Skip to main content
sharethis

ชุมชนกลางกรุงเทพฯ กว่า 1,000 ครัวเรือน รวมรายชื่อยื่นสภาองค์กรของผู้บริโภค เข้าช่วยตรวจสอบบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยแคบย่านประดิพัทธ์ กระทบความเป็นอยู่ชุมชนดั้งเดิม ส่อผิดกฎหมาย พ.ร.บ ควบคุมอาคารหรือไม่ ขณะที่สภาผู้บริโภคเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ 30 ส.ค. นี้

27 ส.ค. 2566 เว็บไซต์สภาองค์กรของผู้บริโภค รายงานว่าปัญหาการสร้างคอนโดในเขตกลางเมืองกรุงเทพมหานคร เริ่มผลส่งผกระทบต่อชุมชนที่อาศัยอยู่ดั้งเดิม อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องกรณีการก่อสร้างโครงการไม่ถูกกฎหมายมีคดีฟ้องร้องจนศาลส่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง ดังเช่นกรณีโครงการแอชตันอโศกบนถนนสุขุมวิท 21 ที่มีประเด็นเรื่องทางเข้า – ออก ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกบ้านรวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคที่อยู่อาศัยในโครงการดังกล่าวด้วย

สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า ปัญหาการพัฒนาในเมืองใหญ่หลาย ๆ เมืองทั่วโลก รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำลังเผชิญกับปัญหาการพัฒนาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ชุมชน ซึ่งต้องหาแนวทางที่จะทำให้เมืองเป็นมิตรกับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะปัญหาการก่อสร้างคอนโดสูงในซอยแคบซึ่งอาจไปรุกล้ำหรือละเมิดสิทธิผู้อยู่อาศัยดั้งเดิม

ทั้งนี้ข้อมูลจากคณะอนุกรรมการด้านอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย สภาผู้บริโภค พบว่าการก่อสร้างอาคารสูงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่เป็นปัญหาการบังคับใช้กฎหมายการพัฒนาเมืองหลวงตามผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2556 ที่รัฐละเลยหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ขั้นตอนการอนุญาต

รวมถึงการตรวจสอบที่ไม่รัดกุม จนทำให้ผู้ประกอบการสามารถก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ที่ผิดกฎหมาย หรือมีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่เอื้อผู้ประกอบการ แต่กลับสร้างผลกระทบต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมในมิติต่าง ๆ ที่ล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนหรือผู้บริโภคโดยรวมอย่างเห็นได้ชัด ดังเช่น กรณีอาคารโรงแรมดิเอทัส (The Aetas) ในซอยร่วมฤดี โครงการแอชตัน อโศก (Ashton Asoke) ถนนสุขุมวิท 21 และโครงการคอนโดรีเจ้นท์ โฮม บางซ่อน (กำแพงบางซ่อน) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้แทนชุมชนที่เดือดร้อนจากการสร้างคอนโดของบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ก่อสร้างคอนโดฯ สูงในพื้นที่แคบ ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในชุมชนใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน ประกอบด้วยชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการเอส – ประดิพัทธ์ (ประดิพัทธ์ ซอย 23) โครงการเอส – รัชดา (รัชดา ซอย 44) และโครงการเดอะมูฟ (พหลโยธิน 37)

ซึ่งทั้ง 3 โครงการเป็นปัญหาการก่อสร้างคอนโดสูงในซอยที่มีระยะห่างไม่ถึง 6 เมตร ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ ควบคุมอาคาร และการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่มีจุดบกพร่อมไม่ได้ลงสำรวจพื้นที่จริงว่าการก่อสร้างกระทบต่อความเป็นอยู่ของชุมชนเดิม โดยมีผู้ได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 1,000 ครัวเรือน และกลุ่มผู้เสียหายได้รวบรวมรายชื่อเสนอให้สภาผู้บริโภคลงตรวจสอบพื้นที่และช่วยเหลือต่อไป

ทิววัฒน์ ภัทรกุลวณิชย์ ตัวแทนผู้เสียหายจากโครงการเอส – ประดิพัทธ์ เล่าถึงผลกระทบที่ได้รับจากการก่อสร้างโครงการดังกล่าวว่า ตัวแทนชุมชนได้ทำหนังสือไปถึงสำนักงานเขตพญาไทเพื่อให้ระงับโครงการและศึกษารายงานผลกระทบใหม่หลายครั้ง เนื่องจากเห็นว่าหลายกระบวนการมีข้อบกพร่อง ไม่โปร่งใสเพียงพอ แต่ก็ไม่ได้รับการทบทวนจนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านการอนุมัติและอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างแล้ว

ทั้งนี้ ในวันที่ 30 ส.ค. 2566 ทีมเจ้าหน้าที่ของสภาผู้บริโภค และเจ้าหน้าที่เขต กทม. จะร่วมกันลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อนของชาวบ้านและรังวัดถนนว่าทั้ง 3 โครงการก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net