18 พ.ย.2565 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมของประชาชนที่รวมตัวกันการสลายชุมนุมของตำรวจต่อกลุ่ม ‘ราษฎรหยุดเอเปค 2022’ ที่ต้องการเพียงแค่เดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้นบุกจับกุม มีคนถูกกระสุนยาง แก๊สน้ำตาเป็นจำนวนมาก

พิธา ระบุว่าถือเป็นความอับอายที่รัฐบาลไทยมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการเช่นนี้ทั้งที่การประชุม APEC ควรเป็นเวทีที่เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ไม่ใช่แค่เพื่อพูดคุยตกลงกันในระดับผู้นำประเทศเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชน ภาคประชาสังคมต่างๆ ด้วย

ในอดีต การประชุมระดับนี้ในประเทศอื่นๆ ก็มักจะมีการรวมตัวชุมนุมของประชาชนและภาคประชาสังคมเพื่อส่งเสียงเรียกร้องถึงเหล่าผู้นำประเทศเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลแต่ละประเทศว่าจะมีความเปิดกว้างและรับมือกับสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงบานปลายได้แค่ไหน

แต่ในกรณีของไทยวันนี้ รัฐบาลเลือกที่จะรับมือกับสถานการณ์ด้วยการใช้ความรุนแรงแบบเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุมที่มีจำนวนไม่มากและมีข้อเรียกร้องเพียงแค่ยื่นหนังสือต่อตัวแทนเท่านั้น มีการใช้กำลังที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของการควบคุมฝูงชน ทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงทั้งผู้ชุมนุมและสื่อมวลชน ตั้งแต่ช่วงที่ผู้ชุมนุมเพิ่งเริ่มเดินขบวน ห่างจากสถานที่ประชุมเกือบ 10 กิโลเมตร

"ผมในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลไม่อาจยอมรับการกระทำของรัฐบาลได้ และขณะนี้มีส.ส.พรรคก้าวไกลเข้าร่วมสังเกตการณ์และเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ถูกคุมตัว สุดท้ายรัฐบาลไทยต้องตอบให้ได้ว่าประเทศไทยได้อะไรจากการเป็นเจ้าภาพประชุม APEC และสานฝันของพลเอกประยุทธ์ ที่จะได้ถ่ายรูป ได้ร่วมโต๊ะกับผู้นำนานาชาติแค่เพียงเท่านั้น" พิธา ทิ้งท้าย

ขณะที่ก่อนหน้านั้น แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวิตข้อความ ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ @ingshin ว่า การแสดงความเห็นแบบสันติ ปราศจากอาวุธของประชาชนเช่นนี้ รัฐไม่ควรใช้ความรุนแรงกับประชาชน โดยเฉพาะการใช้กระสุนยางในระยะประชิด

'ธนกร พลังประชารัฐ' ถาม 'แพทองธาร' ไปฟังใครเล่าม็อบมาอย่างสันติ-ปราศจากอาวุธ

ขณะที่ เนชั่นทีวี รายงานว่า ธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ตอบโต้ทวิตดังกล่าวของ แพทองธาร ว่า ส่วนตัวอยากจะเตือน แพทองธาร ว่าหากจะลงเล่นการเมือง การจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรนั้น ต้องตั้งสติและหาข้อมูลที่ถูกต้องให้ครบถ้วนเสียก่อน จะได้ไม่ขายหน้าทีหลัง

ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ  กล่าวต่อว่า แพทองธาร มั่นใจแล้วใช่หรือไม่ ถึงกล้าอ้างว่าเป็นการแสดงความเห็นแบบสันติ ปราศจากอาวุธ และเห็นกับตา หรือว่าส่งใครให้ไปดูกับตามาแล้วใช่หรือไม่ ถึงบอกว่าใช้กระสุนยางในระยะประชิด ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ควรรีบโดดเกาะกระแส ตั้งสติก่อนวิจารณ์ จะได้ไม่เสียราคาแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเคลื่อนขบวน และฝ่าฝืนกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เครื่องเสียงประกาศ มีการเจรจา และแจ้งเตือนกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ไม่ยอมฟัง ก่อนที่จะมีการใช้กำลังทำร้าย และต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมีความจำเป็นต้องใช้กำลังเพื่อป้องกันตนเอง

'รังสิมันต์ โรม' ยื่นศาลขอประกันตัวผู้ชุมนุม

THE STANDARD รายงานด้วยว่า รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าเยี่ยมผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวมาที่ สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า ผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด 25 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยจะยื่นขอประกันตัวผู้ชุมนุมในชั้นศาลวันพรุ่งนี้ เนื่องจากผู้ต้องหามีจำนวนหลายคน 

รังสิมันต์ยังตั้งข้อสังเกตถึงแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่มีการใช้ความรุนแรงกับประชาชน เพื่อต้องการรักษาภาพลักษณ์ของประเทศในช่วงการประชุม APEC ซึ่งส่วนตัวยังทราบข้อมูลอีกว่า ระหว่างเหตุชุลมุนมีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บ จึงกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยระหว่างการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนด้วยเช่นกัน

ส่วนที่บริเวณ สน.ทุ่งสองห้อง กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมารวมตัวเพื่อกดดันให้ตำรวจปล่อยตัวผู้ชุมนุม ขณะที่การรักษาความสงบเรียบร้อยได้มีตำรวจควบคุมฝูงชนประมาณ 1 กองร้อยประจำการอยู่ภายในสถานีตำรวจ โดยปิดรั้วไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในบริเวณสถานีตำรวจ และมีการติดป้ายว่าเป็นพื้นที่ควบคุม

'พรรคเป็นธรรม' ร้องรัฐปล่อยตัวผู้ชุมนุม ชี้ปิดปากประชาชนอย่างต่อเนื่องมันยิ่งทำให้ชื่อเสียงประเทศชาติตกต่ำต่อสายตาชาวโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทีมสื่อพรรคเป็นธรรม รายงานต่อสื่อมวลชนด้วยว่า กัณวีร์ สืบแสง ประธานยุทธศาสตร์ และรองหัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวถึงกรณีตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎร หยุด APEC 2022 ที่ถนนดินสอ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 10 ราย ถูกจับกุม 25 ราย โดยเห็นว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันยังคงไม่สามารถคิดได้ถึงประโยชน์ของการให้ประชาชนแสดงออกทางความคิดและยอมรับฟังความเห็นต่างอย่างประเทศอารยะแห่งประชาธิปไตย แต่กลับใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุม รวมทั้ง ทำร้ายและจับกุมผู้ชุมนุม 25 คนที่ประท้วงและต้านการจัดประชุมเอเปค #ม๊อบ18พฤศจิกายน65 ในวันนี้

กัณวีร์ เห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ รัฐไม่ควรใช้ความรุนแรงขัดขวางการแสดงออกเพื่อเสรีภาพของประชาชน ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง 

“ยิ่งไม่ใช้วิถีแห่งประชาธิปไตยในการตอบสนองต่อการแสดงออกของประชาชน ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ประเทศชาติที่มันแย่อยู่แล้ว ตกต่ำสู่ก้นเหวของคำครหาจากนานาประเทศ” กัณวีร์ กล่าว พร้อมขอร่วมประณามรัฐบาลกับผู้ร่วมอุดมการณ์ประชาธิปไตยทุกท่าน และเรียกร้องรัฐบาล โดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้คืนความยุติธรรมให้กับผู้ชุมนุมและปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมอย่างไม่มีเงื่อนไขโดยเร็ว