ศาลนราธิวาสออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ในคดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ ซึ่งปัจจุบันเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลังเจ้าตัวไม่มาตามนัดตามหมายเรียก

4 ต.ค. 2567  วานนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดนราธิวาสได้ออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ในคดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อปี 2547 หลังจากที่ พล.อ.พิศาล ไม่มาตามนัดของศาลตามหมายเรียก พร้อมระบุว่า มีหลักฐานว่าน่าจะกระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี และน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี เพราะฉะนั้นจึงให้จับตัว พล.อ.พิศาล เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย ภายในอายุความวันที่ 25 ตุลาคม 2567

คดีสลายการชุมนุมตากใบเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 85 ราย โดยเฉพาะผู้เสียชีวิต 78 รายจากการขาดอากาศหายใจขณะถูกลำเลียงบนรถทหาร ซึ่งคดีนี้กำลังจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 นี้ นับเป็นเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดบาดแผลทางจิตใจและเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนใต้ของไทย

สภาประชาสังคมใต้จี้นายกฯ เร่งจับจำเลย หวั่นถูกอ้างใช้ความรุนแรง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 สภาประชาสังคมชายแดนใต้ ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในเรื่องข้อห่วงกังวลในการติดตามจับกุมจำเลยและผู้ต้องหาในคดีตากใบก่อนหมดอายุความ ในวันที่ 25 ตุลาคม 2567

จดหมายระบุว่า เนื่องจากคดีตากใบจะขาดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจไม่สามารถนำตัวตัวจำเลยจากทั้ง 2 คดีรวม 14 คน (คือคดีทีชาวบ้านฟ้องและคดีที่อัยการสูงสุดฟ้อง) ไปขึ้นศาลได้ทัน

สภาประชาสังคมชายแดนใต้ขอให้นายกรัฐมนตรีได้โปรดตรวจสอบอย่างเร่งด่วนว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ติดตามค้นหาและสืบเสาะตามอย่างเคร่งครัดหรือไม่ โดยการประกาศจับและออกหมายค้นผู้ที่อาจให้ที่พักพิงหรือช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบซ่อนตัว

สภาประชาสังคมชายแดนใต้ขอให้นายกรัฐมนตรีรับรองต่อสาธารณชนว่า คดีตากใบซึ่งถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่สำคัญจะได้รับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเป็นธรรม ทั้งนี้เพื่อรักษาความยุติธรรมแก่ญาติผู้สูญเสียและผู้ถูกกล่าวหา รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ผ่านกระบวนการยุติธรรม

“การดำเนินการในเรื่องนี้จะมีส่วนสำคัญในการสร้างปัจจัยเอื้อต่อกระบวนการสันติภาพในพื้นที่ชายแดนใต้ และลดการใช้ประเด็นคดีตากใบเป็นข้ออ้างในการต่อต้านรัฐโดยใช้ความรุนแรง หรือผลักดันให้ประชาชนทั่วไปในพื้นที่และผู้ที่มีความคิดเห็นต่างปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยในอนาคต ด้วยเหตุนี้สภาประชาสังคมชายแดนใต้ขอให้ ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ได้โปรดอำนวยการให้ดำเนินการต่อเนื่องเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน”