Skip to main content
sharethis

สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่าออกแถลงการณ์ กรณีกองทัพพม่าจับกุมผู้ต่อต้านรัฐประหาร 110 คนทั่วประเทศและตั้งข้อหาใหม่ทันที แม้ทั้งหมดเพิ่งได้รับการนิรโทษกรรม และปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา 

สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า หรือ AAPP ออกแถลงการณ์ต่อกรณีการจับกุมนักโทษการเมืองหลังเพิ่งถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 64 จากคำสั่งนิรโทษกรรมของกองทัพพม่า (ภาพจาก AAPP)

หลังจากเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 64 ที่กองทัพพม่าประกาศนิรโทษกรรม และการปล่อยตัวผู้ต่อต้านรัฐประหารออกจากเรือนจำทั่วประเทศราว 5,600 คน อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Myanmar Now อ้างแถลงการณ์ของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง หรือ AAPP เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 64 เผยว่า มีประชาชนอย่างต่ำ 110 คนถูกจับกุมทันควัน แม้นเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันจันทร์ที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กองทัพพม่าปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังกว่า 5,600 คน

ในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ของ AAPP ระบุทางสมาคมฯ ได้รับการยืนยันว่ามีผู้ถูกกล่าวหาราว 110 คน ถูกจับกุมอีกครั้งแทบจะทันทีทันใด หลังได้รับการปล่อยตัว ขณะที่นักโทษการเมืองบางรายถูกจับกุมทันทีที่เดินทางถึงบ้าน บางรายได้รับการบอกเล่าว่า พวกเขาอยู่ในรายชื่อได้รับการปล่อยตัว แต่ถูกพาตัวกลับเข้าเรือนจำขณะรอปล่อยตัวที่หน้าประตูทางเข้า-ออก พร้อมกับถูกตั้งข้อหาอื่นเพิ่มเติม 

กลุ่ม AAPP ระบุเพิ่มว่า ตอนนี้ผู้ถูกปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ต้องหลบซ่อนตัวเพราะว่ากลัวถูกทางการพม่าจับกุมซ้ำอีกครั้ง 

อย่างไรก็ตาม Myanmar Now ไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้ถูกจับกุมซ้ำของทาง AAPP ได้ แต่เมื่อวันอังคารที่ 19 ต.ค. 64 Myanmar Now ได้รับรายงานว่า ที่อำเภอเมกธิลา ภูมิภาคมัณฑะเลย์ มีสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือพรรค NLD จำนวน 10 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 รายจากพรรค NLD ถูกจับกุมซ้ำ หลังจากมีชื่อได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ   

ผู้สื่อข่าว Myanmar Now รายงานด้วยว่า สมาชิก NLD 4 ใน 10 คน ภายหลังถูกปล่อยตัวจากสถานีตำรวจเมกธิลา หมายเลข 1 ขณะที่อีก 6 คนที่เหลือ ถูกดำเนินคดีข้อหาใหม่ ขณะที่ผู้ต้องหาหญิง ซึ่งเป็น 1 ใน 11 สมาชิกพรรค NLD ที่ถูกจับกุมซ้ำ ยังไม่ทราบชะตากรรมว่าตอนนี้เธอถูกพาตัวไปที่ใด 

แหล่งข้อมูลใกล้ชิดทางสำนักข่าว ระบุต่อว่า ผู้ต้องหา 2 ราย ได้แก่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระดับภูมิภาคมัณฑะเลย์ ลวินหม่องหม่อง และเต็ดหม่องหม่อง เลขาธิการพรรค สาขาอำเภอเมกธิลา ขณะนี้อยู่ในระหว่างถูกควบคุมตัว โดยทั้ง 2 คนถูกตั้งข้อหาละเมิดมาตรา 17 วงเล็บ 1 ว่าด้วยองค์กรนอกกฎหมาย ซึ่งเป็นกฎหมายมรดกจากยุคอาณานิคมอังกฤษ ขณะที่อีก 3 คน ถูกตั้งข้อหา มาตรา 50j หรือกฎหมายต่อต้านผู้ก่อการร้าย จากการก่อการร้ายทางการเงิน   

อีก 6 คน ถูกดำเนินคดีข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 436 ว่าด้วยการสร้างความเสียหายด้วยไฟหรือวัตถุระเบิดโดยมีเจตนาทำลาย จากกรณีจุดไฟเผาสำนักงานการศึกษาระดับอำเภอ     

เมื่อเดือน พ.ค. 64 เผด็จการทหารพม่า ประกาศให้คณะกรรมการสภาผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพ หรือ CRPH รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือ NUG และกองกำลังพิทักษ์พลเรือน หรือ PDF เป็นกลุ่มก่อการร้าย 

การประกาศยังหมายรวมถึงใครก็ตามที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรเหล่านี้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ‘องค์กรนอกกฎหมาย’ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี   

สำนักข่าว Myanmar Now อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่า วินทุดธ่อดา (Win Htut Thawdar) นักดนตรีพื้นเพจากนครย่างกุ้ง หรือชื่อบนเวทีคือ ‘อิโต’ (အီတိုး) ได้รับการยืนยันว่าถูกจับกุมซ้ำ หลังเขาได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำอินเส่งเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 64 แต่ถูกควบคุมในช่วงบ่าย 19 ต.ค. 64 แต่เดิมเขาถูกจับกุมเมื่อ ก.ย. 64 โดยถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่ครอบครองวัตถุระเบิดอย่างผิดกฎหมาย 

รายงานจากทนายความที่ให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมือง ระบุว่า ที่อำเภอมยินจ๊ะ ภูมิภาคมัณฑะเลย์ ในจำนวนนักโทษการเมืองที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ 58 ราย มีผู้ที่ถูกจับกุมซ้ำ 22 ราย และมีรายงานเพิ่มเติมระบุถึงนักโทษการเมืองคนอื่นๆ ที่ถูกจับกุมซ้ำอีกครั้งทั่วประเทศ ดังนี้ ผู้ถูกกล่าวหาถูกจับกุมซ้ำ 8 จาก 26 คนที่ได้รับการปล่อยตัวที่เรือนจำมะเกว่ 3 จาก 33 คนที่เรือนจำเปาง์แต๊ะในภูมิภาคพะโค และ 2 จาก 20 คนที่เรือนจำลอยก่อ รัฐกะเรนนี 

ในแถลงการณ์ สมาคม AAPP ประณามการจับกุมนักโทษการเมืองซ้ำอีกครั้งของกองทัพพม่าว่า เป็น ‘การทรมานทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ’ ไม่ใช่แค่เฉพาะนักโทษการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงญาติและมิตรสหายของผู้ต้องหาทางการเมืองอีกด้วย 

 

แปลและเรียบเรียงจาก

110 prisoners rearrested after being freed as part of amnesty: rights group

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net