Skip to main content
sharethis

ศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องคดีอรรถวิชช์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ร้องศาลปกครองเพิกถอนประกาศ กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งปี'66 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร สกลนคร และสุโขทัย ศาลชี้เป็นประกาศที่ชอบด้วยกฎหมายตามรัฐธรรมนูญแล้ว เดินหน้าสู่การแบ่งเขตแบบเดิมตามที่ กกต. กำหนด

 

7 เม.ย. 2566 ศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องคดีอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ร้องศาลปกครองเพิกถอนประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ปี'66 กรุงเทพมหานคร สกลนคร และสุโขทัย ศาลชี้เป็นประกาศที่ชอบด้วยกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (5)

iLaw รายงานว่า จำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร สกลนคร และสุโขทัย มีจำนวนไม่มากหรือไม่น้อย กว่าร้อยละ 10 ของค่าเฉลี่ยจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง 162,766 คน ต่อจำนวน ส.ส.หนึ่ง คน การที่ กกต.ออกประกาศ แบ่งเขตเลือกตั้ง ในส่วนของกรุงเทพมหานคร 33 เขตเลือกตั้ง สกลนคร เจ็ดเขตเลือกตั้ง และสุโขทัย สี่เขตเลือกตั้ง จึงเป็นการประกาศที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (5) ที่กำหนดว่า จังหวัดใดมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เกินหนึ่งคน ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้งเท่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมี โดยต้องแบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกัน และต้องจัดให้มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตใกล้เคียงกัน จึงพิพากษายกฟ้อง

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า

ผู้ร้องในคดีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ได้แก่ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า, พัฒนา สัพโส ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดสกลนคร, วิรัตน์ วิริยะพงษ์ และพัฒ ตั้งเบญจผล ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดสุโขทัย โดยจุดเริ่มต้นของคดีเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2566 วันที่ กกต. ออกประกาศดังกล่าว อรรถวิชช์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ขอให้พิจารณาวิธีการชั่วคราวโดยเร่งด่วน เพื่อขอให้เพิกถอนประกาศ กกต. เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 27 (1) กำหนดหลักการแบ่งเขต ใจความสำคัญคือ ให้รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีอำเภอหลักอยู่ในเขตเลือกตั้ง

แต่จากการแบ่งเขตกรุงเทพมหานครที่ออกมา มีการรวมเฉพาะแขวง ไม่มีเขต (อำเภอ) หลัก มาเป็นเขตเลือกตั้งใหม่ เช่นเขตเลือกตั้งที่ 8 ประกอบด้วย แขวงทุ่งสองห้องของเขตหลักสี่ และแขวงลาดยาว แขวงจตุจักร แขวงจอมพล ของเขตจตุจักร , เขตเลือกตั้งที่ 9 ประกอบด้วย แขวงอนุสาวรีย์ของเขตบางเขน และแขวงจันทรเกษม แขวงเสนานิคม ของเขตจตุจักร และแขวงตลาดบางเขนของเขตหลักสี่ และยังมีเขตเลือกตั้งอื่นๆ ที่เป็นการรวมเฉพาะแขวงโดยไม่มีเขตหลักถึง 13 เขตเลือกตั้ง ได้แก่เขตเลือกตั้งที่ 8,9,12,13,17,18,19,21,26,27,28,29, และ 30 ซึ่งเป็นการรวมแขวงต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง ไม่ได้รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง ขัดต่อหลักเกณฑ์ตามกฎหมายเลือกตั้ง

อรรถวิชช์ ระบุว่า การรวมแขวงข้ามเขตแบบนี้ เป็นการกระทบสิทธิประชาชน ทำให้เกิดความสับสนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง การแบ่งเจตเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร 33 เขตในการเลือกตั้ง 2566 นี้ เหมือนการแบ่งเขตดั้งเดิมเพียงสี่เขตเลือกตั้งเท่านั้น

ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว การแบ่งเขตเลือกตั้ง 2566 จะเดินหน้าสู่การแบ่งเขตแบบเดิมตามที่กกต. เคาะไว้ โดยวันที่ 9 เม.ย. 2566 นี้ จะเป็นวันสุดท้ายที่เปิดระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต และเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร วันที่ 7 พ.ค. 2566 เป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า และวันที่ 14 พ.ค. 2566 เป็นวันเลือกตั้งทั่วไป

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net