สำนักข่าว Yomiuri รายงานว่าเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 นายก 'คิชิดะ' ของญี่ปุ่นประชุมหารือกับ 'ประยุทธ์' ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ ก่อนเห็นชอบให้ลงนาม 'ความตกลงว่าด้วยการส่งมอบยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ' เปิดโอกาสให้สามารถส่งออกยุทโธปกรณ์ทางการทหารจากญี่ปุ่นได้
สำนักข่าว Yomiuri รายงานว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 พ.ค. 2565 นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นประชุมหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร โดยเห็นชอบให้ลงนาม “ความตกลงว่าด้วยการส่งมอบยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ” เปิดโอกาสให้สามารถส่งออกยุทโธปกรณ์ทางการทหารจากญี่ปุ่นได้ และนายกรัฐมนตรีทั้งสองได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงที่จัดขึ้นด้วย
นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้กล่าวถ้อยแถลงในการแถลงข่าวร่วมกันหลังการประชุมว่า “ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการขยายความร่วมมือทางด้านการรักษาความมั่นคง” ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ได้แถลงแสดงความคาดหวังว่า “จะมีส่วนช่วยเสริมความร่วมมือและการลงทุนจากทางญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย”
ความตกลงดังกล่าวมีเป้าประสงค์ในการกระชับความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นกับไทยทางด้านการรักษาความมั่นคงให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สืบเนื่องจากความกังวลต่อจีนที่มีท่าทีแสดงสัญญะลัทธิครองความเป็นเจ้า (Hegemonism) ที่แข็งกร้าวขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นและไทยจะหารือถึงการส่งออกยุทโธปกรณ์อย่างเป็นรูปธรรมในลำดับต่อไป ทั้งนี้ญี่ปุ่นลงนามความตกลงฉบับเดียวกันกับประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย มาแล้วรวม 11 ประเทศ
ประเทศไทยมีกำหนดจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC ในปีนี้ ซึ่งระหว่างการหารือของนายกรัฐมนตรีทั้งสองได้มีการพูดถึงสถานการณ์การรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย แสดงจุดยืนไม่ยอมรับการใช้กำลังหรือการกระทำเพียงฝ่ายเดียวใดๆ ที่คุกคามอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนไม่ว่าจะเป็นในภูมิภาคไหนก็ตาม รวมทั้งต่อต้านการใช้หรือการข่มขู่ด้วยอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง ตลอดจนเสนอให้มีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการรับมือกับปัญหาทะเลจีนใต้ซึ่งมาจากการที่จีนเพิ่มความแข็งกร้าวในการเดินทะเล
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)