Skip to main content
sharethis

'พีมูฟ' เปิดปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องโฉนดชุมชน-ทำพิธีกรรม 'เผาพริกเผาเกลือ' ท่ามกลางตำรวจที่ปิดล้อม ปัจจุบันยังไม่ได้รับการติดต่อจากรัฐบาลเพื่อรับข้อเรียกร้อง

 

15 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (15 ต.ค.) ที่หน้าประตู 3-4 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีวาระประชุมคณะรัฐมนตรี ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ กล่าวปราศรัย สื่อสารข้อเรียกร้องสิทธิโฉนดชุมชน ซึ่งรัฐบาลยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โฉนดชุมชน แต่ประชาชนขอนำพื้นที่ไปใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นการเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐาน และประชาชนอยู่ในพื้นที่มาก่อน ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศกรรมสิทธิ์

สืบเนื่องจากเมื่อคืนวานนี้ (14 ต.ค.) ตำรวจได้นำกำลังปิดล้อมผู้ชุมนุมที่หน้าทำเนียบ ไม่อนุญาตให้รถผ่านเข้าออกเป็นจำนวน 3 จุด ประกอบด้วย ที่สะพานชมัยมรุเชฐ แยกมิสักวัน และสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการตามพระราชบัญญัติชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า 

จนกระทั่งเมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมาผู้ชุมนุมได้เข้ามาเจรจาจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ยอมอนุญาตให้รถขนเสบียงอาหารของผู้ชุมนุมผ่านเข้า-ออกได้แล้ว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

ต่อมา เพจเฟซบุ๊ก พีมูฟ ถ่ายทอดสดออนไลน์วันนี้ (15 ต.ค.) เวลาประมาณ 05.30 น.ของวันถัดมา หลังจากการสำรวจพื้นที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ สี่แยกถนนพิษณุโลก-ราชดำเนินนอก และสะพานมัฆวานรังสรรค์ พบว่าสถานการณ์ยังคงเดิมคือรถไม่สามารถเข้า-ออกได้ เว้นแต่เป็นประชาชนที่ปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล และสำนักงาน ก.พ.ร. ส่วนคนต้องเดินเท้าเข้า-ออก

แนวรั้วตำรวจที่แยกมิสักวัน ถ่ายโดยพีมูฟ

ถ่ายโดย กัญญ์วรา หมื่นแก้ว

เพจเฟซบุ๊กพีมูฟ รายงานว่า ช่วงเวลา 8.00-9.00 น. พีมูฟ ได้ประกอบพิธีกรรมเรียกขวัญ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามความเชื่อของในแต่ละภูมิภาค โดยเชื่อว่าขณะนี้ขวัญและจิตวิญญาณของนายกรัฐมนตรียังไม่อยู่กับตัว จึงทำให้เพิกเฉยและไม่สนใจกับการเรียกร้องของประชาชนที่มาชุมนุมอยู่เกือบสิบวัน

โดยระหว่างการดำเนินกิจกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตรึงกำลังบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐอย่างแน่นหนา พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนรถในการตั้งเป็นแนวกีดขวางอีก 2 ชั้น และมีการตรวจสอบประชาชนที่เข้า-ออก บริเวณแนวกั้น หากเป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ให้แสดงบัตรประจำตัว จึงจะสามารถผ่านเข้ามาได้ ส่วนประชาชนที่มาเข้าร่วมการชุมนุม ไม่อนุญาตให้เข้ามายังบริเวณที่ชุมนุม

เวลา 09.30 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนได้เขย่ารั้วประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากเป็นเวลาในการเริ่มประชุมคณะรัฐมนตรี และเห็นผู้เข้าประชุมที่คาดว่าเป็นคณะรัฐมนตรีขับรถและเดินอยู่ภายในทำเนียบ จึงพยายามสื่อสารไปยังผู้คนภายในว่ามีประชาชนที่ชุมนุมอยู่บริเวณประตู 3

หลังจากผู้ชุมนุมเริ่มเขย่ารั้วประตู ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลดุสิตได้ใช้รถเครื่องเสียงประกาศให้ผู้ที่อยู่บนรถเครื่องเสียง ควบคุมมวลชนให้ชุมนุมโดยสงบและเป็นไปตามระเบียบในพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ

เวลา 10.15 น. ธีรเนตร ไชยสุวรรณ ประธานกรรมการบริหารพีมูฟ ขึ้นปราศรัยถึงการเพิกเฉยต่อความทุกข์ร้อนประชาชนของนายกรัฐมนตรี หากประชาชนต้องให้คะแนนการทำงานบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้คงให้เป็น 0  คะแนน และผู้ชุมนุมได้ทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยใช้ไข่ไก่ ขว้างปาเข้าไปด้านในทำเนียบรัฐบาล

เวลา 10.30 น. ผู้ชุมนุมได้ใช้รั้วแผงเหล็กของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พาดไปยังประตูรั้วทำเนียบ คล้ายบันได ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศเตือนให้นำรั้วเหล็กออก และไม่ให้ขว้างปาสิ่งของเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล

เวลา 11.30 น. พีมูฟ ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ 'เผาพริกเผาเกลือ' โดยตามความเชื่อว่าจะเป็นการขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่บดบังจิตใจแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จนไม่เล็งเห็นความทุกข์ร้อนและปัญหาของประชาชนที่มาเรียกร้อง และปักหลักชุมนุมอยู่ข้างรั้วทำเนียบรัฐบาล

'เผาพริกเผาเกลือ' ถ่ายโดย กัญญ์วรา หมื่นแก้ว

การดำเนินกิจกรรมของพีมูฟเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งมีการยกระดับการดำเนินกิจกรรมจากเบาไปหาหนัก โดยตลอดเวลาการดำเนินกิจกรรมจนถึงขณะนี้ (12.00 น.) ยังไม่มีการติดต่อประสานงานจากทางตัวแทนรัฐบาลและฝ่ายการเมืองแต่อย่างใด

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตรึงกำลังปิดทางเข้า-ออกบริเวณที่ชุมนุมดังเดิม โดยยังไม่มีการชี้แจงว่า การปิดทางเข้า-ออกบริเวณที่ชุมนุมเช่นนี้ เป็นไปตามคำสั่ง นโยบาย หรือข้อกฎหมายใด ทั้งยังไม่ได้ระบุว่า การปิดทางเข้า-ออกเช่นนี้จะเป็นระยะเวลาเท่าใด

เมื่อเวลาประมาณ 20.16 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ตำรวจยังคงตั้งรั้วเหล็กอยู่ที่สะพานชมัยมรุเชฐอยู่เหมือนเดิม

จำนงค์ หนูพันธ์ ประธานที่ปรึกษาพีมูฟ เปิดเผยว่า จากการคุยกับตำรวจ ตำรวจให้เหตุผลว่ามีการปิดล้อมพื้นที่ชุมนุม เพราะกลัวคนเข้ามาชุมนุมเพิ่มในวันประชุม ครม. เราก็บอกว่าหลังจากวันนี้จบประชุม ครม. ให้นำแนวรั้วออก เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากถนนตรงนี้ด้วย ซึ่งตำรวจรับปากกับกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า จะนำรั้วออกในเวลา 18.00-19.00 น. 

อย่างไรก็ตาม จำนงค์ พบว่าตำรวจยังไม่ได้นำแผงเหล็งออกตามที่รับปาก และระบุว่าจะไปคุยกับหัวหน้า (ไม่ทราบว่าเป็นใคร) นำรั้วเหล็กออกในช่วงเช้าของวันที่ 16 ต.ค. 2567 ก่อนคนมาทำงาน

ข้อเรียกร้องพีมูฟ

พีมูฟ มาปักหลักที่หน้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.เป็นต้นมา เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาสิทธิที่ดินทำกิน และโฉนดชุมชน โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ประกอบด้วย 1. กลไกคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เพื่อเป็นกลไกในการกำกับ เร่งรัด และติดตาม โดยมีแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และสองรองนายกรัฐมนตรีเป็นรองประธาน คือ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และประเสริฐ จันทรรวงทอง พร้อมด้วยองค์ประกอบของภาคประชาชนและฝ่ายข้าราชการประจำ

2. เมื่อได้กลไกคณะกรรมการดังกล่าวแล้ว จะต้องมีการเปิดประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่1/2567 เพื่อหารือถึงหลักการและแนวทางในการแก้ไขปัญหา กรณีปัญหาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาจากกลไกคณะกรรมการชุดเดิม เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาต่อในคณะกรรมการชุดใหม่

บรรยากาศ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ สว. มาร่วมรับฟังปัญหาจากผู้ชุมนุมพีมูฟ เมื่อ 15 ต.ค. 2567 (ที่มา: เฟซบุ๊ก เทวฤทธิ์ มณีฉาย)

3. นำผลการประชุมเจรจาและแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน ให้นำเข้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้มีมติรับทราบ และเห็นชอบต่อไป

นอกจากนี้ พีมูฟ ยังมีข้อเสนอเชิงนโยบาย 10 ด้าน ประกอบด้วย 1. ด้านสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย ขอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่มีบทบัญญัติกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนในด้านต่างๆ ขอให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกกระบวนการทุกขั้นตอน

2. ด้านการกระจายอำนาจ ขอให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง แทนการแต่งตั้งจากส่วนกลาง เพื่อปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

3. ด้านนโยบายการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ขอให้เร่งออกกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ

4. ด้านนโยบายที่ดินและการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม ขอให้มีการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน โดยผลักดัน พ.ร.บ.ภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า

5. ด้านนโยบายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ขอให้ยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่าและแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพราะการดำเนินนโยบายดังกล่าวทำให้มีการละเมิด คุกคามชีวิตทรัพย์สินและส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่อาศัยและทำกินในที่ดินป่าทั่วประเทศ

6. ด้านการป้องกันภัยพิบัติ ขอให้มีคณะกรรมการส่งเสริมระบบการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชน เพื่อลดความเสี่ยงของประชาชนในการเตรียมความพร้อมก่อนเกิดเหตุ การช่วยเหลือระหว่างเกิดเหตุ และการฟื้นฟูเยียวยาหลังเกิดเหตุ

7. การคุ้มครองชาติพันธุ์และสิทธิความเป็นมนุษย์ เพื่อให้เกิดความมั่นคงต่อชุมชนและชาติพันธุ์ในทุก ๆ ด้าน ขอให้เร่งลงนามรับรองร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชุมชนกลุ่มชาติพันธ์และชนเผ่าพื้นเมือง พ.ศ. ….

8. ด้านสิทธิของคนไร้สถานะ แต่งตั้งกรรมการแก้ไขปัญหาสิทธิสถานะเป็นกรรมการกลางที่มีผู้ทรงคุณวุฒิมีภาคประชาชนที่มีประสบการณ์เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน

9. ด้านนโยบายรัฐสวัสดิการ โดยเสนอนโยบายและสวัสดิการถ้วนหน้าจากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ

และ 10. ด้านที่อยู่อาศัย โดยให้รัฐจัดสรรที่ดินให้ประชาชนอยู่อาศัย จัดสรรงบประมาณแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย หยุดใช้มาตรการไล่รื้อชุมชน

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก MobData เผยว่า วันแรกที่แจ้งชุมนุมหน้าทำเนียบฯ ตำรวจได้ออกประกาศห้ามชุมนุมในรัศมี 50 เมตรจากทำเนียบฯ เนื่องจากเป็น "แนวรั้งหน่วงความมั่นคง" ตามแผนรักษาความสงบเรียบร้อยการจัดการชุมนุมสาธารณะ และจัดการจราจรกลุ่มพื้นที่เขตพระราชวังดุสิต และทำเนียบรัฐบาล

ต่อมา เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจพยายามเจรจาให้ผู้ชุมนุมเข้าไปปักหลักในพื้นที่ของ ก.พ.ร. แต่ผู้ชุมนุมเสนอว่าให้ผู้แทนรัฐบาลมาพบ และตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ถึงจะปฏิบัติตาม แต่จนวานนี้ (13 ต.ค.) ยังไม่มีผู้แทนมาพบ จึงจัดคาร์ม็อบตามหานายกรัฐมนตรี และชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net