นายกรัฐมนตรีและคณะบินตรงเชียงราย ตั้ง ศปช.ส่วนหน้า เป็นศูนย์สั่งการ เร่งบูรณาการมาตรการเยียวยาน้ำท่วม-ดินโคลนถล่ม

27 กันยายน 2567 นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานการประชุมบูรณาการแผนฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ หลังจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเข้าร่วม

นายกฯ ได้มอบนโยบายให้กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดการจ่ายค่าเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด และมอบหมายปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเพิ่มค่าเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อนและทรัพย์สินเสียหายให้เหมาะสม รวมถึงมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาการแก้ปัญหาดินโคลนที่ติดค้างอยู่ในบ้านเรือนของประชาชนให้เสร็จโดยด่วน และให้กระทรวงการคลังเตรียมดำเนินการเรื่อง Soft loan สำหรับฟื้นฟูกิจการ หรือซ่อมแซมที่พักอาศัยหลังน้ำลด วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ให้เตรียมสินค้าธงฟ้าในราคาประหยัด เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นได้ .

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและดินโคลนถล่มผ่านระบบ Video conference จากผู้ว่าราชการจังหวัด 6 จังหวัดที่ประสบภัย พร้อมรับฟังรายงานความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยได้สั่งการต่อที่ประชุม ดังนี้

1.ให้จัดตั้ง ศปช. ปฎิบัติการส่วนหน้า เพื่อเป็นศูนย์สั่งการ และประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยให้ รมช. มหาดไทย ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เป็นประธาน และประจำที่หน้างานเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

2.การแก้ไขปัญหาในพื้นที่เขตอำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอแม่สาย ให้ดำเนินการดังนี้ 1) ให้กระทรวงมหาดไทย แบ่งพื้นที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน และรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรคไปยังศปช. โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายในพื้นที่ที่ได้เริ่มเยียวยาแล้วภายในวันที่ 20 ต.ค. 67 ส่วนในพื้นที่อื่นๆ ขอให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วน 2) ให้ทุกส่วนราชการสนับสนุนเครื่องจักร/เครื่องมือ บุคลากร ในการดำเนินงาน

3) หากพบว่าเครื่องจักร/เครื่องมือมีไม่เพียงพอ ให้มีการจัดจ้างจากเอกชน โดยมอบหมายให้ กรมบัญชีกลาง พิจารณากระบวนการจัดจ้างให้เกิดความรวดเร็ว

4) การอำนวยความสะดวกเพื่อซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน ถนน ฯลฯ การบริหารจัดการขยะ และโคลน รวมถึงให้ผ่อนผันเรื่องการเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ และที่ราชพัสดุ ที่ส่วนราชการต่างๆใช้อยู่

5) ระบบเตือนภัย ให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมเร่งรัดดำเนินการ ทั้งในพื้นที่นี้ และพื้นที่อื่นที่มีความเสี่ยง ให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนปีหน้า

6) เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว มอบหมาย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง วางแผนการแก้ไข ปัญหาระยะกลาง และระยะยาว และสรุปผลเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาโดยด่วนต่อไป

ส่วนวันพรุ่งนี้ (28 ก.ย.) นายกฯ และคณะจะลงพื้นที่อำเภอแม่สาย และจะไปต่อที่จังหวัดเชียงใหม่