“หมอนิรันดร์” กรรมการสิทธิ์ฯ ชุดใหม่ คึกคักเยี่ยม สคจ.หัวนา-ราษีไศล เปิดสหกรณ์คนทาม

4 ก.ค. 52 -นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดใหม่ เดินทางมาเยี่ยมผู้ชุมนุมสมัชชาคนจน เขื่อนหัวนาและเขื่อนราษีไศล ที่ปักหลักชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อมานานนับสิบกว่าปี โดยตั้งหมู่บ้านคนจนชุมนุมครบรอบ 1 เดือน ณ สันเขื่อนราษีไศล พร้อมกับปราศรัยกับผู้ชุมนุมว่า

“ยินดีและเต็มใจที่มาวันนี้ เพราะถือว่าเป็นคนคุ้นเคยกันมานานหลายสิบปี มาด้วยใจ ด้วยความผูกพันทั้งกับพี่น้องคนยากคนจน ผูกพันกับผู้ล่วงลับอย่าง มด วนิดา และปุ๋ย นันทโชติ อยากให้คิดว่าเป็นลูกหลานที่มาเยี่ยม ปัจจุบันนี้ผมเป็นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็ยังคงได้มาทำงานกับคนยากคนจนอยู่เช่นเดิม ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง เพราะกรรมการสิทธิฯ ก็กินเงินเดือนของประชาชน ดังนั้นหน้าที่ก็เราก็คือ จะทำอย่างไรให้ จะให้ความทุกข์ยากของเราที่ยังคงอยู่ ยังไม่แก้ปัญหา เป็นความทุกข์ยากที่คนอื่นมาทำให้เดือดร้อน ยากจน ทำลายฐานทรัพยากรของเรา ได้เปิดเผยออกไป สังคมไทยไม่เปิดโอกาสให้คนยากจน ทั้งที่คนจนก็คือคน มีศักดิ์ศรีของคนไทยเช่นกัน ปัญหาของคนยากจนเป็นปัญหาของคนทั่วประเทศ เรียกว่า คนรวยกระจุก แต่คนจนกระจาย

ในฐานะคณะกรรมการสิทธิ์ฯ เห็นว่า รัฐบาลต้องทำเรื่องปากเรื่องท้อง ทำอย่างไรเราอยู่ที่นี้ ตั้งหมู่บ้านต่อสู้แล้ว เราต้องดึงเรื่องการเฮ็ดอยู่เฮ็ดกินได้ ไม่ใช่คนโลภมาก มีกินมีใช้ วันนี้ที่เราทำสหกรณ์คนทาม ถือว่า เราไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ แต่เรากำลังช่วยเหลือตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ ต้องช่วยเหลือ เพราะรัฐบาลสร้างปัญหาน้ำท่วมที่ดิน ป่าทามของเรา ปัญหาที่เรื้อรังมานาน 10 ปี เราต่อสู้เพื่อให้ลูกหลาน เพื่อให้ได้ผืนดินที่จะต้องหากิน ทำอย่างไรจะให้มีผืนดิน ไม่อยากให้ลูกหลานไปเป็นลูกจ้างที่โรงงานต่างๆ กลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป

ปัจจุบันคนตกงานประมาณ 800,000 คน คนอีสานประมาณ 300,000 คน กลับมาไม่มีที่ดิน แล้วจะกลับมาทำอะไร ในเมื่อเพราะไม่มีที่ดินแล้ว การมีที่ดินที่ทำกิน มีลุ่มน้ำที่สมบูรณ์ที่เราหาอยู่หากินได้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำต้องรักษาให้ประชาชน หน้าที่ในการปกป้องสิทธิของประชาชน ชุมชน เป็นหน้าที่กรรมการสิทธิ์ ดูว่า สิ่งที่เราต้องต่อสู้เรียกร้อง มีการรวมตัวกันได้ ช่วยกันได้ ทำอย่างไรจึงจะทำได้ เรามอบอำนาจให้รัฐบาลแล้ว หันมาสนใจว่าจะแก้ปัญหาของเราอย่างไร ต้องทำให้เขาเห็นหัวคนจน ว่าอยู่ที่ไหน เราเองไม่ใช่แต่พึ่ง หรือเฝ้ารอ ที่ไหนก็ไม่สำเร็จ แค่รอไม่พบ ต้องไปหาเขาต้องไปทวงถามว่าเขาจะแก้ปัญหาอย่างไร

เรามาอย่างนี้ ผมรู้ว่าไม่ใช่เรื่องสบายๆ และไม่อยากมาอยู่ การแก้ไขปัญหาคือ ต้องทำให้เรากลับไปอยู่ในหมู่บ้านให้ได้ หาอยู่หากินได้เช่นเดิม เดี๋ยวนี้รัฐบาลบอกว่าจะกู้เงินประมาณ 800,000 แสนล้านบาท เราต้องเป็นหนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 30,000 – 80,000 ครอบครัว และปีหน้าจะต้องใช้งบอีก 2.2 ล้านบาท บอกว่าเป็นงบไทยเข้มแข็ง แล้วพวกเราคนจนจะอยู่ตรงไหน ส่วนไหนของรัฐบาล เราต้องทวงถาม”

หลังปราศรัยเสร็จ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ก็ได้เป็นประธานเปิดป้ายร้าน “สหกรณ์คนทาม” เป็นกองทุนที่สมาชิกของสมัชชาคนจนได้ระดมเงินหุ้นกันเพื่อตั้ง สหกรณ์ร้านค้าขายของชำในหมู่บ้านคนจน ซึ่งกิจกรรมสหกรณ์คนทาม เป็นกิจกรรมเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเองที่ชาวบ้านได้คิดค้นกันขึ้นมาระหว่างการชุมนุมครั้งนี้ เพราะตั้งใจจะปักหลักชุมนุมสู้ระยะยาวจนกว่าจะได้รับแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น

ข่าว