Skip to main content
sharethis

หลัง สว.โหวตให้กลับไปใช้ประชามติเสียงข้างมาก 2 ชั้น “อนุทิน” ปัดเอี่ยว สว. ส่วนเรื่องที่ถูกพาดพิงว่าเป็นคนริเริ่มแก้ รธน.ก็แค่คุยกันในวงกาแฟเรื่องสมดุลการบริหารบ้านเมือง ส่วนทางพรรคประชาชนจะดันลดทำประชามติเหลือ 2 ครั้งเพื่อให้มี รธน.ใหม่ทันใช้ปี 70

1 ต.ค.2567 หลังจากเมื่อวานนี้ที่ประชุมวุฒิสภามีมติให้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ใช้การลงประชามติแบบ double majority ที่ใช้เสียงข้างมากสองชั้น สวนมติ สส. ที่เสนอให้ใช้หลัก single majority ที่ยึดหลักใช้เสียงข้างมากปกติ วันนี้ท่าทีจากฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้านทั้งประเด็นท่าที สว.เหมือนพรรคสีน้ำเงินและจะไปกันต่ออย่างไร

ด้านทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและหัวหน้าพรรคประชาชาติกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลยังไม่ได้นัดหารือเรื่องแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เจอปัญหาน้ำท่วมและปัญหาของประชาชนจึงต้องช่วยเหลือก่อน ทั้งนี้เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายสำคัญและยังเป็นจำนงของรัฐบาลด้วย ต้องมีการคุยกันและใช้เสียงในสภา

ทวีกล่าวถึงเรื่องที่ สว.จะให้กลับไปใช้ พ.ร.บ.ประชามติ เสียงข้างมาก 2 ชั้น แล้วคว่ำร่าง พ.ร.บ.ประชามติของ สส. ได้เป็นการยื้อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะสภาเป็นพื้นที่สำหรับให้คนเห็นต่างมาคุยกัน แต่ถ้าเห็นไม่ตรงกันรัฐธรรมนูยก็มีช่องให้แย้งขึ้นไปได้

อย่างไรก็ตาม ทวีก็ไม่ได้ตอบประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นไปตามทิศทางของบางพรรคการเมืองที่หนุน สว. อยู่ หรือไม่ แต่เขาก็พูดขึ้นมาว่า คนที่เริ่มพูดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาก็มาจากอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้วตอนนั้นทวีก็นั่งอยู่ด้วย ไม่เชื่อว่าจะมีใบสั่งคว่ำร่างประชามติ

“อนุทิน” ปัดเอี่ยว สว.กลับไปเอาประชามติเสียงข้างมาก 2 ชั้น

ส่วนทางด้านอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย วันนี้ตอบคำถามนักข่าวเรื่อง สว.มีมติร่าง พ.ร.บ.ประชามติใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้นแล้วจะส่งผลทำให้การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ล่าช้าหรือไม่นั้นว่าเป็นเรื่องของ สว. และเขาก็ปฏิเสธเรื่องที่ สว.กับพรรคภูมิใจไทยมีท่าทีแบบเดียวกัน

นอกจากนั้นหลังจากทวีออกมาพูดพาดพิงถึงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเริ่มต้นมาจากอนุทิน เขาตอบโต้เรื่องนี้ด้วยว่าตอนที่เข้ามาใหม่ๆ เห็นข่าวว่าเรื่องอะไรที่ทำให้บริหารบ้านเมืองลำบากก็ลองคิดว่าจะแก้อย่างไร เป็นการคุยเหมือนในสภากาแฟ อย่างเรื่องที่พรรคการเมืองถูกยุบง่ายจะทำให้ชัดเจนได้ไหมว่าความผิดแค่ไหนถึงจะต้องยุบ แล้วถ้าคณะกรรมการบริหารพรรคหากไม่ได้ทำผิดด้วยก็ไม่ควรโดนตัดสิทธิ ก็แค่บ่นเฉยๆ ก็คงเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของทวี

