Skip to main content
sharethis

จ.สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่ม 541 คน (ข้อมูลจะนำไปรวม ศบค.แถลง 4 ม.ค.) ตลาด​กุ้ง​ (ทะเล​ไทย)​ เลื่อน​เปิดไม่มี​กำหนด - สธ.เสนอกระทรวงต่างประเทศ ชะลอเที่ยวบินอังกฤษ จนกว่าจะมีข้อมูลครบถ้วนกรณีโควิดกลายพันธุ์ ย้ำร้านอาหารต้องซื้อกลับบ้าน ส่วน อสม.ขอให้เข้มเฝ้าระวังคนนอกพื้นที่ พร้อมกำชับ รพ.เพิ่มจำนวนบุคลากรทำงาน

3 ม.ค. 2564 เวลา 14.00 น. เพจเฟสบุ๊คสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานว่า จ.สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่ม 541 คน เป็นคนไทย 86 คน แรงงานข้ามชาติ 455 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสม เพิ่มเป็น 2,401 คน หายป่วยแล้ว 131 คน (ข้อมูลจะนำไปรวม ศบค.แถลง 4 ม.ค.)

โพสต์โดย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2021

ตลาด​กุ้ง​ (ทะเล​ไทย)​ จ.สมุทรสาคร เลื่อน​เปิดไม่มี​กำหนด

3 ม.ค. 2564 ชมรมผู้ค้ากุ้งสมุทรสาคร ออกประกาศเลื่อนการเปิดทำการซื้อ-ขาย ที่ตลาดกุ้ง (ทะเลไทย) ใจความว่า สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในจังหวัดสมุทรสาคร และทางจังหวัดได้มีมติในที่ประชุมให้เลื่อนการเปิดซื้อ-ขายในตลาดทะเลไทยออกไป ดังนั้นตลาดกุ้ง (ทะเลไทย) จึงจำเป็นต้องเลื่อนการเปิดทำการซื้อ-ขาย ที่ตลาดกุ้ง (ทะเลไทย) จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยทางชมรมฯ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

นอกจากนี้ จังหวัดสมุทรสาคร ขอความร่วมมือสถานประกอบการกิจการทุกแห่งให้เตรียมพื้นที่เพื่อจัดตั้งศูนย์ห่วงใยแรงงานสาคร รองรับแรงงานที่อาจติดเชื้อ COVID-19 โดยเตรียมพื้นที่อย่างน้อย ร้อยละ 20 ของจำนวนแรงงานในสถานประกอบการ

สธ.เสนอกระทรวงต่างประเทศ ชะลอเที่ยวบินอังกฤษ จนกว่าจะมีข้อมูลครบถ้วนกรณีโควิดกลายพันธุ์

3 ม.ค. 2564 นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีการพบโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษในประเทศไทย ว่า สำหรับประเด็นเชื้อกลางพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษ จากการเปิดเผยของนพ.ยง ภู่วรวรรณ จุฬาฯ โดยพบว่าผู้โดยสารจากอังกฤษ 4 รายเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2563 โดยทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการกักกันโรคของรัฐ 14 วัน แต่รายนี้อยู่ไม่กี่วันตรวจพบเชื้อจึงนำเข้าสู่การรักษาที่โรงพยาบาลทั้ง 4 ราย เรียกว่าเป็นการตรวจเจอจากระบบกักกันโรคของเรา ซึ่ง นพ.ยง ได้ไปถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว จึงพบว่าเป็นสายพันธุ์กลายพันธุ์ของอังกฤษจริง ทั้ง 4 คน ซึ่เงป็นพ่อแม่ลูก และไม่ได้มีการแพร่กระจาย

“จากการเปิดเผยของนพ.ยง จะเห็นว่าตอนท้ายท่านให้ข้อมูลว่า เชื่อมั่นว่าระบบกักกันโรคของเรา 14 วัน จะทำให้เชื้อไม่เล็ดลอดออกไป และประการสอง สายพันธุ์อังกฤษความสามารถในการแพร่เชื้อดูเหมือนจะเร็วขึ้น ซึ่งก็จะคล้ายกับตอนแพร่ระบาดสายพันธุ์จีใหม่ๆ ก็คล้ายกัน แต่ความรวดเร็วก็ขึ้นกับหลายปัจจัย แต่วิธีการป้องกัน ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ ก็ยังใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงของโรค สายพันธุ์อังกฤษไม่ได้รุนแรงมากขึ้น ไม่ได้ทำให้เสียชีวิตมากกว่าปกติ และไม่มีผลต่อประสิทธิภาพวัคซีนที่กำลังผลิตอยู่ รวมทั้งระยะฟักตัวของโรคยังเท่าเดิม” นพ.โอภาส กล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านยังให้ความเห็นว่า ระบบกักกันโรคของไทย 14 วันยังเป็นมาตรฐานที่ไม่ทำให้โรคเล็ดลอดออกไปไม่ว่าสายพันธุ์ใด ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ อย่างไรก็ตาม ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจะมีการทบทวนข้อมูลทั้งหมด เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชน โดยจะมีมาตรการแนะนำไปยังกระทรวงต่างประเทศให้ชะลอเที่ยวบินจากประเทศต้นทาง คือ อังกฤษไว้ก่อนจนกว่าจะมีข้อมูลต่างๆ ครบถ้วน

เมื่อถามว่า ผู้โดยสารสายการบินเดียวกันพบติดเชื้อแล้วหรือยัง นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับไฟล์บิน 21 ธ.ค.2563 ยังไม่ครบ 14 วัน แต่ทุกคนที่เข้ามาไม่มีรายใดตรวจพบคนติดเชื้อ ขอให้สบายใจ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารกลุ่มนี้จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และจะนำเรียนเป็นระยะต่อไป

ย้ำร้านอาหารต้องซื้อกลับบ้าน ส่วน อสม.ขอให้เข้มเฝ้าระวังคนนอกพื้นที่ พร้อมกำชับ รพ.เพิ่มจำนวนบุคลากรทำงาน

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ที่น่ากังวลตอนนี้ คือ แรงงานต่างด้าวรายวันมีการเคลื่อนย้าย จึงต้องขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน รวมถึงเจ้าของโรงงานด้วย ไม่ว่าถูกกฎหมายหรือไม่ถูกก็ตาม ต้องช่วยกัน ส่วนระยอง ชลบุรี กลุ่มภาคตะวันออกที่สัมพันธ์กับบ่อนการพนัน รวมถึงสถานบันเทิง ร้านอาหารที่เมื่อกินอาหารจะถอดหน้ากากอนามัย ย่อมเสี่ยงหมด ดังนั้น ศบค.สธ.จึงเสนอไปยัง ศบค.รัฐบาลว่า ขอให้ร้านอาหารไม่จำหน่ายให้รับประทานที่ร้าน แต่ให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านแทน เราได้เสนอไปแล้ว ขณะที่โรงเรียนในพื้นที่สีแดงก็ต้องปิดเช่นกัน ล่าสุดเมื่อเช้านี้ ปลัดสธ.สั่งการไปยังสสจ.ทั่วประเทศ ให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เพิ่มจำนวนบคุลากรด้านการเฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมโรค และจุดเสี่ยงสุดคือ ร้านอาหาร ขอไม่ให้รับประทานอาหารที่ร้าน ทั้งนี้ ในส่วนของโรงพยาบาล จัดให้มีคลินิกโรคหวัด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมบุคลากร ทรัพยากรให้เพียงพอ 2 เดือน เป็นต้น

“ส่วนอสม. ให้เฝ้าระวังตรวจตราคัดกรอง ผู้เดินทางจากต่างพื้นที่เข้าชุมชน เฝ้าระวังกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัว อย่าให้คนนอกพื้นที่มาพบ การรับประทานอาหารเห็นมาหลายเหตุการณ์แล้ว หากอยู่ในที่ทำงานให้ทานอาหารคนเดียว หรือเฉพาะในครอบครัว หากเป็นไปได้ขอให้อยู่บ้าน และที่ทำงาน กิจกรรมอื่นๆที่สาธารณะให้หลีกเลี่ยง การทำงานขอให้เปลี่ยนรูปแบบทำงานเป็น Work from home ขอย้ำว่า สถานที่เสี่ยงปิดและควบคุม โดยเฉพาะร้านอาหารเปิดเฉพาะให้ซื้อกลับบ้าน” นพ.โอภาส กล่าว

ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป และปฏิบัติหน้าที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีความก้าวหน้าการสอบสวนโรคสถานบันเทิงร้านอาหารย่านปิ่นเกล้า กทม. ว่า ตั้งแต่ตรวจพบเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่พบตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ขณะเดียวกันก็มีการแพร่เชื้อต่อไปยังพื้นที่ใกล้เคียง คือ จังหวัดรอบๆปริมณฑล สำหรับกรณีร้านอาหาร สถาบันเทิงล่าสุดติดเชื้อเพิ่มเป็น 55 ราย ทั้งในกลุ่มพนักงาน ลูกค้า นักร้องมีหมด โดยพื้นที่ดังกล่าวจะอยู่บริเวณกรุงธนเหนือ เขตบางพลัด ซึ่งเป็นเขตที่ผู้ว่าฯ กทม.ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ร่วมกับเขตบางขุนเทียน ทางตะวันตกเฉียงใต้ติดกับจ.สมุทรสาคร และเขตหนองแขม เป็น 3 เขตที่พบผู้ป่วยสูงสุดในพื้นที่

อีกกรณีหนึ่ง คือ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี มีการระบาดที่ตลาดบางใหญ่ พบผู้ติดเชื้อ 24 คน มีทั้งแรงงานต่างด้าวพม่ามากที่สุด รองลงมากัมพูชา ลาว ยังมีแรงงานเวียดนามด้วย จึงเป็นที่น่าห่วงว่าในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในสถานประกอบการอื่นๆ ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน จึงต้องขอให้ผู้ประกอบการ นายจ้างช่วยเฝ้าระวัง สังเกตอาการ ซึ่งอาการจะไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ คล้ายไข้หวัด หากพบขอให้แยกออกมา และแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อทำการวินิจฉัย

อีกส่วนหนึ่งเป็นการระบาดในพื้นที่จ.ระยอง เริ่มจากมีผู้เข้าไปยังสถานที่ลักลอบเล่นการพนัน จนพบการติดเชื้อเพิ่มเรื่อยๆ โดยการเชื่อมโยงผู้ป่วยโควิดยังพบว่า ลูกที่เป็นนักเรียนติดเชื้อจากผู้ปกครองด้วย อย่างน้อยมี 7 โรงเรียน เหตุจากพ่อแม่ที่ไปสถานที่ลักลอบเล่นการพนัน เป็นที่น่าสังเกตว่า การติดเชื้อแบบนี้ยังติดข้ามจังหวัดได้ กรณีนักศึกษาหญิง 1 ราย ไปเยี่ยมมารดาที่จ.ระยอง และรับเชื้อจากมารดา เมื่อกลับไปจ.กาญจนบุรีจึงพบเชื้อ ซึ่งมารดามีประวัติไปสถานที่ลักลอบเล่นการพนัน นอกจากนี้ ยังพบที่ตลาดแม่แดง ช่วงเวลาระหว่างวันที่ 19 ธ.ค.63-2 ม.ค. 2564 โดยพบผู้ติดเชื้อชายไทยขายไก่สด 1 ราย พบผู้ติดเชื้อชายชาวพม่าขายปลาดุก กรณีนี้เชื่อมโยงกับสถานที่ลักลอบเล่นการพนันด้วย

“ล่าสุดพื้นที่ระยอง ประกาศปิดตลาดเทศบาล 4 หรือตลาดแม่แดง ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.-5 ม.ค. 2564 เพื่อทำความสะอาดและป้องกันการแพร่เชื้อ หากใครมีความเสี่ยงไปตลาดแห่งนี้ให้สังเกตอาการตัวเอง ว่า มีไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้รีบไปตรวจเชื้อและไปด้วยรถส่วนตัว สวมหน้ากากอนามัย หรือโทรแจ้งไปทาง 1669 เพื่อรับไปรพ.” นพ.โสภณ กล่าว

นอกจากนี้ยังพบพนักงานติดเชื้อ 2 ราย โดยรายแรกขับรถตู้สายระยอง-บางนา อีกรายขับรถประจำทางสายระยอง - เชียงใหม่ ซึ่งทั้ง 2 รายอยู่ในจุดที่เกี่ยวข้องกับคนลักลอบเล่นการพนัน อันนี้ทางกระทรวงคมนาคมจะมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้น และขอให้สแกนไทยชนะก่อนขึ้นรถทุกครั้ง และหากกรณีอยู่บนรถขอให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอด รวมทั้งขอให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารด้วย ทั้งนี้ กรมอนามัยได้สำรวจอัตราการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งพบว่าอัตราการสวมหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้น 93.3% แต่ขอให้สวมหน้ากากอนามัยให้มากกว่า 95% และหากอยู่ที่สาธารณะขอให้ 100%

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ จ.นครปฐม ซึ่งอยู่ติดกับจ.สมุทรสาคร ได้มีการเฝ้าระวังและควบคุมโรคดีมาก ได้มีการตรวจเชิงรุกจนพบผู้ติดเชื้อรายแรก และติดตามผู้สัมผัสเชื้อ สรุปคือ เราพบการระบาดครั้งใหม่ช่วงกลางเดือน ธ.ค. จากแรงงานต่างด้าว มายังคนไทย ทำให้ควบคุมลำบาก เพราะส่วนใหญ่ติดเชื้อไม่มีอาการ แรงงานต่างด้าวมีกระจายทั่วไป แต่ต่อมามีการระบาดในคนไทยจากบ่อนพนัน และสถานบันเทิง ส่วนนี้อยู่ระหว่างควบคุมโรค แม้บ่อนพนัน และสถานบันเทิงจะปิดไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ติดเชื้ออยู่ และกลุ่มเสี่ยง จึงขอให้ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาก็พบการติดเชื้อในคนไทย โดยเฉพาะลูกหลานในบ้าน ในเด็กนักเรียน

“จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แม้จะควบคุมแรงงานต่างด้าวได้จำนวนหนึ่ง ดังนั้น ช่วงหลังปีใหม่ก็อาจพบเชื้ออยู่ ซึ่งสถานบันเทิงก็ยังเป็นจุดที่มีความเสี่ยงอยู่ โดยวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) จะมีมาตรการเข้มงวด เพื่อควบคุมป้องกันสถานที่มีความเสี่ยงเหล่านี้” นพ.โสภณ กล่าว

ที่มาเรียบเรียงจาก Thai PBS | Hfocus [1] [2] | สำนักข่าวไทย


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net