8 ต.ค. 2567 ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ที่เพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์เปิดใจครั้งแรกวันนี้ (8 ต.ค.) กับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวผ่านรายการ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว” 

ณัฐวุฒิกล่าวว่า หน้าที่ของตำแหน่งนี้คือการแสดงความคิดเห็นให้ข้อเสนอแนะในประเด็นที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง ที่จริงตอนที่ตอบตกลงว่าจะมาช่วยภารกิจนายกฯ ผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆ คนก็เป็นห่วง บ้างก็บอกอยู่ทำงานเบื้องหลังก็ได้ ไม่ต้องออกมาข้างหน้า จะได้ไม่ต้องพบกับแรงเสียดทาน แต่ตนเป็นคนบอกเองว่าถ้าตนจะช่วยงานก็เปิดๆ ไปเลยดีกว่า ไม่อยากรู้สึกว่ากำลังปิดบังประชาชนอยู่ หากจะต้องเผชิญแรงเสียดทานตนก็พร้อมรับ ตอนที่ตนประกาศยุติบทบาทกับผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ตนก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ จากนั้นก็กลับไปทำงานที่ร้านเยี่ยมใต้ของตน ถ้าคนเยอะก็เก็บจานเอง เช็ดโต๊ะเอง เป็นภาพปกติที่ดำเนินไปได้ ขายดี กำลังจะทำสาขา 3 ในเร็วๆ นี้

เมื่อสรยุทธถามว่าแบบนี้มันเป็นการกลืนน้ำลายหรือเปล่า

ณัฐวุฒิตอบว่า กลืนเลือด กลืนทุกอย่าง เพียงแต่สิ่งที่ตนต้องกลืนสารพัดอย่าง มันเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเป็นจริงทางการเมือง ความเป็นจริงทางการเมืองในมิติของตนก็คือเรื่องการจัดสรรอำนาจ และเราไม่สามารถจะทำอะไรได้มากกว่าความจริงของสถานการณ์ที่มันเป็นอยู่ ตนเคยมีความฝัน เคยมีความพยายามอย่างมากในการที่จะทำตามสิ่งที่ตัวเองเชื่อและภูมิใจที่ได้ทำมันมา แต่สุดท้ายก็พบว่า เราต้องอยู่กับความเป็นจริงอยู่ดี ในช่วงปลายๆ รัฐบาลเศรษฐาซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่ามันคือช่วงปลาย ตนได้รับปากเศรษฐาไปว่าจะเข้ามาช่วยทำงาน แต่ต่อมาเศรษฐาก็หลุดจากตำแหน่งด้วยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ตนจึงยังไม่ทันได้เข้ามาช่วย

ณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า การหลุดจากตำแหน่งของอดีตนายกฯ เศรษฐา หลังจากเป็นรัฐบาลมาแค่ปีกว่าๆ ทำให้ตนมองว่ารัฐบาลมีโอกาสจะเผชิญอุบัติเหตุทางการเมืองได้ง่ายๆ ในขณะที่เราก็มีเรื่องบางเรื่องที่ยังค้างคาใจที่ยังทำไม่สำเร็จ ประกอบกับผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลก็อยากให้ตนกลับมาช่วย รวมทั้งแพทองธารด้วย

ณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ตนอยากจะพูดให้ชัดว่า คำว่า “มาช่วย” มันไม่ได้หมายความว่า อดีตนายกฯ เศรษฐาหรือนายกฯ แพทองธาร อยู่ในสถานการณ์เดือดร้อนแสนสาหัส และก็ไม่ได้หมายความว่าตนเก่งกาจสามารถ แต่ภารกิจในการเป็นผู้นำรัฐบาล การบริหารประเทศของคนเป็นนายกรัฐมนตรี มันมีรายละเอียดที่ทั้งกว้างขวางและซับซ้อน ท่านจึงต้องการหลายคนมาช่วยกันคิดช่วยกันทำ ในการเข้าไปทำก็มีคณะทำงาน ตนเป็นเพียงความเห็นหนึ่งเท่านั้น สุดท้ายคนที่ตัดสินใจก็เป็นนายกฯ อยู่ดี

นายกฯ เผยแต่งตั้งณัฐวุฒิไม่เกี่ยวกับตอบโต้ม็อบ

เวลา 10.40 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นการแต่งตั้งเพื่อตอบโต้ม็อบโดยเฉพาะหรือไม่ ว่าอาจจะเป็นเวลาที่พอเหมาะพอดีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมา แต่ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกัน ซึ่งจริงๆ แล้วตั้งแต่การทำครอบครัวเพื่อไทย ได้มีการทำงานร่วมกับณัฐวุฒิอยู่ตลอด และเห็นความสามารถ ในหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของทางด้านการเมือง หรือเรื่องของทางด้านบริหารจัดการในหลายๆ อย่าง