Skip to main content
sharethis

'เพื่อไทย' มองการเลือกตั้งครั้งหน้าแข่งกันที่นโยบาย หาเสียงว่าตอบโจทย์ประเทศหรือไม่และความเชื่อถือของประชาชนว่าพรรคการเมืองใดพูดแล้วทำได้จริง เล็งเดินสายพบประชาชนทยอยปล่อยนโยบายสำคัญก่อนเลือกตั้ง รองเลขาฯ กก.ยุทธศาสตร์ฯ พรรค แนะ ส.ว.แสดงสปิริตไม่โหวตเลือกนายกฯ

13 มิ.ย.2565 เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า นพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น ปัจจัยสำคัญที่ประชาชนจะตัดสินใจเลือกผู้สมัครและพรรคใด มีอยู่ 2 เรื่องสำคัญคือนโยบายของพรรคที่ตอบโจทย์ประเทศและของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเรื่องที่สองคือความเชื่อใจว่าพรรคการเมืองนั้นทำได้อย่างที่พูด มีผลงาน ซึ่งพรรคเพื่อไทยตระหนักในข้อนี้ และให้ความสำคัญกับนโยบายที่จะตอบโจทย์ประเทศและทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้นให้ได้ ส่วนตัวเห็นว่า
1. ปัญหาสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไขเร่งด่วนคือ 1. เรื่องปากท้อง 2. ความยากจน 3. ความเหลื่อมล้ำ และ 4. ความสามารถในการแข่งขันของประเทศซึ่งถดถอยลงไปมาก ถ้าไม่เร่งแก้ไข เราจะสู้เพื่อนบ้านไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุนมนุษย์ เสน่ห์ดึงดูดการลงทุน เป็นต้น
2. กรอบนโยบายพรรคเพื่อไทยที่จะทยอยนำเสนอนั้นจึงมุ่ง สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส และสร้างความสามารถในการแข่งขันให้คนไทยและประเทศไทย โดยนโยบายต่างๆจะชัดเจนทั้งเป้าหมาย และทำได้จริง พรรคเพื่อไทยเน้นพูดแล้วต้องทำได้
3. การทำนโยบายพรรคเพื่อไทยไม่ได้มองแค่ชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่มองอนาคตของประเทศ ประเทศต้องเดินหน้าเต็มศักยภาพ และใช้จุดแข็งของประเทศ ยกตัวอย่างเรื่องเดียว เช่น จากสถานการณ์รัสเซียและยูเครนทำให้ราคาอาหารและพลังงานสูงขึ้น โลกเผชิญความไม่แน่นอนทางอาหาร เราจึงให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหารของโลก (food security) จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจอาหารโลก ด้วยการพลิกโฉมภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยี ระบบนำ้ ดิน ทุน ปรับหนี้เกษตรกร และกระบวนการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งระบบ เป็นต้น ซึ่งจะสร้างรายได้ให้ภาคการเกษตรอย่างก้าวกระโดด

"ประเทศไทยต้องเดินหน้า คนไทยต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น พรรคเพื่อไทยจะทุ่มเททำงานหนักเพื่อนำเสนอนโยบายเพื่อให้ประชาชนเลือก เชื่อว่าการเมืองที่ดี่ที่สุดกำลังจะมาถึง" รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ระบุ

อนุสรณ์ แนะ ส.ว.แสดงสปิริตไม่โหวตเลือกนายกฯ

ขณะที่ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ออกมายกย่องชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. คือความหวังของยุคสมัย พอกันทีพวกโกงกิน ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ปฏิวัติรัฐประหาร ว่า กาลเวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน แม้วันชัยอาจคิดได้ช้า แต่ก็ยังดีกว่าคิดไม่ได้ วันชัยวันนี้ คือคนเดียวกับวันชัยที่มีคลิปไปเล่าในงานเลี้ยงด้วยความภูมิใจว่าเป็นผู้เสนอคำถามพ่วงให้ส.ว.โหวตนายกฯได้ และวันชัยก็เป็น 1 ใน 249 ส.ว.โหวตเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตผู้นำการรัฐประหาร ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ที่วันชัยบอกว่าพอกันที เป็นนายกฯ ตนไม่ได้โหนชัชชาติ แต่ข้อเท็จจริงคือ ชัชชาติคือความภูมิใจของพรรคเพื่อไทย และเห็นคุณค่าในตัวชัชชาติมานานแล้ว จึงถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับดีไซน์มาเพื่อพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีคำถามพ่วงส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ป่านนี้ชัชชาติ อาจได้เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะปลดปล่อยพันธการที่ผูกมัดและฉุดรั้งประชาชน ปล่อยให้ประชาชนได้เลือกนายกรัฐมนตรีผ่านตัวแทนที่ประชาชนเลือกมา การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า ควรเป็นหน้าที่เฉพาะ 500 ส.ส.ที่ยึดโยงและมีที่มาจากประชาชนเท่านั้น พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้เสนอแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ปิดสวิตช์ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีมาหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ถ้าวันชัยเชื่อในประชาชน ขอให้แสดงสปิริตประกาศสัตยาบัน หากแก้ไขรัฐธรรมนูญตัดอำนาจส.ว.โหวตเลือกนายกฯไม่ได้ ส.ว.พร้อมสละอำนาจโหวตนายกฯเพื่อให้ได้นายกฯตามเจตนารมย์ของประชาชนอย่างแท้จริง
 
“เวลาที่เหลืออยู่ ถ้าส.ว.ต้องการทำความหวังของยุคสมัยให้เป็นจริง พอกันทีกับพวกใช้อำนาจบาตรใหญ่ ปฏิวัติรัฐประหาร ต้องเริ่มต้นที่การแสดงสปิริตไม่โหวตเลือกนายกฯ ปล่อยให้เป็นหน้าที่เฉพาะ 500 ส.ส.ผู้แทนของประชาชนโหวตเท่านั้น จะนำพาประเทศเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่เป็นสากลมากขึ้น” อนุสรณ์ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net