีแดงมีประเทศจีนเป็นแกนกลางที่มีบทบาทสำคัญที่สุด ประกอบด้วยรัสเซีย อิหร่าน หลายประเทศในแอฟริกาและโบลิเวียในอเมริกาใต้ นอกนั้นอยู่ในค่ายสีน้ำเงินภายใต้การนำของสหรัฐอเมริกา  

ซึ่งระหว่าง 2 ค่ายที่ขัดแย้งกันสูงในสงครามเย็นรอบใหม่นี้ ประเทศไทยอยู่ในค่ายสีเขียว ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ประเทศที่เป็นกลุ่มประเทศใต้ที่ไม่ฝักใฝ่ผ่ายใด ซึ่งควรรวมตัวกันให้เข้มแข็งโดยวางตัวเป็นกลาง เพราะมหาอำนาจทั้ง 2 ฝ่าย ทุกฝ่ายมีทั้งข้อดีและข้อเสียปนกัน และกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีมาก

เป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศเศรษฐกิจอันดับ 1 และ 2 ของโลกที่มีอำนาจทางด้านเศรษฐกิจ ข้อเสนอของตนคือ กลุ่มประเทศสีเขียวที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดจะรวมตัวกันต่อรองมหาอำนาจทั้ง 2 ฝ่ายได้อย่างไร เพราะผู้นำประเทศทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาล แต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่อยากให้เราค้าขายกับประเทศฝ่ายตรงข้ามในสงครามเย็นครั้งที่ 2 นี้

ดังนั้น รัฐบาลจะต้องมียุทธศาสตร์ที่สร้างความพอใจทั้ง 2 ฝ่ายได้อย่างไรอย่างสมดุล ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยเหลื่อมล้ำอันดับ 1 ของโลกที่เกิดจากการผูกขาดของคนบางกลุ่ม สกัดการเติบโตของคนส่วนใหญ่ด้อยลงไป ถ้ามีนโยบายนี้แก้ปัญหาเพื่อ “ความรุ่งเรืองร่วมกัน” (Common Prosperity) เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ที่ดีมากขึ้นตามแนวทางของประเทศกลุ่มสีแดงที่ใช้อำนาจรวมศูนย์เพื่อสร้างเศรษฐกิจส่วนรวมเพื่อความมั่งคั่งร่วมกันเช่นประเทศจีนก็น่าจะชื่นชมเพราะศรัทธาในเรื่องความรุ่งเรืองร่วมกัน

ส่วนประเทศกลุ่มน้ำเงินที่นำโดยสหรัฐฯ น่าจะใช้นโยบายที่สนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ใช้ระบบเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ใช่นำเข้าสู่ระบอบอำนาจนิยมหรือการยึดอำนาจรัฐประหาร ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลปัจจุบันที่จะทำให้เกิดขึ้น และเป็นไปตามเป้าหมายของสหประชาชาติ 17 ข้อ ซึ่งกลุ่มประเทศทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน

“สุดท้าย รัฐบาลควรสนับสนุนเศรษฐกิจเสรีที่เป็นธรรม ป้องกันการผูกขาดตลาด ส่งเสริมความมั่นคงด้วยกิจกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งประเทศไทยมีจุดเด่นด้านวัฒนธรรม ประเพณี ยิ้มสยาม ความมีน้ำใจไมตรี จะมีใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์กับยุทธศาสตร์ประเทศได้อย่างไร”นายปรีดา กล่าว

นพ.รวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ความคืบหน้าในเรื่องการปรองดองสมานท์ฉันท์นั้น ในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอมผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมหรือกฎหมายเพื่อสร้างเสริมสังคมสันติสุข โดยอ้างว่าให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ ปัจจุบันนี้ กฎหมาย 3 ส.นี้ได้มีการยื่นไปให้หลังการเลือกตั้ง 2566 ซึ่งค้างอยู่ในรัฐสภาโดยพรรคครูไทยสร้างชาติ นอกจากนี้ยังมีร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรครวมไทยสร้างชาติ และร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลด้วย ถูกบรรจุในการพิจารณาของสภาฯ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

หากไม่มีการเตะถ่วงน่าจะใช้เวลา 3 เดือน ถ้ามีการเตะถ่วงกฎหมายของสภาฯ ก็จะใช้เวลา 5-6 เดือนกว่าจะได้พิจารณา และหากสภาฯ กำหนดวันพิจารณาได้แล้ว คาดว่าร่างกฎหมายของทุกพรรคคงถูกนำมาพิจารณาร่วมกันในวาระเดียว

“ถ้าไม่มีการนิรโทษกรรมทางการเมือง ต่อไปถ้ามีรัฐบาลที่ฉ้อฉลก็จะไม่มีประชาชนออกมาต่อสู้หรอกครับ เพราะสู้แล้วติดคุก มีคดีติดตัวมากมาย ประเด็นที่เป็นอุปสรรคตอนนี้คือการนิรโทษกรรมคดี 112 ที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากหลายพรรคการเมือง “นพ.ระวี กล่าว

พ.ท.แพทย์หญิง กมลพรรณ ชีวพันธุ์ศรี จากเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มีนักการเมืองที่จริงใจต่อประชาชนน้อยมาก ขณะที่พรรคประชาชนไม่เข้มแข็งและควรแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องก่อนแต่ไปยุ่งแต่เรื่อง 112 ขณะที่ประชาชนไม่ว่าอดีตสีเหลือง สีแดง ต่างก็กลายเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจหรือเหยื่อทางการเมืองให้ชนชั้นปกครอง และแกนนำติดกับดักคดีความต่างๆ ถูกยึดทรัพย์ ต้องคดี ติดคุก ทำให้คนดีๆ ไม่สามารถอยู่ได้

ขณะที่ชนชั้นนำจูบปากแสวงหาผลประโยชน์กัน ไม่ต่างจากรัฐบาลฝ่ายไหนทุกรัฐบาล ประชาชนก็ออกมาร้องเรื่องค่าไฟฟ้า ค่าครองชีพราคาแพงเหมือนเดิม ไม่มีรัฐบาลไหนจริงใจแก้ปัญหาประชาชนเลย โดยเฉพาะหนี้สินประชาชน รัฐบาลจะแก้ไขอย่างไรจากระบบธนาคารที่เบียดเบียนและคิดดอกเบี้ยราคาแพง

เรื่องพลังงานราคาแพง รัฐมนตรีพีระพันธุ์ มีความตั้งใจดีแต่แก้ปัญหาในเรื่องนี้ล่าช้าเกินไป จึงขอฝากให้ท่านเร่งรีบออกกฎกระทรวง ออกนโยบายพลังงานแห่งชาติ เพื่อควบคุมและลดราคาพลังงานโดยเร็ว เพื่อชี้ให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลประชาธิปไตยย่อมดีกว่ารัฐบาลเผด็จการ ไม่ใช่การปล้นประชาชนเอาเข้ากระเป่านายทุนพลังงานที่สนับสนุนทุกรัฐบาลทั้งหลาย

นายสุวิช สุมานนท์ ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ กล่าวว่า ตนอยากติดตามทวงคืนสมบัติชาติ โดยเฉพาะที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ถูกกลุ่มทุนถือครองและออกเอกสารสิทธิ์โดยถูกกฎหมาย แต่ศาลได้วินิจฉัยแล้วให้คืนที่ดินแก่การรถไฟ มหากาพย์คดีที่เขากระโดงผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว ศาลทุกศาลวินิจฉัยที่ดินเข้ากระโดงเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยยึดคืนมาเป็นของรัฐเลย ซึ่งเป็นความเสียหายของประเทศ

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net