เมื่อมีนักข่าวถามย้อนไปถึงเรื่องที่มีข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทยเคยมีการกล่าวถึงพรรคการเมืองใหญ่เป็นคนริเริ่มเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ อนุทินก็ตอบเรื่องนี้ว่าอาจจะเพราะตัวเองส่งเสียงดังกว่าคนอื่น พูดในหลักการว่าพรรคการเมืองไม่น่าจะถูกยุบได้ง่าย อำนาจการบริหารควรจะสมดุล ตนแค่บ่นว่าไม่ใช่รัฐมนตรีจะต้องไปขอปลัดอย่างเดียวขอไม่ได้ก็เกิดเดดล็อกตน  ถ้าแก้ได้ก็แก้ แก้ไม่ได้ก็ต้องหาทางบริหารจัดการ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอน

ปชน.ชงเหลือประชามติ 2 ครั้ง ถ้าแก้พ.ร.บ.ประชามติ ไม่ทัน

ส่วนทางด้านพรรคประชาชนก็มีท่าทีต่อเรื่องที่ สว.จะเอาประชามติแบบเสียงข้างมาก 2 ชั้นด้วยเช่นกัน

พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กับทางมติชนในตอนเช้าวันนี้ว่าหลังจาก สว.มีมติแก้พ.ร.บ.ประชามติ ต่างจากร่างของ สส.ขั้นตอนต่อไปจะต้องพิจารณากันในสภาผู้แทนราฎร และอาจตั้งกรรมาธิการร่วมกันระหว่าง สส.และสว. เพื่อพิจารณเพิ่มเติมหากยังเห็นต่างกัน สส.ก็ยังมีอำนาจที่จะยืนยันตามร่างเดิม ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 6 เดือน ขึ้นไป ทำให้ประชามติครั้งแรกไม่ทันกุมภาพันธ์ 2568 ช่วงการเลือกตั้งท้องถิ่น และจะไม่มีรัฐธรรมนูญใหม่ทันใช้ในการเลือกตั้งปี 2570

โฆษกพรรคประชาชนกล่าวถึงข้อเสนอเรื่องนี้ ทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ทันใช้ปี 2570 คือให้ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับเรื่องสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเคยยื่นไว้เมื่อต้นปี 2567 เพื่อลดจำนวนครั้งทำประชามติจาก 3 ครั้งเหลือ 2 ครั้ง และเรื่องนี้ก็ไม่ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 4/2564 ด้วยและคำวินิจฉัยรายบุคคลของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ก็มีความเห็นว่าทำประชามติ 2 ครั้งก็พอการเพิ่มมาอีก 1 ครั้งไม่ได้จำเป็นในทางกฎหมาย

อย่างไรก็ตามสำหรับการแก้รายมาตราในเรื่องมาตรฐานจริยธรรม พริษฐ์ก็ตอบไว้ด้วยว่าแม้ทางพรรคจะเห็นปัญหาเรื่องศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระผูกขาดอำนาจการตีความเรื่องมาตรฐานจริยธรรมเอาไว้ แต่ทางพรรคก็พร้อมจะพักเรื่องนี้ไว้หากจำเป็นเพื่อไม่ให้พรรคการเมืองอื่นใช้เป็นเงื่อนไขไม่เดินหน้าพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นอื่น

หลังจากพริษฐ์ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ในตอนเช้า ช่วงสายก็มีรายงานถึงความเห็นของหัวหน้าพรรคประชาชน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ที่มองว่าเรื่อง สว.จะให้กลับมาใช้ประชามติแบบเสียงข้างมาก 2 ชั้นว่า เป็นเรื่องน่ากังวลที่จะทำให้การได้รัฐธรรมนูญใหม่ไม่ทันเลือกตั้ง 2570 เพราะจะทำให้ต้องตั้ง กมธ.ร่วม สส.และสว.ทำให้กระบวนการพิจารณาล่าช้าออกไป

ณัฐพงษ์กล่าวว่า หนทางแก้ก็คือจัดทำประชามติ 2 ครั้ง ทางพรรครัฐบาลก็ให้ความเห็นว่าจะทัน แต่ยังต้องหารือกับฝ่ายค้านและรัฐบาลด้วย อาจต้องทำในรัฐสภา รรวมถึงหารือประธานรัฐสภาว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net