'เพื่อไทย' แนะ เร่งเจรจาแหล่งพลังงานพื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา ยิ่งจบเร็ว ราคาไฟฟ้า-ก๊าซ ยิ่งลดเร็ว

พิชัย รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ แนะ เร่งเจรจาให้จบแหล่งพลังงานพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา ชี้ เป็นประโยชน์ทั้งสองประเทศ ยิ่งจบเร็วราคาไฟฟ้า ราคาก๊าซยิ่งลดลงได้เร็ว และได้เงินเข้ารัฐช่วยกลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุ

 

6 ม.ค. 2566 วานนี้ (5 ม.ค. 2565) พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน และรองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามกระแสข่าวที่รัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ปิดห้องประชุม ครม. ลับ พร้อมมีข่าวว่าเป็นเรื่องของการเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา จึงอยากขอสนับสนุนให้มีการเร่งเจรจาให้จบโดยเร็ว

พิชัย ระบุ 8 เหตุผลที่ไทยควรเร่งดำเนินการเรื่องนี้

1) เป็นแหล่งพลังงานที่มีปริมาณมาก และเจรจาเฉพาะเรื่องแหล่งพลังงานโดยไม่พูดถึงเขตแดน

2) ก๊าซในอ่าวไทยและก๊าซจากประเทศเมียนมาร์ มีปริมาณที่ลดลง ทำให้ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ที่มีราคาสูง

3) ก๊าซจากพื้นที่ทับซ้อนจะทำให้ราคาไฟฟ้าที่แพงมหาโหดในปัจจุบันถูกลงได้

4)ในอนาคตน้ำมันและก๊าซอาจไม่มีค่าแล้วก็ได้เพราะโลกอาจจะไม่ใช้พลังงานจากเชื่อเพลิงฟอสซิลแล้ว

5) ก๊าซในพื้นที่ทับซ้อนนี้สามารถนำมาแยกก๊าซเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในธุรกิจปิโตรเคมีที่มีมูลค่ามหาศาลได้

6) รัฐยังได้รายได้มหาศาลจากค่าภาคหลวงในการขุดก๊าซ

7) รายได้น่าจะมากกว่าในอดีตเพราะเป็นพื้นที่ที่พิสูจน์แล้วว่ามีก๊าซ รายได้เหล่านี้รวมถึงภาษีจากธุรกิจต่อเนื่อง จะสามารถนำมาเป็นสวัสดิการของกลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุ

8 ) หลังจากเจรจาจบแล้วยังต้องใช้เวลา 2-7 ปีกว่าจะสามารถขุดก๊าซขึ้นมาใช้ได้

พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ

พรรคเพื่อไทยจึงอยากขอเสนอให้รัฐบาลได้เร่งเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชานให้จบโดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์กับทั้งสองประเทศในภาวะที่ราคาพลังงานได้พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยที่จะได้ประโยชน์มากกว่าเพราะมีประชากรมากกว่า และมีโรงแยกก๊าซถึง 6 โรง พร้อมธุรกิจปิโตรเคมีมูลค่าเป็นล้านล้านบาทรองรับแล้ว โดยจะทำรายได้ให้กับประเทศและมีเงินหมุนเวียน และมีการจ้างงานในธุรกิจต่อเนื่องอีกมาก ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

ที่สำคัญจะช่วยทำให้ราคาไฟฟ้าที่กำลังมีราคาพุ่งสูงลดลงได้ เนื่องจากไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซในอ่าวไทยและก๊าซจากประเทศเมียนมาร์มีราคาเพียงหน่วยละ 2-3 บาทเท่านั้น ในขณะที่ค่าไฟฟ้าใหม่พุ่งถึงหน่วยละ 5.33 บาท โดยค่าไฟฟ้าที่ลดลง จะส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มลดลงด้วย ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสินค้าลดลง เงินเฟ้อลดลง และ ยังเป็นการเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของไทยได้

พิชัย กล่าวว่า รัฐบาลที่ดีต้องกล้าตัดสินใจในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนโดยเร็ว การเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยขอสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อเศรษฐกิจไทยจะได้ฟื้นตัวกลับมาได้โดยเร็ว

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท