'ครูจุ๊ย-กุลธิดา' วอล์กเอาต์ เวที มช. หลังถูกเซ็นเซอร์เมื่อยกเคส 'คดีการเมือง'

'ครูจุ๊ย-กุลธิดา' งงถูกอาจารย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ห้ามพูดประเด็นการเมืองหลังยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศ อ้างกลัวกระทบภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย - เจ้าตัววอล์กเอาต์ ไม่ร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปต่อ พร้อมย้ำ จะสร้างพลเมืองโลกและสังคมประชาธิปไตยได้ ต้องไม่ปิดกั้นความคิดต่าง

3 ก.ค. 2565 ทีมสื่อคณะก้าวหน้า แจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่ากุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ร่วมเวทีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บรรยายประเด็นการเป็น "พลเมืองโลก" เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมาก่อนที่จะถูกผู้จัดห้ามพูดในประเด็นการเมือง โดย กุลธิดา ระบุในเฟซบุ๊ก ตอนหนึ่งว่า เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อมาพูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตามคำเชิญของคณะศึกษาศาสตร์ ในงาน KruAtive โดย UNESCO-APECIU รับผิดชอบหัวข้อ Teachers for Ethical GCED (Global Citizenship Education): A view from below มีการแบ่งช่วงในการทำจัดกิจกรรมเป็นการพูดคุยและจัดกิจกรรม Workshop ดีใจมากๆ ที่ได้มีโอกาสมาคุยกับนักศึกษาครูถึงประเด็นสำคัญอย่างการเป็นพลเมืองและการเป็นพลเมืองโลก ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาสังคม และการขับเคลื่อนให้สังคมเดินไปข้างหน้า การมีพลเมืองที่ตื่นรู้ เห็นความสำคัญและมีส่วนร่วมกับสังคมที่ตัวเองอยู่ผ่านการตั้งคำถาม และการแสดงออกในประเด็นต่างๆ ที่ตนสนใจ เหล่านี้คือรากฐานของพลเมืองที่มีต่อสังคมทั้งที่ตนเองอยู่ และสังคมในระดับที่กว้างออกไปอย่างสังคมโลก หลักๆ สิ่งที่จุ๊ยพยายามสื่อสารคือ การเป็นพลเมืองที่ Active คือพื้นฐานของทุกคนในสังคม และไม่ว่าจะเป็นการเมืองในสังคมของเราหรือไกลตัวไปกว่าพรมแดนประเทศนั้นล้วนส่งผลต่อพวกเราทั้งสิ้น

"จุ๊ยนำเสนอกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทยอย่างเช่น ผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญปี 2559 ถึงคำถามพ่วงต่างๆ, รัฐบาลประยุทธ์และ การส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน การผลักดันชาวพม่าที่ชายแดนกลับไปพม่าทั้งที่เป็นพื้นที่ที่มีการใช้การโจมตีทางอากาศ การสร้างเขื่อนในประเทศจีนที่ส่งผลถึงแม่น้ำโขงในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และคดีการเมืองต่างๆ ที่นับได้แล้วว่ามีผู้ที่ต้องคดีจากเช่น จากมาตรา 112 หรือ 116 การใช้พ.ร.บ.ชุมนุม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึงสองพันกว่าคน เมื่อพูดถึงประเด็นคดีทางการเมือง มีอาจารย์ท่านหนึ่งขอให้จุ๊ยหยุดพูดประเด็นนี้เพราะส่งผลไม่ดีต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ UNESCO และจุ๊ยไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึง VDO Clip ที่ตนเองได้บรรยาย ซึ่งผู้จัดงานบันทึกไว้ โดยแจ้งว่าเป็นลิขสิทธิ์ของ UNESCO" กุลธิดา ระบุ

กุลธิดา ระบุอีกว่า ได้สรุปจบการบรรยายของตนเอง และตัดสินใจ walk out จากงานนี้ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อวิธีการจัดการที่มีการเซนเซอร์ความเห็นของวิทยากรในประเด็นที่เป็นสิทธิพื้นฐานของพลเมือง คือการแสดงออกทางความคิด และแสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยซึ่งควรเป็นพื้นที่เปิดกว้างทางวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับคณะที่เป็นกำลังหลักในการผลิตครู เพื่อสร้างพลเมืองให้กับสังคม ทั้งนี้ เข้าใจดีว่าเป็นความเห็นและการกระทำของอาจารย์คนหนึ่งในคณะนี้เท่านั้น หลังจากนี้จะยื่นหนังสือไปยัง UNESCO-APCEIU ถึงการปฏิบัติอันเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่ไม่อาจยอมรับได้ของผู้จัดงานท่านนี้ และเสนอรูปแบบการจัดงานที่เหมาะสมต่อไป

"พื้นที่ปลอดภัยคือพื้นฐานที่สุดสำหรับกระบวนการเรียนรู้ไม่ว่าจะในระดับใดทั้งสิ้น นี่จึงเป็นเหตุให้พื้นที่ในสถาบันการศึกษาต้องเป็นพื้นที่ที่สามารถแลกเปลี่ยนทางวิชาการได้อย่างเต็มที่ ส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองให้สอดคล้องกับคุณค่าประชาธิปไตยสมัยใหม่ เปิดพื้นที่ให้เกิดการถกเถียงแลกเปลี่ยนตั้งคำถาม วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เราจะสร้างพลเมืองและสังคมประชาธิปไตยขึ้นมาได้อย่างไร หากเรายังมีการปิดกั้น เซ็นเซอร์ความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายในสังคมอยู่" กุลธิดา ระบุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท