หน่วย 50(5) 'สตูล-สุรินทร์' เน้นสร้างความเข้าใจ ใช้กลไกคุ้มครองสิทธิ

หน่วย 50(5) จ.สตูล เน้นสร้างความเข้าใจ รพ. ประสานงานรับเรื่องร้องเรียนได้ดี ส่วน จ.สุรินทร์ ใช้กลไกคณะทำงานคุ้มครองสิทธิ สานความร่วมมือ รพ. แก้ปัญหาร้องเรียน 

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รายงานเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2566 ว่านางกัลยาทรรศน์ ติ้งหวัง ประธานหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ถููกร้องเรียน หรือ หน่วย 50(5) จ.สตูล กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินงานของหน่วยว่า ในปีนี้ หน่วย 50 (5) จ.สตูล เน้นการดำเนินงานใน 2-3 ประเด็นหลักๆ คือ 1.การประสานหน่วยบริการ โดยในพื้นที่ จ.สตูล มีทั้งหมด 7 อำเภอ ที่ผ่านมาหน่วยบริการใน 3 อำเภอ คือ อ.เมืองสตูล อ.ละงู และ อ.ท่าแพ ทำงานรับเรื่องร้องเรียนร่วมกับหน่วย 50(5) ได้ดี แต่ในส่วนของอีก 4 อำเภอที่เหลือยังมีความเข้าใจไม่ตรงกันอยู่บ้าง เช่น พยายามไกล่เกลี่ยปิดเคสร้องเรียนเอง บางครั้งผู้ป่วยเข้าข่ายได้รับเงินชดเชยตามมาตรา 41 ก็ไม่ได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ม.41 พิจารณา เป็นต้น ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมา ทางหน่วย 50 (5) จึงได้จัดเวทีรายอำเภอ เชิญหน่วยบริการตลอดจนเครือข่ายสุขภาพในพื้นที่ทั้งระดับอำเภอและตำบล มาร่วมพูดคุยว่าจะประสานการทำงานร่วมกันอย่างไร และได้ข้อสรุปว่าหลังจากนี้เมื่อเคสต่างๆ ทางหน่วย 50(5) จะรับเรื่องร้องเรียนแล้วช่วยประสานโรงพยาบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่อจากนี้ก็จะรอดูว่าสิ่งที่ได้พูดคุยกันไปนั้นมีความคืบหน้าอย่างไร 

ประเด็นที่ 2. การขยายการทำงานกับภาคีอื่นๆ โดยขณะนี้มีการหารือเพื่อตั้งศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนในพื้นที่ของกลุ่มชาวมานิ การตั้งศูนย์ประสานงานฯในพื้นที่ห่างไกล เช่น เกาะหลีเป๊ะ รวมทั้งการขยายเครือข่ายการทำงานไปกับเครือข่ายสภาองค์กรชุมชน เป็นต้น เช่นเดียวกับงานประชาสัมพันธ์สิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพ ก็มีการจัดกิจกรรมร่วมกับหน่วยของสภาองค์กรของผู้บริโภค ทำการประชาสัมพันธ์ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภครวมทั้งเรื่องการเข้าถึงสิทธิบัตรทอง ตลอดจนประสานงานกับกลุ่มบ้านมั่งคง ในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องสิทธิแก่ผู้ที่อยู่อาศัยในชุมชนติดป่าชายเลน รวมทั้งรับเรื่องร้องเรียนหรือให้คำปรึกษาต่างๆให้สามารถเข้าถึงสิทธิได้ 

ในส่วนของประเด็นที่ 3. การรับเรื่องร้องเรียน ทางหน่วย 50(5) ทำงานคู่กับหน่วยของสภาองค์กรของผู้บริโภค ทำให้สามารถขยายเครือข่ายศูนย์ประสานงานฯ ได้ครอบคลุมทุกตำบลใน จ.สตูล และมีการจัดโครงการพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายอย่างต่อเนื่องทุกปี ให้สามารถรับเรื่องร้องเรียนตลอดจนให้คำแนะนำในการเข้าถึงสิทธิแก่ประชาชนในพื้นที่ได้ ซึ่งหากในพื้นที่ส่งเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์มาที่หน่วย 50(5) ก็จะมีทีมงานช่วยกลั่นกรองและประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป 

“ตอนนี้เรามีศูนย์ประสานงานรับเรื่องร้องเรียนในทุกอำเภอ และที่ผ่านมาเราค่อยๆสร้างความเข้มแข็งเพื่อยกระดับให้เขาเป็นองค์กรระดับอำเภอให้ได้ ทั้งด้านอาคาร สถานที่ บุคลากร รวมทั้งผลักดันให้เครือข่ายระดับอำเภอลงไปสร้างกลไกแบบนี้ในระดับตำบล รวมทั้งสนับสนุนให้มีตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น เพื่อที่จะได้สามารถนำงบมาเสริมการทำงานในด้านการส่งเสริมป้องกันโรคและการเข้าถึงสิทธิได้มากขึ้น”นางกัลยาทรรศน์ กล่าว 

