นักวิจัยด้านภาษาศาสตร์จาก ม. แลงคาสเตอร์ ของอังกฤษวิจัยจากกรณีศึกษา 4,000 รายเรื่อง "โทรล" (ผู้ชอบกลั่นแกล้งหรือยั่วยุ) โดยบอกว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่แค่มาจากความเบื่อหน่าย กับความรู้สึกมีอำนาจจากการเป็นบุคคลนิรนาม
27 มิ.ย. 2013 - งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ได้เปิดเผยผลการวิจัยเกี่ยวกับ กลุ่มโทรล (troll - ผู้ชอบกลั่นแกล้งหรือยั่วยุให้คนอื่นโกรธ) ในอินเตอร์เน็ต โดยบอกว่าพวกเขา ไม่ใช่คนที่มีเจตนาร้าย แต่ส่วนมากแล้วมาจากความเบื่อหน่าย
ดร. แคลร์ ฮาร์ดาเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ ได้ทำการศึกษากรณีศึกษาในโลกออนไลน์ 4,000 รายที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำการ "โทรล" ทางอินเตอร์เน็ต
ฮาร์ดาเกอร์ ได้ ทำการวิเคราะห์ข้อความที่โพสท์ในเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการข่มเหงรังแก, การกุเรื่อง, การล่อลวง, และการคุกคามทางอินเตอร์เน็ต โดยเมื่อไม่นานมานี้มีการอ้างว่าการรังแกกันทางอินเตอร์เน็ตเป้นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็กนักเรียนฆ่าตัวตาย
งานวิจัยของฮาร์ดาเกอร์กล่าวว่า กลุ่มโทรลจะกระทำการด้วยความรู้สึกว่าตนมีอำนาจ, เพราะอยากสนุก, เพราะเบื่อหนาย หรือเพราะอยากแก้แค้น รวมถึงสภาพความเป็นบุคคลนิรนามในอินเตอร์เน็ต
งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสารว่าด้วยภาษา ความก้าวร้าว และความขัดแย้ง มีการเปิดเผยกลวิธีที่เหล่าโทรลเล่นสงครามจิตวิทยากับเหยื่อของพวกเขา ซึ่งกลวิธีดังกล่าวดูเหนือกว่าการข่มเหงรังแกทั่วไป และดูมีความซับซ้อนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การยั่วโมโหด้วยการวิจารณ์คนอื่นแต่ทำเสียเอง, การให้คำแนะนำที่ทำให้คนอื่นเป็นอันตราย, การทำให้คนอื่นตื่นตกใจด้วยการกระทำไม่แยแสต่อเรื่องอ่อนไหว
"ความก้าวร้าว การล่อลวงและหลอกใช้มีอยู่ในการปฏิสัมพันธ์ในโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น แต่ผู้ใช้จำนวนมากก็ยังไม่รู้ว่ามีบางพฤติกรรมที่มีอยู่จริง และมันจะส่งผลร้ายแรงหรือมีภัยแอบแฝงอย่างไรบ้าง" ฮาร์ดาเกอร์กล่าว
ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ยังได้แก้ความเข้าใจผิดในเรื่องที่ว่าโทรลจะมาจากกลุ่มเด็กหรือวัยรุ่นเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วคนที่เป็นโทรลมาจากทุกช่วงวัยและทุกภูมิหลัง
"พวกเขาจะใช้วิธีการต่างกันในการทำให้คนอื่นตอบสนองในแบบที่พวกเขาต้องการ วิธีการบางอย่างก็เห็นไม่ชัดเท่าวิธีการอื่น มันไม่ใช่เรื่องการข่มเหงส่วนตัวอย่างเดียว" ฮาร์ดาเกอร์กล่าว
นักวิจัยเตือนว่าการโทรลในบางรายนั้นอาจกลายเป็นพฤติกรรมที่แย่กว่านั้นเช่นการลอบติดตามทางอินเตอร์เน็ต (cyberstalking) และการคุกคามทางอินเตอร์เน็ต (cyberharassment)
มีดาราบางคนเช่น ดันแคน เจมส์ บอกว่าเขาได้รับข้อความในเชิงเกลียดชังคนรักร่วมเพศผ่านทางทวิตเตอร์ อีกรายหนึ่งคือเจสซี่ เจ. กรรมการของรายการ The Voice ของอังกฤษ ก็เคยถูกกล่าวร้ายทางโซเชียลเน็ตเวิร์กเช่นกัน
ขณะที่คนธรรมดาทั่วไปมักจะรู้สึกถูกข่มเวลาที่ตกเป็นเหยื่อของการโทรล ฮาร์ดาเกอร์กล่าวว่า เราสามารถเมินเฉยต่อข้อความของโทรลเพียงข้อความเดียวได้ง่ายๆ แต่การตอบสนองต่อข้อความโทรลจำนวนมากอาจเป็นสิ่งรบกวนทำให้เนื้อหาที่เป็นประโยชน์จริงๆ ถูกละเลยไป
7 วิธีการที่พวกโทรลชอบใช้
งานวิจัยได้มีการกล่าวถึงวิธีการที่โทรลใช้ดังนี้ หนึ่ง การหลีกเลี่ยงประเด็นที่โต้เถียงกันอยู่โดยเฉพาะประเด็นที่มีความอ่อนไหว ทำให้เกิดการตอบโต้อย่างรุนแรง
สอง การวิจารณ์แต่ทำเสียเองเช่นการวิจารณ์ไวยากรณ์หรือการสะกดคำของคนอื่นแต่ก็ใช้ผิดๆ เสียเอง ซึ่งเป็นการยั่งโมโหวิธีหนึ่ง
สาม การแสร้งทำตัวขัดแย้งกับจุดยืนคนอื่นหรือการแสร้งถามคำถามไร้เดียงสา
สี่ การให้คำแนะนำอันตรายหรือส่งเสริมพฤติกรรมเสี่ยง
ห้า การสร้างความตื่นตระหนกด้วยการไม่แยแสประเด็นอ่อนไหวหรือกล่าวในหัวข้อต้องห้ามอย่างโจ่งแจ้ง
หกคือ การกล่าวร้าย ข่มขู่ หรือด่าทอผู้อื่นอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีสาเหตุหรือการยุยงใดๆ
และเจ็ด การส่งข้อความยั่วโมโห สร้างความไม่พอใจ แบบเดียวกันไปให้หลายๆ กลุ่มและรอการตอบสนอง