Skip to main content
sharethis

กองทัพพม่าส่งเครื่องบินรบ MiG-29 จำนวน 1 ลำ บินรุกล้ำเข้ามายังน่านฟ้าไทย บริเวณชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก เพื่ออ้อมไปยิงจรวดใส่ฝ่ายต่อต้านในฝั่งพม่า ประมาณ 4 รอบ ส่งผลให้โรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียนฉุกเฉิน ด้านกองทัพอากาศไทยส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ บินลาดตระเวน

เครื่องบินรบพม่าขณะรุกล้ำน่านฟ้าไทย ภาพจาก บีบีซีไทย

 

30 มิ.ย. 2565 ช่วงเที่ยงวันนี้ บริเวณชายแดนไทย – พม่า ที่ อ.พบพระ จ.ตาก เกิดเหตุการณ์กองทัพพม่าส่งเครื่องบินรบ MiG-29 จำนวน 1 ลำ บินรุกล้ำเข้ามายังน่านฟ้าไทยราว 5 กิโลเมตร บริเวณบ้านวาเล่ย์ใต้ และบ้านวาเล่ย์เหนือ เพื่ออ้อมไปยิงจรวดใส่ฝ่ายที่ต่อต้านในฝั่งพม่า ประมาณ 4 รอบ ซึ่งการบินอยู่ในระยะที่มองเห็นได้ ทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นเกิดความแตกตื่นต้องเข้าไปหลบในหลุมหลบภัย

ทางโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ใต้ต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนทันที และให้ผู้ปกครองไปรับนักเรียนกลับบ้าน เนื่องจากเครื่องบินรบของพม่าบินผ่านบริเวณหลังคาอาคารเรียนโรงเรียน ขณะที่โรงเรียนบ้านวาเล่ย์เหนือได้กดออดให้สัญญาณนักเรียนหนีเข้าไปยังอาคารหลุมหลบภัยของโรงเรียน ซึ่งมีชาวบ้านใกล้เคียงเข้าไปหลบด้วย

ภาพจาก บีบีซีไทย

ผู้สื่อข่าวพิเศษของสำนักข่าวบีบีซีไทย รายงานว่า สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงกองพลน้อยที่ 6 กองกำลังเคเอ็นดีโอ และกองกำลังพีดีเอฟของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government: NUG) ใน อ.สุวาลี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยงของพม่า ยังคงมีการสู้รบอย่างหนักบริเวณตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ทำให้กองทัพพม่ามีการส่งเครื่องบินรบรุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าไทยประมาณ 15 นาที ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยในพื้นที่ได้แต่ยืนมอง โดยไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากขณะนั้นยังไม่มีเครื่องบินของไทยออกไปป้องกันน่านฟ้า นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่าก่อนที่ทหารพม่าจะปฏิบัติการบินทิ้งระเบิดทางอากาศ มีเครื่องบินตรวจการณ์ของทหารพม่าบินวนหลายรอบ รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ไปส่งเสบียงอาหารที่ฐานบ้านวาเล่ย์ให้แก่ทหารพม่า จากนั้นเครื่องบินรบ MiG-29 จึงได้บินวนในฝั่งพม่าและยิงจรวดใส่ฝั่งที่ต่อต้าน

 

ต่อมาพลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า วันที่ 30 มิ.ย. 2565 เวลา 11.16 น. หน่วยงานของกองทัพอากาศได้รายงานการตรวจพบอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บินล้ำแดนบริเวณ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อโจมตีกองกำลังชนกลุ่มน้อยบริเวณแนวชายแดน และบินล้ำแดนเข้ามายังพื้นที่ประเทศไทย ก่อนเป้าหมายจะจางหายไปจากระบบเรดาร์เฝ้าตรวจการณ์ของกองทัพอากาศในเวลาต่อมา

กองทัพอากาศจึงได้มีคำสั่งให้เครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 หรือ F-16 จำนวน 2 ลำ ขึ้นบินลาดตระเวนรบทางอากาศในพื้นที่ อ.พบพระ ทันที และได้สั่งการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ ประจำย่างกุ้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพม่า เพื่อแจ้งเตือนและหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก โดยโฆษกกองทัพอากาศ ระบุว่า กองทัพอากาศจะติดตามความเคลื่อนไหวสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงพื้นที่ตามเขตแนวชายแดน ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net