ด้าน น.ส.อนัญญา แสะหลี ผู้ประสานงานหน่วย 50(5) จ.สตูล กล่าวว่า ภาพรวมการร้องเรียนร้องทุกข์ในปีนี้ถือว่าค่อนข้างมาก ส่วนมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับโควิด-19 เช่นเดียวกับการขอคำแนะนำเรื่องสิทธิก็มีมากขึ้น โดยมีเรื่องร้องทุกข์ 64 เรื่อง ร้องเรียนมี 15 เรื่อง ในจำนวนนี้เป็นเคสที่ขอรับเงินเยียวยาเบื้องต้นตามมาตรา 41 ประมาณ 6 เคส เช่น โรงพยาบาลไม่ส่งต่อ ส่งต่อช้า ป่วยด้วยโรคอื่นไปโรงพยาบาลแล้วโรงพยาบาลตรวจพบว่ามีเชื้อโควิด-19 จึงให้กลับบ้าน พอกลับมาแล้วเกิดเสียชีวิต เป็นต้น 

หน่วย 50(5) จ.สุรินทร์ ใช้กลไกคณะทำงานคุ้มครองสิทธิ สานความร่วมมือ รพ. แก้ปัญหาร้องเรียน 

สปสช. รายงานเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2566 ว่านางมีนา ดวงราษี ที่ปรึกษาหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียนตามมาตรา 50(5) จ.สุรินทร์ หนึ่งในหน่วย 50(5) ที่มีการทำงานในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานของหน่วย 50(5) จ.สุรินทร์ พัฒนามาจากศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน ทำหน้าที่ตามบทบาทภารกิจที่กฎหมายกำหนด ทั้งการรับเรื่องร้องเรียน ให้คำปรึกษา ส่งเสริมการเข้าถึงการรักษาที่มีมาตรฐาน การประสานเครือข่ายในพื้นที่ และพัฒนาระบบบริการสุขภาพร่วมกับหน่วยบริการ 

นางมีนา กล่าวว่า จุดแข็งของหน่วยคือการแก้ไขปัญหาแก่ผู้รับบริการอย่างรวดเร็ว และการจัดการปัญหาแบบมีส่วนร่วมกับหน่วยบริการ โดยใช้กลไกคณะทำงานคุ้มครองสิทธิของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะมีตัวแทนจากหลายส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยมีผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขเป็นประธาน ผู้แทนหน่วย 50(5) เป็นเลขานุการ และตัวแทนจากโรงพยาบาลใน 17 อำเภอของ จ.สุรินทร์ เมื่อมีการร้องเรียนก็จะประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลเพื่อแก้ไขปัญหา  

สำหรับตัวเลขการรับเรื่องร้องเรียน หากเป็นข้อร้องเรียนขอรับเงินเยียวยาเบื้องต้นตามมาตรา 41 จะมีประมาณ 6-7 เคส/ปี แต่หากเป็นการให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิบัตรทอง เฉลี่ยประมาณ 5-6 ราย/เดือน และกรณีถูกเรียกเก็บเงินอีกประมาณ 2-3 ราย 

“การทำงานในช่วงแรกๆ ก็อาจมีความเข้าใจผิดหรือความไม่เข้าใจเรื่องการคุ้มครองสิทธิ เช่น เรื่องมาตรา 41 หน่วยบริการอาจมองว่าเป็นเรื่องไม่ดี ทำให้ผู้ให้บริการเสียกำลังใจ แต่เมื่อทำงานไป เรามีจุดยืนที่ชัดเจนว่าประชาชนต้องเข้าถึงสิทธิสุขภาพ มีการเชิญผู้ให้บริการมาพูดคุยให้เห็นภาพการทำงานของเรา ก็ทำให้เกิดการยอมรับและทำงานร่วมกันได้อย่างดีมากๆในปัจจุบัน”นางมีนา กล่าว 

อีกประเด็นที่หน่วย 50(5) ขับเคลื่อนได้ดีคือการส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลของบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน ซึ่งพบหลายเคสในพื้นที่ ทั้งเคยมีบัตรประชาชนแต่แต่หนีทหารทำให้ไม่ได้ไปต่ออายุบัตร หรือบางคนไม่เคยแจ้งเกิด ต้องไปตรวจ DNA เป็นต้น คนกลุ่มนี้มักจะพบตัวเมื่อมีปัญหาสุขภาพต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้ต้องอาศัยภาคีเครือข่ายจำนวนมาก ทั้งองค์กรบริหารส่วนจังหวัด ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ของโรงพยาบาล กระทรวงมหาดไทย ฯลฯ โดยที่ผ่านมาสามารถช่วยเหลือบุคคลผู้มีปัญหาสถานะทางทะเบียนให้ได้บัตรประชาชนแล้วประมาณ 10 ราย  

ในส่วนของการขยายงานเครือข่ายการให้ความรู้และคุ้มครองสิทธินั้น 17 อำเภอของ จ.สุรินทร์ มีบางอำเภอที่มีศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนเพียงตำบลเดียว แต่ก็มีบางอำเภอที่มีศูนย์ประสานงานฯในทุกตำบล ซึ่งปัญหาหลักในการขยายงานเพราะหาบุคลากรยาก เพราะบุคลากรส่วนมาเป็นจิตอาสา เข้ามาแล้วก็ออกทำให้บางพื้นที่ขาดบุคลากร ประกอบกับงบประมาณสนับสนุนจาก สปสช. ที่ยังน้อย อย่างไรก็ดี ในส่วนของตำบลที่มีศูนย์ประสานงานฯนั้น จะมีตัวแทนเข้าไปนั่งเป็นกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์ด้านการคุ้มครองสิทธิ รวมทั้งทีมระดับตำบลจะส่งเคสในพื้นที่ให้แก่หน่วย 50(5) ด้วย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท