Skip to main content
sharethis

สื่อญี่ปุ่นเผยรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังประสานงานกับรัฐบาลไทย เพื่อลงนามความตกลงว่าด้วยการส่งมอบยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นความตกลงที่ช่วยให้สามารถส่งออกยุทโธปกรณ์ป้องกันประเทศจากญี่ปุ่นได้


แผนภาพแสดงสถานะการลงนามความตกลงว่าด้วยการส่งมอบยุทโธปกรณ์ฯ ระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย: ลงนามแล้ว (สี่เหลี่ยมสีแดง) ไทย: อยู่ระหว่างการเจรจา (ในขณะนั้น)

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2565 สำนักข่าว Sankei รายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นกำลังประสานงานกับรัฐบาลไทยเพื่อลงนามความตกลงว่าด้วยการส่งมอบยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (Agreement on the Transfer of Defense Equipment and Technology) ซึ่งเป็นความตกลงที่ช่วยให้สามารถส่งออกยุทโธปกรณ์ป้องกันประเทศจากญี่ปุ่นได้

โดยนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะมีกำหนดการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรปตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นและไทยจะใช้โอกาสนี้ในการลงนามความตกลงดังกล่าว

ผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาลหลายคนเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีเป้าหมายจะกระชับเครือข่ายความร่วมมือด้านความมั่นคง (Security Cooperation Network) เนื่องมาจากความกังวลที่จีนขยายอิทธิพลทั้งทางเศรษฐกิจและการทหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รัฐบาลไทยให้ความสนใจยุทโธปกรณ์ของญี่ปุ่น เช่น เครื่องบินตรวจการที่กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นใช้ และเครื่องบินกู้ภัยทางทะเล ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประชุมหารือกันถึงความเป็นไปได้ในการให้ความร่วมมือด้านยุทโธปกรณ์ต่อไปหลังจากลงนามความตกลงนี้เรียบร้อยแล้ว

รัฐบาลญี่ปุ่นและไทยตกลงที่จะให้มีการดำเนินการเพื่อลงนามความตกลงดังกล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560  บริษัทญี่ปุ่นเคยแพ้การประมูลเสนอราคาเรดาร์ป้องกันภัยทางอากาศให้แก่กองทัพอากาศไทยในปี 2561 แต่ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2562 ได้มีการลงนามบันทึกความตกลงว่าความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางทหาร (Memorandum on Defense Cooperation and Exchange) ระหว่างนายโคโนะ ทาโร่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (ในขณะนั้น) และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 5 ประเทศพันธมิตรสำคัญของอเมริกาในทวีปเอเชีย  กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นเข้าร่วมการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ที่ไทยและสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพร่วมมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งญี่ปุ่นและไทยยังมีการประสานความร่วมมือเกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติมาโดยตลอด รัฐบาลญี่ปุ่นลงนามความตกลงการส่งมอบยุทโธปกรณ์ฯ แล้วกับฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ในขณะที่ยังไม่ได้มีการลงนามกับประเทศไทย

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ย่ำแย่ลงนับตั้งแต่การรัฐประหาร 2557 ไทยไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตยที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว  โดยในระยะเวลาที่ผ่านมาไทยนำเข้าอาวุธจากจีนมากกว่าจากสหรัฐฯ อีกทั้งในปี 2560 กองทัพเรือไทยยังเซ็นสัญญาสั่งซื้อเรือดำน้ำจากจีนด้วย ซึ่งโครงการเรือดำน้ำดังกล่าวกำลังประสบกับทางตันเนื่องด้วยบริษัทเยอรมันปฏิเสธที่จะขายเครื่องยนต์ให้  อย่างไรก็ดี ผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า การลงนามความตกลงว่าด้วยการส่งมอบยุทโธปกรณ์กับไทยครั้งนี้ “มีเป้าประสงค์ที่จะดึงไทยให้กลับเข้ามาอยู่ในฝั่งสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น”

นายเซจิ คิฮาระ รองหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้เปิดเผยในการประชุมคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ถึงกำหนดการเยือนอินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย อิตาลี และอังกฤษของนายกรัฐมนตรีระหว่างวันที่ 29 เม.ย. – 6 พ.ค. 


ที่มา
〈独自〉タイと防衛装備協定締結へ 中国念頭に政府調整 (Sankei, 27 April 2022)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net