Skip to main content
sharethis

กมธ. การกฎหมายฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงความคืบหน้าคดีตากใบ สตช. เผยจำเลย 2 รายอยู่ต่างประเทศ เร่งส่งหมายแดงอินเตอร์โพล ด้านญาติผู้เสียชีวิตถามจับจำเลยได้หรือยัง อัยการพร้อมฟ้องหากจับได้ทันก่อน 25 ต.ค. นี้ ขณะที่ทนายความวอนอย่าโยนความผิดให้ทหารระดับปฏิบัติการ

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่าเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2567 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ผู้แทนอธิบดีอัยการภาค 9 ผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เข้าให้ข้อเท็จจริงกับ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ในส่วนความคืบหน้าของการติดตามจับกุมจำเลยและผู้ต้องคดีตากใบ ทั้ง 14 ราย ตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาสและศาลจังหวัดปัตตานี

ทั้งนี้ ในการประชุมวันนี้ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ประธาน กมธ.ฯ อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังและถ่ายทอดสดหลังหารือกับคณะกรรมาธิการฯ รวมถึงมีสถานทูตกว่าสิบสถานทูตแสดงความสนใจขอเข้าสังเกตการณ์การประชุม แต่มีเพียงสถานทูตประเทศติมอร์ เลสเต ประจำประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมฟังในห้องประชุม เนื่องจากมีจดหมายขอเข้าสังเกตการณ์จากสถานทูตถึงประธาน กมธ.ฯ โดยตรง

พ.ต.อ.รังษี มั่นจิตร ผู้กำกับการซักถาม 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พ.ต.ท.เสกสันต์ คงคืน รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นตัวแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงไทม์ไลน์การดำเนินคดีและขั้นตอนการออกหมายจับ และความคืบหน้าในการติดตามจับกุมจำเลยทั้ง 14 คน โดยตลอดการตรวจค้นที่ผ่านมานับแต่ศาลออกหมายจับจำเลยทั้งหมดนั้น ปัจจุบันยังไม่พบตัวจำเลยคนใด ทั้งนี้ ย้ำว่าไม่เพียงแต่ตำรวจภูธรภาค 9 แต่ตำรวจทั้งประเทศขณะนี้กำลังร่วมกันดำเนินการตามหมายจับของศาลตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. 2567 โดยกำหนดเวลาของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือวันที่ 25 ต.ค. 2567 ภายในอายุความ

นอกจากนี้ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยืนยันกับที่ประชุมว่าปัจจุบันมีจำเลย 2 คนได้เดินทางออกนอกประเทศแล้ว ในระหว่างการประชุม  นายรอมฎอน ปันจอร์ ส.ส.พรรคประชาชน กมธ.ความมั่นคงฯ ได้ขอให้ผู้แทนสตช. ยืนยันข้อเท็จจริงที่ทราบมาว่าจำเลยคนหนึ่งอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ และกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยตัวแทนสตช. ตอบเพียง ถือว่าส.ส. รอมฎอน ได้ให้เบาะแส

ในส่วนการดำเนินการตามกลไกองค์การตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล (Interpol) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถส่งหมายแดงในเข้าไปยังอินเตอร์โพลเพื่อขอความร่วมมือจากนานาชาติในการช่วยติดตามจับกุมนั้น วันที่ 7 ต.ค. 2567 ได้มีการส่งหมายไปยังกองการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการส่งหมายไปยังอินเตอร์โพลต่อไป โดยปัจจุบันยังคงอยู่ในการดำเนินการของกองการต่างประเทศ

ในส่วนของผู้แทนอัยการสูงสุด ยืนยันว่าทางอัยการสูงสุดพร้อมที่จะส่งฟ้องต่อศาลปัตตานีในสำนวนที่สอง ได้ทันหากสามารถจับตัวจำเลยทั้ง 7 คน ตามสำนวนของอัยการสูงสุด มาได้ทันภายในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ด้านพล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แจ้งว่ากำลังประสานผู้บังคับบัญชาของนายทหารสองนายที่ยังรับราชการอยู่ให้มามอบตัว ตามหมายจับ สำนวนที่อัยการสั่งฟ้อง

ขณะเดียวกัน พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ทนายความและผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะผู้ร้องของการประชุมดังกล่าว และตัวแทนทนายฝ่ายโจทก์ในคดีอาญาตากใบ ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้แสดงความเห็นต่อว่าตนรู้สึกเสียใจต่อกระบวนการยุติธรรม โดยมองว่าผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่ควรจะโยนภาระความผิดให้กับพลขับสองคนที่ยังคงปฏิบัติราชการอยู่ซึ่งเป็นเพียงทหารระดับปฏิบัติการ อาจไม่มีแม้กระทั่งเจตนา และไม่มีอำนาจที่จะปฏิเสธการปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้น

ในการประชุมครั้งนี้ ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากคดีตากใบได้เข้าร่วมฟังการประชุมผ่านทางออนไลน์ ตลอดการประชุม ตัวแทนญาติได้ถามเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งอยู่ในที่ประชุมว่า ปัจจุบันจับจำเลยคนใดได้บ้างหรือไม่ โดยผู้แทนสตช. ตอบว่ายังจับไม่ได้และกำลังดำเนินการตามจับอยู่

นอกจากความคืบหน้าในการติดตามและจับกุมจำเลยในคดีตากใบแล้ว ที่ประชุมฯ ยังได้มีการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพบก ศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอรมน.) และสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาร่วมประเมินสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ หากคดีขาดอายุความภายหลังวันที่ 25 ต.ค. 2567  

ผู้แทนกองทัพบก แจ้งต่อที่ประชุมว่าผู้บัญชาการทหารบกไม่ได้นิ่งนอนใจในการติดตามสถานการณ์ และมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ กองทัพบกต้องเฝ้ามองโดยสงวนท่าทีตามที่กฎหมายให้อำนาจเพียงเท่านั้น

ด้าน พล.ต.ต.นิตินัย ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์คาร์บอม หน้าบ้านนายอำเภอตากใบ เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2567 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นล่าสุด โดยพล.ต.ต.นิตินัย ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุคดีตากใบ

การประชุมเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 12.30 น. โดย กมธ. การกฎหมายฯ จะติดตามคดีดังกล่าวต่อไปอย่างใกล้ชิด

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอเชิญชวนสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจร่วมกันติดตามการดำเนินการของคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ นี้ในการติดตามจับกุมจำเลยและผู้ต้องหาคดีตากใบให้ได้ก่อนหมดอายุความ และร่วมติดตามนัดคดีอาญา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.578/2567 ศาลจังหวัดนราธิวาส โดยมีครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คดีตากใบเป็นโจทก์ 48 คน ฟ้องคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ ในวันที่ 15 ต.ค. 2567 ต่อไปอย่างใกล้ชิดว่าจำเลยในคดีดังกล่าวจะมารายงานตัวต่อศาลหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการค้นหาข้อเท็จจริงและนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ให้ผู้เสียหายและครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้รับความยุติธรรม และได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสม

คดีนี้เป็นการทำงานร่วมกันของมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมกับมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์จังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาทนายความ

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net